
เฮ้อ!!! ไม่รู้ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับการ "ยุบแท่งพนักงานสอบสวน (พงส.)" จะรู้สำนึก รู้ถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไป ได้สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงแก่ "ตำรวจ" ทั่วประเทศหรือเปล่า
นำมาซึ่งคราบน้ำตา ความเครียด ความกดดัน อนาคตของทั้ง "ตำรวจ" และ "ครอบครัวตำรวจ" ต้องเปลี่ยนแปลง บางครั้ง บางเคสถึงขั้น
"ฆ่าตัวตาย"!!!
ยิ่งได้ฟัง ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ออกมาเล่าปัญหาอัตราพนักงานสอบสวนขาดแคลนไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่มีอยู่
จนมีพนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ป่วยเป็น "โรคซึมเศร้า" แล้ว 4 นาย
ต้องกินยารักษาตัวทุกวัน!!!
ฟังแล้วเศร้า ฟังแล้วหดหู่ เพราะสิ่งที่ "ตำรวจ" ต้องมาป่วย ต้องมาเครียด ต้องมาลาออก ต้องมาฆ่าตัวตาย ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเองโดยตรง แต่มาจากองค์ประกอบที่ "ผู้บังคับบัญชา" เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ใช้ช่อง ใช้เล่ห์ ใช้เหลี่ยม ใช้อำนาจ เปลี่ยนแปลงเส้นทางการทำงาน เส้นทางการเติบโต
ทำร้าย ทำลาย พนักงานสอบสวน!!!
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ บอกอัตรากำลังของพนักงานสอบสวนที่กำหนดไว้จำนวน 29 นาย ปัจจุบันมีกำลังที่เหลือเข้าเวรรับแจ้งความร้องทุกข์แค่ 11 นาย มีการเชิญแพทย์มาตรวจสภาพจิต พบว่ามีป่วยเป็นโรคซึมเศร้า 4 นาย ต้องกินยารักษาอยู่
น่ากังวลอย่างยิ่ง
เบื้องต้น ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ใช้วิธีปรับเกลี่ยพนักงานสอบสวนในการแกปัญหา และได้ระดับ บช. ระดับ บก.ส่งพนักงานสอบสวนมาช่วยเสริม
ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ที่มีปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวน โรงพักอื่นๆ ก็เกิดปัญหาไม่ต่างกัน อย่างที่ สภ.ทัพทัน จว.อุทัยธานี ก็ขาดแคลนพนักงานสอบสวน โชคดีตรงที่โรงพักแห่งนี้ได้ พ.ต.อ.ภูมิรพี ผลาภูมิ มาเป็น ผกก.สภ.ทัพทัน ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเก่า เลยใส่ชื่อตัวเองเข้าเวรพนักงานสอบสวนด้วย
ก็ช่วยแบ่งเบาภาระ "ลูกน้อง" ไปได้ไม่มากก็น้อย
แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องเร่งรีบออกนโยบายแก้ปัญหาทั้งระบบ เพราะการปรับเกลี่ย ดึงคนนั้น ดึงคนนี้มาเข้าเวร มาทำหน้าที่พนักงานสอบสวน เป็นเพียงการแก้ปัญหาครั้งคราว หากปล่อยนานไปปัญหาเดิมๆ ก็จะวนลูปกลับมาอีก
ได้ยิน โฆษกตำรวจ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง บอก ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนเป็นการเฉพาะ
ทั้งการขาดแคลนพนักงานสอบสวน การเพิ่มอัตราพนักงานสอบสวน การสร้างแรงจูงใจในสายงานสอบสวน การปรับตำแหน่งสายงานสอบสวนเป็นตำแหน่งควบหรือตำแหน่งเลื่อนไหลให้สามารถเติบโตได้ในสายงาน
ผบ.ต่าย เดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องรีบ ต้องเร่ง ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น
ก่อนที่ พนักงานสอบสวน จะเจ็บ จะป่วย จะตัดสินใจหนีปัญหาแบบที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว


