
ในปัจจุบันผู้คนมีมุมมองความงามที่เปลี่ยนไป ไม่ยึดติดกับบิวตี้สแตนดาร์ดเดิมๆ เปิดรับความงามที่หลากหลายในแบบที่แต่ละคนมั่นใจ และไม่ได้มองว่าความงามเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่สะท้อนถึงตัวตน คุณค่าและการแสดงออกทางความคิด โดย “กัลเดอร์มา” (Galderma) ร่วมมือกับ WGSN ผู้นำด้านการคาดการณ์แนวโน้มชั้นนำของโลก จัดทำงานวิจัย “NEXT by Galderma” นำเสนอปัจจัยและคาดการณ์ 6 เทรนด์ความงามที่จะเข้ามามีบทบาทและกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกในอนาคต ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
พิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการแฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจความงาม บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันเทรนด์ความงาม พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีความงามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา กัลเดอร์มาเองก็มุ่งขับเคลื่อนวิทยาการด้านความงามให้ก้าวล้ำอยู่เสมอ เพื่อตอบทุกเรื่องราวของผิวที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล พร้อมเดินหน้าศึกษาวิจัยทิศทางตลาด เทรนด์ความงาม และความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกอยู่เสมอ เพื่อเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างผลกระทบเชิงบวกและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด โครงการ ‘NEXT by Galderma’ จึงเริ่มต้นขึ้น โดยร่วมกับ WGSN สำรวจและรวบรวมอินไซต์จากเครือข่ายผู้นำธุรกิจความงามและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทั่วโลก
สำหรับ 6 เทรนด์ความงามที่จะกำหนดทิศทางและแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมความงามในอนาคตที่น่าสนใจ ได้แก่ Proactive Beauty เวชศาสตร์ความงามที่เน้นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยกำลังเปลี่ยนไปสู่การดูแลรักษาเชิงป้องกัน (Prejuvenation) โดยมุ่งเน้น ‘การป้องกันหรือชะลอปัญหา’ มากกว่า ‘การรักษาแก้ไข’ หลายคนเริ่มตระหนักถึงบทบาทของคอลลาเจนที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย มองหาการรักษาแบบเบาบางและเจ็บตัวน้อยอย่างการทำหัตถการหรือทรีตเมนต์เสริมความงาม โดยมองว่าเป็นสิ่งที่ช่วยดูแลผิวเสริมจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมถึงผู้บริโภคจะหันมาดูแลและปกป้องผิวแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ผิวจะเสื่อมสภาพตามวัย
ต่อมาคือ Mindful Aesthetics ‘เรียบง่าย ยั่งยืน น้อยแต่มาก’ ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้ใส่ใจเรื่องความงามภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังตระหนักถึงความยั่งยืนและความเป็นธรรมชาติ โดยใส่ใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ใช้ส่วนประกอบจากพืช ปราศจากสารแต่งเติม เพื่อให้สอดคล้องกับค่านิยมทางจริยธรรมของตนเอง ขณะเดียวกันยังมองหาเวชศาสตร์ความงามที่ให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ดูผิวสวย สุขภาพดี ซึ่งเทรนด์นี้จะขยายเข้าสู่แวดวงเวชศาสตร์ความงามในอนาคต
รวมถึง Fast Aesthetics เพราะหลายคนคงทราบกันดีว่า เทรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอางมักจะมาไวไปไว แต่รู้หรือไม่ เทรนด์ความงามตามกระแสก็กำลังเป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน เพราะโลกของเวชศาสตร์ความงามได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและคนดังอย่างมาก ทำให้เกิดเทรนด์ความงามใหม่ๆ และกลายเป็น ‘Must-have’ เทรนด์ในชั่วข้ามคืน แต่ก็อาจเสื่อมความนิยมไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี