สอดไส้วาระ เม.ย.

รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม โปรเจกต์ป้ายแดง "กรมปทุมวัน" เออร์ลีรีไทร์ ระดับ "นายพล" หรือโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของ ตร. วาระกลางปี 1 เม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรก จากปกติที่มีวาระแค่ 1 ต.ค.เท่านั้น

พอ 27 ก.พ. วงประชุม ก.ตร.อนุมัติโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของ ตร. วาระกลางปี 1 เม.ย. ปุ๊บ วันที่ 18 มี.ค. ก็ชงให้ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการปั๊บ

ทุกอย่างก็ดูโฟล (flow) ไปหมด

วันที่ 19 มี.ค. บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ทำบันทึกไปถึงผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย แจ้งแนวทางปฏิบัติในการเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 26 ปีงบประมาณ 2568

กำหนดให้ผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีคุณสมบัติเป็นตำรวจยศ พล.ต.ต. หรือ พล.ต.ท. ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือมีเวลาราชการ 25 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยไม่รวมเวลาทวีคูณ ซึ่งการนับอายุและเวลาราชการให้นับถึงวันที่ 31 มี.ค. 68 รวมทั้งต้องมีเวลาราชการเหลือตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68

ยื่นใบสมัครได้ที่หน่วยงานต้นสังกัดภายในวันที่ 19-20 มี.ค. 68 และให้หน่วยรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องส่งให้ทะเบียนพลภายในวันที่ 21 มี.ค. 68       

พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นใช้ดุลยพินิจอย่างละเอียดรอบคอบในการพิจารณาให้ข้าราชการตำรวจลาออกจากราชการตามโครงการฯ โดยให้คำนึงถึงความรู้ ความสามารถของผู้ขอลาออก รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อหน่วยงานเป็นสำคัญเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

ที่สำคัญให้ตรวจสอบคุณสมบัติของตำรวจที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ ทุกรายให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ระหว่างถูกไต่สวนข้อเท็จจริงโดย ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ท. หรือถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดทางวินัย อยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย หรืออยู่ระหว่างต้องหาคดีอาญา หรือถูกฟ้องคดีอาญาต่อศาล การดำเนินการจะต้องถึงที่สุดก่อนเสนอ ตร.พิจารณาอนุญาตให้ตำรวจดังกล่าวลาออกจากราชการตามโครงการฯ นี้

แม้รายชื่อ 26 นายพลสีกากี ตามบัญชีตรวจสอบคุณสมบัติของตำรวจที่ขอลาออกจากราชการตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 26 ปีงบประมาณ 2568 รอบวันที่ 1 เม.ย. 2568 ที่หลุดออกมาตามสื่อ "โฆษก ตร." จะชิงปฏิเสธและบอกรายชื่อผู้สมัครเข้าร่วมโครงการยังไม่แล้วเสร็จ

แต่ตามปฏิทิน "กรมปทุมวัน" ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะมีการประชุม ก.ตร. เชื่อว่ารายชื่อ "นายพล" ที่สมัครใจร่วมโปรเจกต์ป้ายแดง ที่ดูแล้วน่าจะเกิน 60 ราย ถูกส่งให้ ก.ตร.ตีตราประทับ เพราะตามเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติในการเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 26 เขียนไว้ชัดเจน

การอนุญาตให้ลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 68 เป็นต้นไป

ทว่าไฮไลต์ที่ต้องขีดเส้นใต้ "จับตาห้ามกระพริบ" เริ่มมีพรายกระซิบในการแต่งตั้งนายพล วาระเดือน เม.ย. ปกติจะมีแค่แต่งตั้ง "นายพลแก้มลิง" แต่ครั้งนี้อาจมีรายการสอดไส้ แต่งตั้ง "นายพล" แทนเก้าอี้ว่างจากกลุ่มเออร์ลีรีไทร์ไปด้วย

เพื่อไม่ให้ "กระโตกกระตาก" แต่งตั้งเฉพาะระดับ พล.ต.ท.ขึ้นไปเท่านั้น

แค่นี้ก็มันหยดติ๋ง!!!!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หรือทิ้งทวน?

ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา

ตำรวจไม่เลวไปหมด

ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต

'200 สีกากี' หนาว!

มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'

หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย

องค์กรอาชญากรรมหรือ?

เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!

ตั้ง 'นายพล-นายพัน'

น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว