
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” จับตาปมไล่ทุบเครือข่ายสีน้ำเงิน หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและกลุ่มสว.สีน้ำเงินไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยเสียรังวัดทางการเมือง ด้วยการจงใจทำสภาล่มถึงสองวันติด เพื่อไม่ให้มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเกรงว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะต้องทำประชามติก่อนการแก้ไข
ในส่วนของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ถูกขุดเรื่องปมสนามกอล์ฟบริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในข้อกฎหมายนั้นไม่สามารถทำอะไรได้
แต่ในทางการเมืองก็ถูกลากขึ้นมาหวังตีให้ฉ่ำ ลดอำนาจการต่อรอง เช่นเดียวกับกรณีดีเอสไอกำลังจะนำเรื่องคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน 22 คน ในวันที่ 25 ก.พ. จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 หรือ 15 เสียงเป็นต้นไป ซึ่งต้องดูว่าคณะกรรมการฯ จะกล้าโหวตหรือไม่ เพราะหลายคนมองเป็นเรื่องเกมการเมือง ที่มองว่าเป็นการข่มขู่และต้องการสลายขั้ว สว.สีน้ำเงินให้กลายเป็น สว.สีแดง ที่อาจมีผลบวกเรื่องเกมการเมืองในสภาสูง รวมถึงจัดสรรอำนาจในองค์กรอิสระ ที่ไม่อยากให้ถูกขั้วสีน้ำเงินยึดแต่เพียงผู้เดียว
นอกจากนี้ยังมีคำขู่ของบรรดา สว. โดยรองประธานวุฒิสภาฯ คนที่ 1 ถึงกับประกาศว่าพร้อมจะดำเนินคดีผู้ที่ทำให้เสียหาย ในมาตรา 157 ขณะที่รัฐมนตรียุติธรรมที่นำเรื่องนี้เข้ามาก็จะยื่นถอดถอนต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นตำแหน่ง
เช่นเดียวกับคำถามว่าที่ว่า ดีเอสไอมีอำนาจรับพิจารณาหรือไม่ เพราะเรื่องควรเป็นของ กกต. ที่หลายคนมองว่ากำลังดองเรื่อง
เนื่องจากการไล่บี้ของอีเอสไอคงไม่สามารถล้มล้างฝ่ายนิติบัญญัติ หรือทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ เพราะอำนาจอยู่ที่ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากกรณีรับเป็นคดีพิเศษ ก็หวังเพื่อข่มขู่ให้ย้ายขั้ว เพราะสุดท้ายหากตัดสินว่ามีความผิดองค์กรอาชญากรรม-อั้งยี่-ฟอกเงิน ก็ต้องไปที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง และส่งไปที่ศาลอาญา และต่อสู้กันอีก 3 ศาล กินเวลาเป็น 10 ปี
๐ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กล่าวถึงการพิจารณารับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ ว่า
“ผมได้มีการเสนอแล้วว่า งานนี้เราไม่ได้เอาเรื่องการเมืองมากลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เป็นไปตามข้อเท็จจริง ก็น่าจะไม่มีปัญหาอื่นมาก เพราะเป็นกระบวนการทางกฎหมาย ที่มีเรื่องเข้ามาก็ดำเนินการ”
เมื่อถามว่า หากรับคดีไปแล้วจะกลายเป็นชนวนเหตุ เพราะ สว.ที่ได้รับเลือกไปแล้วก็ตั้งแง่ว่าเป็นเรื่องการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง ตนยืนยันในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ก็เรียกประชุมไปตามข้อเสนอที่มีเหตุและผล เมื่อมีคนมาเสนอว่ามีปัญหาในทางกฎหมาย เราไม่เรียกก็คงไม่ได้
แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ถ้าไม่ชัดเจน ไม่ถึง ก็คงรับเป็นคดีพิเศษไม่ได้ แต่ถ้ามันชัดเจนก็ไม่มีสิทธิ์ไปปกป้องอะไร เพราะเป็นไปตามกระบวนการ และไม่ได้จบแค่นี้ มันยังต้องมีการสืบสวนสอบสวนพยาน และการได้เป็นคดีพิเศษต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการคดีพิเศษ
“จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน มองเรื่องนี้ว่า บอร์ดคดีพิเศษจะรับหรือจะยื้อคดี สว.อั้งยี่-ซ่องโจร จึงเป็นภาพสะท้อนการต่อรองทางการเมืองกันชัดเจน ยิ่งการฟ้อง สว.ตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ยังแสดงถึงเกมการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการทุบบางพรรคให้ยอมในพื้นที่ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของพรรคแกนนำ
ถ้า สว.ทำผิดจริงตามข้อหาของดีเอสไอแล้ว คนติดคุกต้องเป็น กกต. เพราะมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้าไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมแล้ว ไปรับรองได้อย่างไง ดังนั้นความผิดอยู่ที่ กกต. เพราะผลการเลือกตั้งของ กกต.นำพาไปสู่คดีอั้งยี่-ซ่องโจรได้ไง
“ประเด็นหลักคือ จะไปถึงขั้นโมฆะทั้ง 200 สว.หรือไม่ ถ้าโมฆะ สว.ชุดเก่าอาจกลับมาทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะมี สว.ใหม่หรือไม่ ดังนั้น 25 ก.พ.นี้ นายภูมิธรรมจะกล้าสั่งให้นำเรื่องดำเนินคดีเข้าบอร์ดคดีพิเศษหรือไม่” นายจตุพรกล่าว.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