Beauty Fandom ปรากฏการณ์แฟนด้อมและโลกดิจิทัลสร้างความหลงใหลในความงามแบบเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหลงใหลในศิลปิน เซเลบริตี้ ไอคอนทางวัฒนธรรม อนิเมะ หรือฟิลเตอร์ดิจิทัล ซึ่งความหลงใหลเหล่านี้กระตุ้นให้กลุ่มแฟนด้อมอยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนกับไอคอนที่ชื่นชอบอีกด้วย รวมถึงเทรนด์ของ Expressionality ทุกคนกำลังอยู่ในยุคที่ส่งเสริมให้การแสดงอัตลักษณ์ความเป็นตัวเอง ผ่านแฟชั่น ทรงผม การแต่งหน้า และการเสริมความงาม เทรนด์นี้สะท้อนถึงความงามที่เปิดกว้าง ไม่ถูกจำกัดด้วยเพศ วัฒนธรรม หรือค่านิยมดั้งเดิม ซึ่งจะเห็นว่าผู้ชายเริ่มให้ความสนใจเวชศาสตร์ความงามกันมากขึ้น ส่วนผู้หญิงกล้าฉีกกรอบทดลองปรับลุกส์ในแบบที่แตกต่างจากมาตรฐานเดิม หลายๆ คนมองหาความงามในแบบที่เหมาะเป็นตัวเอง โดยพบว่า 8 ใน 10 ของคนเจน Z และมิลเลนเนียล เชื่อว่านิยามของความงามที่สำคัญที่สุดคือ ‘การเป็นตัวของตัวเอง’
สุดท้ายคือ Cancelling Age ความแก่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป เพราะทัศนคติที่มีต่ออายุในอุตสาหกรรมความงามกำลังเปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้ต้องการให้ผิวเด็กลง แต่อยากคงสภาพผิวของใบหน้าและองค์รวมให้ดูสุขภาพดีเหมาะกับแต่ละช่วงวัย จึงให้ความสำคัญกับดูแลผิวในระยะยาวและสนใจหัตถการ หรือเทคโนโลยีความงามที่ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน.
รุ่งนภา สารพิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้และเข้าใจบริบทพลังงาน
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พันธกิจสำคัญคือการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และป้องกันแก้ไขภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีเครื่องมือสำคัญอย่างกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง สกนช.ต้องบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส
หมัดเด็ดมัดใจบนแพลตฟอร์มFood Delivery
แม้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจ Food Delivery ของประเทศไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่หลังจากการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น ในวันนี้เหลือผู้เล่นเพียงไม่กี่รายที่ยังครองตลาดบนแพลตฟอร์ม Food Delivery
“พิษภาษี”บทเรียนสวมสิทธิถิ่นกำเนิด!?!?
ยังคงเดินเกมภาษีอย่างต่อเนื่อง สำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้ประกาศแผนการที่จะเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงสุดถึง 3,521%
Claw Back เงินก้นถุง
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2568 เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย จากมติ กกพ.วันที่ 26 มี.ค.68
สั่งสแกนสะพานทั่วไทย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 จากกรณีเหตุก้อนปูนตกใส่รถกระบะของประชาชนที่กำลังสัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ที่ กม.27+700 ฝั่งขาออกกรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (เป็นผู้ขับขี่)
‘สมรสเท่าเทียม’โอกาสอัปจีดีพีไทย
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้เผยผลวิจัยที่น่าสนใจในหัวข้อ “Love Wins Marketing: ถอดรหัสการตลาดหลัง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” โดยเป็นการเจาะอินไซต์พฤติกรรมกลุ่ม LGBTQIA+ ซึ่งมีมากกว่า 5.9 ล้านคน คิดเป็น 9% ของประชากรไทยกันเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะเป็นขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจใหม่ที่พร้อมจ่ายหนัก-จ่ายจริง ตั้งแต่เวดดิ้งสุดหรู ท่องเที่ยวสุดพรีเมียม หรือแม้แต่การจ่ายเพื่อการมีบุตรจำนวนมาก