
มาตรฐานสากลมีหลายด้านที่ออกมาเพื่อกำกับดูแลให้สินค้าหรือบริการเป็นไปตามระเบียบทิศทางเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจัดการและดูแลภาพรวม รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคด้วย และในโลกนี้เองก็มีหลากหลายมาตรฐานที่ใช้กำหนดคุณภาพสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างยานยนต์ ก่อสร้าง การแพทย์ หรือบริการอย่างโรงแรม ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ซึ่งในปีที่ผ่านมา สถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand ภายใต้การดูแลของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จัดงานประชุมใหญ่ขึ้นมาเพื่อให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว
และผลักดันให้เกิดการเดินหน้าภายใต้แนวคิด “มาตรฐานสากล GS1 เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืน ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภค” เพราะเห็นว่ามีความสำคัญและมีส่วนช่วยในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้วยการนำระบบมาตรฐานสากล GS1 มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อความถูกต้อง โปร่งใส สามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ลดต้นทุน บริหารจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการยกระดับมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในสากล
โดย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. เห็นว่า การนำมาตรฐานสากล GS1 มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในส่วนของ ส.อ.ท. เรามุ่งมั่นที่จะเป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้มาตรฐานสากล GS1 อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมไทย และเชื่อมั่นว่าการบูรณาการมาตรฐานสากล GS1 กับนโยบายและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทยนั้น จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามความท้าทายที่เกิดขึ้นและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
โดย GS1 Thailand ดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า 36 ปี เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ส.อ.ท. มีภารกิจหลักเป็นนายทะเบียนออกเลขหมายบาร์โค้ดตามมาตรฐานสากล GS1 ประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และมีหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมการนำระบบมาตรฐานสากล GS1 ที่มีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนในการบ่งชี้สินค้า สินทรัพย์ และตำแหน่งที่ตั้งอย่างเป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดซัพพลายเชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติ
มาตรฐานสากล GS1 เป็นมาตรฐานที่มีการใช้งานแพร่หลาย สามารถใช้งานได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในยุคดิจิทัล โดย คมสัน เหล่าศิลปเจริญ รองประธาน ส.อ.ท. และประธาน GS1 Thailand เปิดเผยว่า การประชุมใหญ่ในครั้งนั้นเพื่อรายงานผลการดำเนินงานต่างๆ ที่สำคัญ อาทิ 1.โครงการส่งเสริมบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและยกระดับมาตรฐานสินค้าไทย ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ชลบุรี กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี และสงขลา
2.โครงการความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณภาพบาร์โค้ดให้กับผู้ค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลัง เพื่อช่วยให้การจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 3.โครงการส่งเสริมการใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าปลีก 4.โครงการพัฒนารหัสทะเบียนยาและรหัสสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับยาในประเทศไทย และการศึกษาความเป็นไปได้และเก็บความต้องการของผู้ใช้งานสำหรับพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับและติดตามการกระจายผลิตภัณฑ์สุขภาพด้วยมาตรฐานสากล GS1
ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีผู้กำหนดมาตรฐานที่สามารถกำกับดูแล และให้ความมั่นใจได้กับหลายอุตสาหกรรม และไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ยังเป็นที่ยอมรับอีก 150 ประเทศทั่วโลก.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม
ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด

