
ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net เปิดฉากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล "แพทองธาร ชินวัตร" จัดหนักจัดเต็มรุมถล่มแค่นายกฯ อิ๊งค์คนเดียว "....ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรงทั้งในด้านการเมือง
การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิบไตยระบบรัฐสภา เจตนา ตลอดจนปล่อยปละละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการ อันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ" หลายข้อหาที่ฝ่ายค้านตราหน้านายกฯ อิ๊งค์หนักหน่วงไม่น้อย
๐ นอกจาก "แพทองโพย" จะต้องรับศึกหนักครั้งแรก ยังเป็นการประเดิมแมตช์สำคัญในการนำทัพซักฟอกใหญ่ของ "เท้งเต้ง" ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เช่นกัน เริ่มต้นสับขาหลอกหมายหัวไว้ 10 คน สุดท้ายเปลี่ยนแผน ยอมโละทิ้ง 9 รมต. งัดกลยุทธ์เสี้ยมให้แตก หวังฉกฉวยสถานการณ์ร้าวฉานระหว่างแดงกับน้ำเงิน วัดใจ "ภูมิใจขวาง" ของเสี่ยหนูกับครูใหญ่บุรีรัมย์ ในการลงมติโหวตไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ คราวนี้เพื่อไทย-ภูมิใจไทยต้องพักรบกันชั่วคราว หยุดเล่นบทตบจูบไปก่อนอย่างน้อย 1 เดือน จนกว่าจะเสร็จศึกซักฟอก ไม่ทันไร "อิ๊งค์" ก็ออดอ้อนแล้วว่าเป็นมือใหม่ ดักคอล่วงหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ปล่อยลอยแพ พร้อมส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้ว ฝั่ง "เสี่ยหนู" ก็รับลูกทัวควัน ไม่ต้องขอความช่วยเหลือ เพราะเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะซัพพอร์ตหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว แถมหยอดกลับหวานเจี๊ยบ "ไม่มีรอยร้าว มีแต่รอยรัก"
๐ เช็กเสียงสภาผู้แทนราษฎรเวลานี้มี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด 493 คน แบ่งเป็นรัฐบาล 321 เสียง ประกอบด้วย เพื่อไทย 142 คน ภูมิใจไทย 69 คน (ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 2 คน) รวมไทยสร้างชาติ 36 คน ประชาธิปัตย์ 25 คน กล้าธรรม 24 คน ชาติไทยพัฒนา 10 ประชาชาติ 9 คน ชาติพัฒนา 3 คน ไทรวมพลัง 2 คน ประชาธิปไตยใหม่ 1 คน ส่วนฝ่ายค้านมี 172 เสียง ได้แก่ พรรคประชาชน 143 คน พลังประชารัฐ 20 คน ไทยสร้างไทย 6 คน เป็นธรรม 1 คน เสรีรวมไทย 1 คน ไทยก้าวหน้า 1 คน โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ระบุไว้ว่า มติไม่ไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หมายความว่าจะส่งผลต่อเก้าอี้นายกฯ ได้ก็ต่อเมื่อต้องโหวตไม่ไว้วางใจ 247 เสียงขึ้นไป ลองคิดเล่นๆ ถ้าพรรค "เสี่ยหนู" งดออกเสียง ก็หายไป 69 เสียง เสียงไว้วางใจรัฐบาลก็ยังมากกว่าอยู่ดี 252 เสียง ตราบใดดีลผลประโยชน์ลงตัว แม้จะตบตีกันบ้างก็ตาม น่าจะยังไม่ถึงเวลาลอยแพสองพ่อลูกชินวัตร ยกเว้นมีปัจจัยสำคัญสอดแทรกช่วงนั้นพอดิบพอดี อย่างคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 ชุดของ ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ที่คาดว่าจะสรุปปลายเดือน มี.ค. ณ เวลานั้น อะไรก็ไม่แน่เหมือนกัน.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

