บันทึกหน้า 4

 “ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” สำรวจผลคะแนนเลือกตั้ง สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง (อย่างไม่เป็นทางการ) อันดับ 1 หมายเลข 5 นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ พรรคกล้าธรรม 38,680 คะแนน, อันดับ 2 หมายเลข 1 นายไสว เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย 28,417 คะแนน, อันดับ 3 หมายเลข 3 นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง พรรคประชาชน 6,811 คะแนน, อันดับ 4 หมายเลข 2 นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ 4,190 คะแนน, อันดับ 5 หมายเลข 4 ว่าที่ พ.ต.กวี ไกรทอง พรรคพร้อม 238 คะแนน, อันดับ 6 หมายเลข 6 นายพิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่ 194 คะแนน

พรรคกล้าธรรมที่มีผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ส่งตัวแทนออกมาแสดงความมั่นใจทันที มีขุมกำลังพร้อม ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ นอมินีใคร ต่อกรได้กับทุกพรรค และมีความเป็นไปได้ในการปรับ ครม.รอบหน้า 

ขณะที่ “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กล่าวว่า ชัยชนะในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ การปักธงในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการแสดงให้เห็นว่า วันนี้ขุมกำลังของพวกเรามีความพร้อมจริงๆ

 “กล้าธรรมเป็นพรรคที่สามารถต่อกรได้กับทุกพรรคการเมือง แล้วให้ความมั่นใจกับพี่น้องชาวภาคใต้ได้ว่า เราจะต่อสู้และทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนภาคใต้ เราไม่ใช่พรรคลูกของใคร ผมยืนยันว่า พวกเราคือพรรคกล้าธรรม ไม่ใช่นอมินีของพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างที่หลายคนพยายามเอาไปเชื่อมโยง ซึ่งขอฝากไปยังกลุ่มคนเหล่านี้ อย่าปั่นกระแสแบบผิดๆ"

คอการเมืองเชื่อว่าพรรคกล้าธรรมจะต้องได้โควตารัฐมนตรีเพิ่ม หรือคีย์แมนของพรรคจะหวนกลับไปนั่งเก้าอี้เสนาบดี     

แต่ บิ๊กอ้วน หรือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในทำนองตีกันไว้ก่อนว่า การที่พรรคกล้าธรรมมี สส.เพิ่มถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี และต้องแสดงความยินดีกับพรรคกล้าธรรม แต่เป็นคนละเรื่องกับการปรับ ครม. อย่านำมาปนกัน เพราะหากนำมาปนกันจะทำให้เกิดความสับสน และทำให้จินตนาการกันไปเอง ทำให้เรื่องต่างๆ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

 ขณะที่ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง สะท้อนผลการเลือกตั้งดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ปชป.แพ้อนาถ ได้คะแนนต่ำสุด เพราะคนใต้กำลังสั่งสอน ปชป.ที่เข้าร่วมกับทักษิณ” 

วาทกรรมนี้ถูกผลิตออกมาโดยกองเชียร์ของฝั่งชวน-อภิสิทธิ์ ที่ต้องการกลบเกลื่อนความล้มเหลวกลุ่มของตน และดิสเครติดกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน เพื่อหวังชิงพรรคคืนมาในการเลือกตั้งรอบหน้า ซึ่งคน ปชป.จะไปตีกันภายในก็เรื่องของเขา แต่การผลิตชุดความคิดตลกๆ ว่าที่ ปชป.พ่ายแพ้ย่อยยับ เพราะเข้าร่วมกับรัฐบาลฝั่งทักษิณนั้น เป็นวาทกรรมที่ตลกมาก เพราะพรรคที่ชนะการเลือกตั้งคือ “พรรคกล้าธรรม” ของ “ธรรมนัส” ที่เปรียบเสมือนสาขาของพรรคเพื่อไทย

ขณะที่ถ้าเราดูตัวเลขผลคะแนนจากปี 2566 จะพบว่าคะแนนของพรรคกล้าธรรมในปี 2568 น่าจะเป็นการรวมกันของ พปชร. (17,448) เพื่อไทย (8,771) รทสช. (8,731) อย่างชัดเจน (รวมกันได้ 34,950) จนทำให้ชนะแชมป์เก่าอย่างภูมิใจไทยที่ได้ 23,393 ในปี 2566 และได้ 28,422 ในวันนี้

สำหรับภูมิใจไทยแชมป์เก่าได้คะแนนเพิ่มมาอีกราว 5,000 คะแนน แต่พอเจอการรวมพลังของ พปชร. (สายกล้าธรรม) + เพื่อไทย + รทสช. ที่ส่งให้กับพรรคกล้าธรรม ก็เลยต้องพ่ายไป แต่ทั้งนี้ในการเลือกตั้งใหญ่ ทุกพรรคจะไม่มีใครยอมใคร ทุกคนต่างส่งตัวแทนลงสู้เพื่อให้ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้มากที่สุด ซึ่งในสนามใหญ่ พปชร./เพื่อไทย/รวมไทยสร้างชาติ ไม่น่าจะรวมกันแบบนี้ (ยกเว้นมีข้อตกลงพิเศษร่วมกัน)

ส่วนภูมิใจไทยเรียกว่ามีคะแนนเป็นกอบเป็นกำแล้ว ดังนั้นในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า หากรักษาฐานคะแนนไว้ได้ โอกาสที่จะชนะในพื้นที่นี้ในการเลือกตั้งปี 2570 ก็มีค่อนข้างมากกว่าพรรคอื่นอย่างแน่นอน.

 

คางดำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.