
ได้ฟังบทสัมภาษณ์ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี เรื่องที่ถูก อดีตรอง ผบ.ตร.คนดัง ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี
ฐานกระทำความผิดทางอาญา มาตรา 157
ทั้งการถูกกล่าวหา สั่งพักราชการหรือออกจากราชการไว้ก่อนกลุ่มตำรวจที่ถูกกล่าวหาพัวพันเว็บพนัน และละเลยไม่ดำเนินการกับตำรวจหลายรายที่ถูกกล่าวหากระทำผิดอาญาหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน
แต่ ผบ.ต่าย เลือกที่จะไม่ตอบโต้ เลือกที่จะไม่ต่อความยาว ใช้วิธีนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว เพื่อรักษาไว้ซึ่งองค์กรตำรวจ
นี่แหละ...วุฒิภาวะผู้นำ
"ผมไม่อยากไปตอบโต้ หรือทำอะไรที่ทำให้ตำรวจและประชาชนเขาเอือมระอา กับเรื่องลักษณะเช่นนี้ในวงการตำรวจอีก หากผมคิดหรือตัดสินใจที่จะทำอะไรในบางสิ่งบางอย่าง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์ หรือกระทบต่อความรู้สึกของความเป็นพี่หรือเป็นน้อง แต่ความเป็นผู้นำองค์กรไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ทุกอย่างก็อยากทำให้ตำรวจทุกคนหันหน้ามาเข้าสู่ในทิศทางของการทำงานและการปฏิบัติตัวที่ดี เพื่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ เพื่อองค์กรและความรู้สึกที่ให้ประชาชนมั่นใจและศรัทธาเรา หากการตัดสินใจในการทำอะไรลงไป ทำให้เกิดความไม่พอใจหรือมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น ก็พร้อมที่จะรับสถานการณ์เช่นนั้นอยู่แล้ว"
เป็นสิ่งที่ ผบ.ต่าย บอกชัดเจน ถูกต้อง เหมาะสมต่อการเป็น
ผู้นำองค์กรตำรวจ!!!
ภาพลักษณ์ "ตำรวจ" ในสายตาประชาชน ติดลบมาต่อเนื่อง ยิ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีความขัดแย้ง มีการช่วงชิงตำแหน่ง ช่วงชิงอำนาจ ถึงขั้นสาวไส้ ขุดรากเน่ากันและกันออกมาประจาน
กลายเป็นองค์กรเน่าเฟะ องค์กรแสวงหาประโยชน์ ไม่สมกับคำว่า
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์!!!
แม้แต่ตอนนี้ที่มีการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตั้งฐานหลอกคนไทยสูญเสียทรัพย์สินมหาศาล สูญเสียชีวิตจำนวนมาก ก็ยังมี "ตำรวจ" เกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
จนต้องมีคำสั่งเด้ง คำสั่งย้ายออกจากพื้นที่
มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงการกระทำผิด ในการดำเนินการทางวินัยและอาญา
"ผบ.ต่าย" คิดถูกแล้วที่เลือก "รักษาองค์กร" ตามอุดมคติตำรวจ
"เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดำรงตนในยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว

