ฉีกหน้ากากอเมริกา

ข่าวใหญ่สัปดาห์ก่อน...

เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเผยแพร่แถลงการณ์ของ "มาร์โก รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ

เนื้อหาดุเดือดครับ

ไม่ออกวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐของไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์ไปจีน

เนื้อหาคือ...

"...ผมขอประกาศนโยบายการจำกัดการออกวีซ่าใหม่ที่จะมีผลกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติในปัจจุบันหรือในอดีตที่รับผิดชอบ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์ หรือสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ หรือศาสนาอื่นที่มีปัญหาการคุ้มครองไปยังจีน

เรามุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับความพยายามของจีนในการกดดันรัฐบาลต่างๆ ให้ส่งชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่นๆ กลับไปยังจีน ซึ่งพวกเขาจะถูกทรมานและถูกบังคับให้หายตัว

ผมจะดำเนินการนโยบายนี้ทันที โดยการดำเนินการขั้นตอนเพื่อกำหนดข้อจำกัดในการออกวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันและในอดีตจากรัฐบาลไทย ที่รับผิดชอบหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์ ๔๐ คนจากประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์

ในแง่ของการกระทำฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่จีนได้กระทำต่อชาวอุยกูร์มาอย่างยาวนาน เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกไม่บังคับส่งชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่นๆ กลับไปยังจีน

นโยบายการจำกัดวีซ่านี้อยู่ภายใต้มาตรา 212(a)(3)(C) ของกฎหมายการเข้าเมืองและสัญชาติ ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจำกัดวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติในปัจจุบันหรือในอดีตที่รับผิดชอบ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งชาวอุยกูร์หรือสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ หรือศาสนาอื่นที่มีปัญหาการคุ้มครองกลับไปยังจีน บุคคลในครอบครัวบางคนของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านี้อาจถูกบังคับให้ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน..."

ครับ...ก็เป็นไปตามสูตรการเมืองอเมริกา

อะไรที่เกี่ยวกับจีน หรือใครไปมีทีท่าสนับสนุนจีน อเมริกาจะออกลูกนักเลงโต โต้ตอบกลับทันที

เจ้าหน้าที่รัฐของไทยมีใครบ้างที่อาจเข้าอเมริกาไม่ได้

กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประมาณนี้

แต่พรรคส้มเอาไปใส่ไข่ว่า เป็นการลงดาบเทียบเท่ารัฐบาลจากการรัฐประหาร

ก็ว่ากันไป...

มีอีกข่าวจากอเมริกา เนื้อหาครือกัน 

เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ที่ผ่านมา รอยเตอร์และนิวยอร์กไทม์ส อ้างแหล่งข่าวในคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ารัฐบาลกำลังนำคำสั่งห้ามเดินทางเข้าประเทศ สำหรับพลเมืองของ ๗ ประเทศมุสลิม ซึ่งทรัมป์เคยประกาศใช้มาแล้วในสมัยแรกเมื่อปี ๒๕๖๐ 

กลับมาบังคับใช้อีกครั้งในเร็วๆ นี้

พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะแบ่งกลุ่มประเทศที่ “น่าจับตา” ออกเป็นสามกลุ่ม

คือกลุ่มประเทศสีแดง

สีส้ม

และสีเหลือง

ประเทศสีแดง หรือ เรดคันทรี คือกลุ่มประเทศที่พลเมืองไม่สามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้

ในสมัยทรัมป์ ๑ นั้น ประเทศสีแดงประกอบด้วย  อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย และเยเมน

ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการแบนพลเมืองจากประเทศใดบ้าง

แต่มีการพูดถึงอัฟกานิสถาน ว่าจะถูกบรรจุเข้ากลุ่มเรดคันทรี ด้วย

กระแสข่าวนี้ ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ชาวอัฟกันหลายหมื่นคนที่ได้รับการอนุมัติให้ตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ

ในฐานะผู้ลี้ภัย!

