บันทึกหน้า 4

 “ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาส่งแรงสะเทือนถึงประเทศไทย ไม่เพียงทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตึก สตง.ถล่ม และต่อมายังมีตึกราชการต่างๆ เริ่มทรุดตัว สะท้อนหลายสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล ต่างจากเอกชนที่มีความมั่นคงแข็งแรง เพราะไม่มีนอกมีใน จึงต้องฝาก นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เข้าไปสังคายนาโดยด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสุด 

๐ ขณะที่เรื่องการเมืองแม้จะเงียบ แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวให้พอติดตามจากกูรู โดย เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “พรรคส้มต้องปรับปรุงหัวหน้าพรรค อนุรักษนิยมต้องตั้งพรรคใหม่” 

ระบุว่า ขออนุญาตวิเคราะห์ผลการสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1/2568” ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 24-27 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นที่อยู่ในช่วงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งผลการสำรวจน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่าอันดับ 1 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) 30.90% อันดับ 2 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) 25.80% อันดับ 3 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 23.70% ฯลฯ 

เรื่องตัวบุคคลจะพบว่า นายณัฐพงษ์ยังไม่โดดเด่นพอที่จะเอาชนะนางสาวแพทองธารได้ ซึ่งพรรคประชาชนจะต้องนำไปพิจารณาหาเหตุผลว่า ทำไมคะแนนนิยมในตัวหัวหน้าพรรคต่ำกว่าคะแนนนิยมของพรรค ทั้งที่ในช่วงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐพงษ์ทำหน้าที่ได้ดีกว่านางสาวแพทองธาร

แต่คะแนนนิยมในตัวของนางสาวแพทองธาร กลับสูงกว่า และสูงกว่าคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ส่วนที่น่าสังเกตก็คือ คะแนนที่ยังหาตัวผู้เหมาะสมไม่ได้ สูงถึง 23.70% ซึ่งเป็นคะแนนของฝ่ายอนุรักษนิยม ที่ยังไม่มีตัวแทนที่โดดเด่นพอจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 พรรคประชาชน 37.10% อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 28.05% อันดับ 3 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ 13.75% อันดับ 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ 8.75% อันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ 3.65% อันดับ 6 พรรคภูมิใจไทย 3.35% อับดับ 7 พรรคไทยสร้างไทย 2.00% อับดับ 8 พรรคพลังประชารัฐ 1.85%

ในส่วนของพรรคการเมืองแสดงให้เห็นว่า ประชาชนได้ตัดสินใจสนับสนุนพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเดิมไปแล้ว คือพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย สูงถึง 65.15% ในขณะที่พรรคฝ่ายอนุรักษนิยม 4 พรรค มีคะแนนนิยมเพียง 15.75% เท่านั้น ทำให้เห็นว่าฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการมีพรรคการเมืองใหม่ 13.75% ใกล้เคียงกับคะแนนรวมของพรรคอนุรักษนิยมที่มีอยู่ในขณะนี้

บทสรุป 1.พรรคประชาชนต้องปรับบทบาทหัวหน้าพรรค หรือเปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่ 2.ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องมีพรรคการเมืองใหม่ และผู้นำใหม่ มาเป็นตัวแทนฝ่ายอนุรักษนิยม สู้กับพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งปี 2570

๐ อีกเรื่องที่ร้อนไม่แพ้กัน หลัง ครม.เห็นชอบ ร่างกฎหมายกาสิโน สถานีต่อไปคือ สภาและ สว. จะผ่านกฎหมายให้หรือไม่ หลังมีการก่อตัวของภาคสังคมและประชาชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านนอกสภา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองและสมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่งสัญญาณกระตุกไปยังรัฐบาลว่าอย่ามุ่งแต่รายได้ 

 “รัฐบาลลืมคิดไปว่า กำไรคือเป้าหมายของผู้ขอใบอนุญาต เพราะฉะนั้น กำไรต้องมาก่อน รัฐได้เงินเพิ่มขึ้นเข้ากระเป๋ารัฐ ซึ่งยอบแยบเต็มทน นายทุนก็ได้เงินกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงสภาพสังคมโดยรอบว่ามีอะไร เป็นอย่างไร หายนะทางสังคมมาใกล้ หรือไกลเพียงใด” ก็หวังว่าเสียงติงเหล่านี้ รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร จะรับฟัง. 

 

คางดำ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้

บันทึกหน้า 4

ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล

บันทึกหน้า 4

ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

บันทึกหน้า 4

บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น