
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” อีกไฮไลต์สำคัญของศึกซักฟอก แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่สังคมจับคือ เจ้าพ่อดีลอย่าง บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมาเปิดข้อมูลทางการเมืองเรื่องดีลต่างๆ ในรอบ 20 ปี สร้างแรงสั่นสะเทือนหรือไม่
เช่นเรื่องดีลในช่วง “ทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศ ที่ไม่ติดคุกสักวัน, คลิปลับป่วยทิพย์ชั้น 14, วงมาม่าที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลัง “เศรษฐา ทวีสิน” ตกเก้าอี้นายกฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567 ฯลฯ
เพื่อใช้โอกาสนี้ล้างแค้นหลังถูกถีบให้เป็นฝ่ายค้าน แถมยังถูกผ่าครึ่งพรรคให้เหลือ สส.ในมือเพียง 20 คน แถมล่าสุดลูกน้องเก่าอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ประกาศว่าจะมี 10 เสียงจากพรรคฝ่ายค้าน เทคะแนนให้ “นายกฯ อิ๊งค์” ท่ามกลางจับตาว่าเป็น สส.ของ “ลุงป้อม” หรือไม่ แต่สุดท้ายเมื่อลุงป้อมอภิปรายเป็นคนที่สองเปิดเรื่องที่โหมโรงเท่านั้น
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงเพียง 10 วินาที โดยกล่าวว่า “ได้ฟังท่านอาวุโส หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพูดประมาณ 10 นาที ที่ท่านพูดไม่เป็นความจริง” ก่อนจะนั่งลง และประธานสภาฯ ให้ดำเนินการอภิปรายต่อไป
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ให้ความเห็นในการอภิปรายของลุงป้อมนายเก่าว่า ท่านก็อภิปรายตามสคริปต์ที่เตรียมมา โดยภาพรวมก็พูดดี แต่ไม่ได้เจาะสาระสำคัญ หรือเจาะลึกในรายละเอียด
พล.อ.ประวิตรจะพูดในลักษณะไหน จะมีเนื้อหาหลักที่เข้มข้นกว่านี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนคาดการณ์ว่าน่าจะมีประเด็นที่สำคัญ แต่การอภิปราย 10 นาทีของวันนี้ ก็เป็นไปอย่างที่เราเห็น
“หนุ่มเมืองจันท์" นักเขียนชื่อดัง โพสต์ทันทีว่า ลุ้นทุกนาที ในที่สุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็อภิปรายจบ เนื้อหาไม่มีอะไรมาก เรียบๆ ธรรมดา แต่ลูกจบเร้าใจมาก
“ผมขอจบการอภิปรายไว้เพียงเท่านี้” ตามปกติของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้อภิปรายมักจบด้วยประโยคที่ว่าด้วยเหตุผลที่อภิปรายมาทั้งหมด "ผมไม่สามารถไว้วางใจนางสาวแพทองธารได้”
แต่ พล.อ.ประวิตรเล่นฉีกแบบคนปรบมือกันทั้งสภา นี่คือเซอร์ไพรส์แรกของการอภิปรายครั้งนี้
แต่เซอร์ไพรส์ครั้งที่สองคือ นายกฯ ลุกขึ้นมาตอบโต้ทันที ตอนแรกคิดว่าจะมาชี้แจงคำอภิปรายของ “หัวหน้าเท้ง” ที่เข้มข้นและดุดัน แต่กลับขึ้นมาตอบโต้คำอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร ด้วยมุกที่คิดมาจากบ้าน ย้อนรอยคำพูดเก่าของ “ลุงป้อม” 55 “ที่ท่านอภิปรายมานั้น ไม่เป็นความจริงค่ะ”
๐ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับมาสร้างความตึงเครียดในช่วงเวลาเมื่อนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน ได้โจมตี น.ส.แพทองธารว่า ทำนิติกรรมอำพราง ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ 'ตั๋ว PN' ให้เครือญาติเพื่อหนีภาษีโอนหุ้น 9 ปี รวม 218 ล้านบาท ซัดจ่ายภาษีตามหน้าที่พลเมืองไม่ได้ จะไว้วางใจให้เป็น 'นายกฯ' บริหารประเทศได้อย่างไร
พร้อมกล่าวอย่างรุนแรงว่า “ปากที่คนอย่างแพทองธารเคยพูดว่ามีกินมีใช้ ไปพร้อมๆ กัน แท้ที่จริงแล้วหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อให้มีกินกันเฉพาะกงสี ให้ได้อิ่มหมีเฉพาะตระกูลของตนเอง แพทองธาร นายกฯ หนีภาษี ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะดำรงตำแหน่งนี้อีกต่อไป ได้เวลาออกไปจากตึกไทยคู่ฟ้า กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าของคุณไปได้แล้ว”
การโจมตีนี้ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อนายวิโรจน์ หันไปทางที่นั่งของ สส.พรรคเพื่อไทยและกล่าวคำว่า “กี้” ซึ่งคำนี้น่าจะมาจากคำว่า “กีกี้” มีความหมายว่า “พวกลูกสมุนองค์การร้ายในหนังมดแดงของญี่ปุ่น” สร้างความไม่พอใจอย่างมากในกลุ่ม สส. พรรคเพื่อไทย
นางสาวนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า “ขอประท้วงนายวิโรจน์ พูดเสียดสีเหมือนคนจะไม่อยู่ในสภาอีกแล้ว”
นายวิโรจน์ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิงว่า “ถ้าอยู่ในสภาแล้วต้องอยู่ในฐานะเป็นลิ่วล้อ เป็นบริวารที่ไม่มีศักดิ์ศรีของผู้แทนราษฎร จะอยู่ไปทำไม” ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ต้องปิดไมค์และเริ่มดำเนินการประชุมต่อไป.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น