รวมถึงผู้ที่ถือวีซ่าพิเศษ (Special Immigrant Visa-SIV) จากการทำงานช่วยรัฐบาลสหรัฐฯ ในสงครามอัฟกานิสถาน

จึงเสี่ยงต่อการถูกกลุ่มตอลิบานแก้แค้น

กลุ่มประเทศสีส้ม หมายถึงประเทศที่จะมีกระบวนการตรวจสอบวีซ่าเข้าประเทศอย่างเข้มงวดมากขึ้น และมีข้อจำกัดมากขึ้น

เช่นจะอนุญาตเฉพาะวีซ่านักธุรกิจ แต่จะปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าอื่นๆ สำหรับผู้ประสงค์จะอพยพเข้ามาถาวร

ส่วนกลุ่มประเทศสีเหลืองนั้น หมายถึงกลุ่มที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้เวลา ๖๐ วันในการเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยและขั้นตอนการคัดกรอง

มิฉะนั้นจะถูกยกระดับขึ้นไปสู่กลุ่มสีส้ม หรือสีแดงต่อไป

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า เขาจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบนักเดินทางและผู้อพยพให้มากขึ้น

โดยได้ลงนามคำสั่งบริหาร สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงความมั่นคงภายใน, หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด สร้างรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงและปลอดภัย ขึ้นมา

และจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๒ มีนาคมที่ผ่านมา

เห็นอะไรใน ๒ ข่าวนี้บ้างครับ

อเมริการักมุสลิมอุยกูร์สุดหัวใจ ยอมไม่ได้ที่ไทยส่งกลับจีน ที่กระทำฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

แต่กำลังจะเขี่ยมุสลิมที่อยู่ในสถานะ "ผู้ลี้ภัย" ออกจากอเมริกา โดยเฉพาะชาวอัฟกัน ที่จะถูกส่งตัวกลับอัฟกานิสถานบ้านเกิด

โดยไม่สนความเสี่ยงต่อการถูกกลุ่มตอลิบานแก้แค้น

ถึงตายนะครับ!

นี่แหละครับหลักสิทธิมนุษยชนของอเมริกา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้องโค่นระบอบฮุนเซน

เขมรยังไว้ใจไม่ได้ครับ... ขณะที่ไทยปล่อยตัว ทหารเขมรที่ถูกจับตัว ๑๘ นายกลับประเทศ ทางฝั่งกัมพูชาเริ่มปั่นข่าวแล้วว่า ทั้ง ๑๘ คน ถูกกองทัพไทยจับกุมอย่างผิดกฎหมาย

หัวใจติดปีก

สื่อโซเชียลร้อนฉ่าครับ ไม่ใช่เรื่อง “พี่โดม” กระเหี้ยนกระหือรือ แต่เป็นเรื่อง คนขับเครื่องบินเป็นคนหนึ่งไปส่งหัวใจให้ถึงมือหมอโดยแข่งกับเวลา

'เรามีดำ ไม่มีเทา'

นับคำขอโทษได้สักล้านคำกระมัง วานนี้ (๒๙ ธันวาคม) เป็นอีกวันของการพิสูจน์ว่า พรรคส้ม ใช่พรรคที่ความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏจริงหรือไม่

ทหารไทยระดับโลก

ได้เบอร์พรรคกันไปเรียบร้อยแล้วครับ วานนี้ (๒๘ ธันวาคม) กกต.รับสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จับได้เลขอะไร แต่ละพรรคทั้งประเทศเบอร์เดียวกันหมด

ผลงานรัฐบาล-กองทัพ

น่าจะจบอีกยกครับ... นับว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) เป็นวันที่ ๓ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

ไม่เอาคนเนรคุณ

แยกข้างแบ่งขั้วกันตั้งแต่หัววัน... วานนี้ (๒๕ ธันวาคม) นายกฯ อนุทิน ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.๑๑๒ “...ถ้ายังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมด้วยแน่นอน พรรคไหนจะร่วมก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ดูแคนดิเดตของทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนตอบว่าจะแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ยกเว้นพรรคประชาชน...”