
นับถอยหลังอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ คำสั่งแต่งตั้งตำรวจ ระดับ "นายพัน" ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 จะได้ฤกษ์คลอดออกมาตามไทม์ไลน์ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่กำหนดเอาไว้ให้ทุกหน่วยประกาศและเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันในวันที่ 28 ก.พ. 68 คำสั่งมีผลใช้บังคับใน 3 มี.ค. 68 โดยผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งต้องเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ และรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดใหม่ภายใน 7 มี.ค. 68 โดยช่วงต้นสัปดาห์นี้ วันที่ 24 หรือ 25 ก.พ.จะเป็นคิวการจัดทำบัญชีหน่วยงานในสังกัด สง.ผบ.ตร. บอร์ด
แต่งตั้งที่มี "ผบ.ต่าย" เป็นประธานร่วมกับ รองผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณารายชื่อตามข้อมูลการนำเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณา ซึ่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติกำหนด ให้ผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ต้องจัดทำผลการปฏิบัติงานส่งขึ้นมาประกอบการพิจารณาแต่งตั้งด้วย ๐
น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซาก เพราะนโยบายระดับรัฐบาล นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ก็ประกาศเอาจริงกับการปราบปรามยาเสพติด แถม พ่อนายกฯ-ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีใดก็ประกาศถอนรากถอนโคนยาเสพติดให้หมดไป แถมเมื่อวัน 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ “ตาต้าท่าขี้เหล็ก” ขนยาเสพติดจากภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยจับกุมได้ขณะขนไอซ์ 2,464 กิโลกรัม จากภาคเหนือมายัง จ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่ารายชื่อผู้ที่มาร่วมการแถลงข่าว ทั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานอนุกรรมการป้องกัน ปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ต่างล้วนเลือดเนื้อเชื้อไข "สีกากี" กันทั้งสิ้น หากทุกหน่วย หากทุกฝ่ายร่วมมือกันจริงๆ พ่อค้ายาเสพติดไม่คณนามือแน่นอน ๐
สดุดี 2 ตำรวจกล้าแห่งด้ามขวาน ที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จำนวน 2 นาย เมื่อเวลา 23.25 น. วันที่ 19 ก.พ. 2568 ขณะที่ จ.ส.ต.เดโช เขียวแก้ว ผบ.หมู่ (ป.) และ ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่ชุดสายตรวจ 20 ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบโดยรถจักรยานยนต์สายตรวจ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการมั่วสุมยาเสพติด ในซอยหลังสถานตรวจสภาพรถยะรัง หมู่ 3 อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อถึงสถานที่เกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนลอบยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย เป็นเหตุให้ จ.ส.ต.เดโช และ ส.ต.ต.ทรงชัยเสียชีวิต โดย ผบ.ต่าย แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจทั้ง 2 นาย พร้อมสั่งดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ จ.ส.ต.เดโชจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2,460,960 บาท พิจารณาความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศเป็น “พ.ต.อ.” และ ส.ต.ต.ทรงชัย ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2,289,540 บาท พิจารณาความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศเป็น “ร.ต.อ.” ๐
“แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จับมือกับ พล.จ.เนียะ วงษ์ ผบ.พล.น้อย.ร.42 พร้อมพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจต่อการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม อันจะทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อกัน ในช่วงตรวจภูมิประเทศและแนวการวางกำลังที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวะการร่วมคณะกับผู้เข้ารับการอบรม ในหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้มอบของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล และมอบพระประธานทรงเครื่องจักรพรรดิให้แก่หน่วยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจ ขณะที่ระดับรัฐบาลมีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วระหว่าง พล.อ.เตีย เซ็ย ฮา รมว.กลาโหม ที่สายตรงถึง "ภูมิธรรม เวชยชัย" รมว.กลาโหมของไทย โดยมี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีนั่งอยู่ข้างๆ แต่ยืนยันว่างานนี้ไม่ได้มีการขอโทษไทย แต่ที่เสียใจคือเกิดเหตุการณ์ความเข้าใจผิดตามภาพข่าวที่ออกมา เพราะในช่วงนี้รัฐบาลกัมพูชาเองก็เจอทัวร์ลงในเรื่องที่ยอมให้ไทยมากเกินไป จึงต้องขอให้ฝ่ายไทยแก้ข่าวให้หน่อย ไม่เช่นนั้นกระแสตีกลับ ไม่เป็นผลดีต่อทางรัฐบาลพนมเปญแน่นอน
เสธ.ต๊อด-พล.ต.วินธัย สุวารี รีเทิร์นกลับมานั่งในตำแหน่ง "โฆษกกองทัพบก" ประเดิมงานในสัปดาห์แรกแจงเรื่องการซ้อมรบ ยิงปืนใหญ่ทำให้เกิดไฟป่าในภารเหนือ และการสรุปผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกที่มี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน โดยมีทีมงานเดิมทำหน้าที่ซัพพอร์ตข้อมูลให้งานออกมาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ตำแหน่งโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ก็มีการแต่งตั้งให้ พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ เป็นโฆษก กอ.รมน. แทน โดยมี พ.อ.บรรจบ แข็งขัน เป็นรองโฆษก กอ.รมน. พ.อ.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส เป็นรองโฆษก กอ.รมน. นางทศยาพร ดิเรกวุฒิ เป็นผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน.และ ร.ท.หญิง ณัฐสินี จิตรกรปัญญา เป็นผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน.
เป็นที่แน่ชัดว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหม กองทัพเรือ ตั้งงบฯ ผูกพันในการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูง วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่โครงการเรือดำน้ำถูก “แขวน” ไปอีกปี เป็นการอนุมัติในช่วงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่รัฐบาลลุงเหมือนโครงการเรือดำน้ำ พูดกันให้แซ่ดว่า เป็นไปได้ยากที่โครงการเรือดำน้ำจะเดินหน้าต่อ เพราะในยุคที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย" เป็น รมว.กลาโหม หนังสือที่ถามย้ำไปยังเยอรมนีว่าการซื้อเครื่องยนต์มาติดตั้งเองสามารถทำได้หรือไม่ แต่คำตอบก็ยังคงเงียบหายไปกับสายลม ขณะที่วันจันทร์นี้ 24 นี้ กมธ.ทหาร และ กมธ.ติดตามงบประมาณ จะเดินทางไปที่กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อไปติดตามความคืบหน้าของการจัดซื้อเรือดำน้ำ นำโดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งแน่นอนว่า “บิ๊กแมว” พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ไฟเขียวให้ กมธ.เข้าไปศึกษาดูงานได้แบบไม่ปิดลับ เพื่อชี้แจงว่าที่ผ่านมา ทร.เตรียมการเรื่องเรือดำน้ำไปถึงไหนแล้ว หลังจากจ่ายเงินไปแล้วร่วม 7 พันล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


