ศักดิ์ศรีตำรวจ

ท่าทีขึงขัง กวาดล้างผู้มีอิทธิพล "เมืองสงขลา" ของ "ผู้บังคับบัญชา" บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ในการส่ง บิ๊กโอ๋-พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บินด่วนลงใต้

คุมคดี "สจ.กอล์ฟ" ลูกชาย "โกถึก" สส.สงขลา ที่สั่งให้ลูกน้องทำร้ายดาบฯ นิสาธิต ตำรวจ ตชด.43 ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา เพราะไม่พอใจที่ไปห้ามถ่ายภาพในคูหาเลือกตั้ง

น่าจะทำให้ "ตำรวจ" ทั้งประเทศ "อุ่นใจ" ว่านายไม่ทอดทิ้ง "ลูกน้อง" ไม่โอ๋ ไม่เชลียร์นักการเมือง

ที่สำคัญเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย ได้มอบหมายให้ "กองปราบปราม" รับคดีไปทำแทนตำรวจพื้นที่ กันข้อครหาอาจมีนอกมีใน เพราะชื่อเสียง "กองปราบฯ" ก็ยังทำให้ประชาชนอุ่นใจได้ รวมทั้งเชื่อว่าจะมี "ของหนัก" ล้างมาเฟียแดนใต้เสริมเพิ่มเติมไปอีก

ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

ท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง สายตาที่กังวล กลัว "สงขลา" จะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู เหมือนหลายครั้งหลายคราที่เกิดขึ้น

"บิ๊กต่าย" หรือ "บิ๊กโอ๋" ก็อย่าไปน้อยใจ อย่าไปโกรธเคือง ความหวาดกลัว ความกังวลของสังคม โดยเฉพาะจาก "ตำรวจชั้นผู้น้อย" ด้วยกันเอง

ก็ประวัติศาสตร์เคยมี เป็นใครก็ต้องกลัว ก็ต้องกังวล

แม้จะผ่านมาเกือบ 20 ปี แต่คนในวงการ "สีกากี" ก็จำกันได้ เหตุการณ์ นายก อบจ.ยโสธร พาลูกน้องขึ้นไปบนโรงพัก แล้วเตะเสยหน้าตำรวจ ยศ ส.ต.อ. ขณะกำลังก้มลงกราบขอโทษนายก อบจ. ทั้งที่ไม่ผิด สลบเหมือดคาโรงพัก

ต่อหน้าต่อหน้า ผู้กำกับ และสารวัตร แถมผู้บังคับบัญชาไม่ได้จับกุมคนก่อเหตุซึ่งได้กระทำความผิดซึ่งหน้า จนตำรวจกว่า 100 นาย ต้องชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้เพื่อน

จน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส รักษาราชการแทนผบ.ตร. (ขณะนั้น) ฉุนขาดสั่งเด้งกราวรูด พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนกันยกใหญ่

ก่อนที่คนร้ายจะมามอบตัวถูกดำเนินคดีไป

ผู้กำกับโรงพักถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ส่วน สารวัตร มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ

พอทุกอย่างเงียบ "ผบ.ตร." เปลี่ยนยุค เปลี่ยนสมัย สู่ยุคเพื่อนร่วมรุ่นเป็นใหญ่ ก็หวังจะอุ้มเพื่อนที่เป็น ผู้กำกับ กลับเข้ารับราชการ ดีที่ ก.ตร.ยุคนั้นที่มีอาจารย์วิษณุแข็งขันแตะเบรกว่าเคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูล เรื่องก็เลยถูกตีกลับไป เช่นเดียวกับสารวัตรที่ถูกชี้มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ตอนนี้ก็เติบโตเป็น ผกก.โรงพักแถวอีสานไปแล้ว

นั่นจึงเป็นที่มาของความหวาดระแวง กลัว "สงขลา" จะมาซ้ำรอย

ผบ.ต่าย ต้องล้างภาพจำจากอดีตของลูกน้องให้หมดไป...เอาใจช่วย อาต่าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หรือทิ้งทวน?

ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา

ตำรวจไม่เลวไปหมด

ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต

'200 สีกากี' หนาว!

มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'

หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย

องค์กรอาชญากรรมหรือ?

เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!

ตั้ง 'นายพล-นายพัน'

น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว