สิ้นสุดการรอคอย

หากพูดถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เป็นระบบรถไฟฟ้า Monorail เหมือนกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (ส่วนหลัก) ที่เปิดให้บริการไปแล้ว นับเป็นอีกหนึ่งโครงข่ายของระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมการเดินทางในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการรถขนส่งสาธารณะมากขึ้น รวมถึงช่วยลดปริมาณจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้ลงพื้นที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ว่าระบบมีความพร้อมที่จะให้บริการแล้ว

โดยกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน เตรียมเปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบการเดินรถในวันที่ 20 พ.ค.2568 เป็นต้นไป เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยไม่เก็บค่าโดยสารในเส้นทางส่วนต่อขยาย และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มิ.ย.2568 โดย รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนหลักและส่วนต่อขยาย มีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท

รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบคมนาคมขนส่งทางรางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการเดินทางมายังอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดง เป็นศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ มีคอนเสิร์ต และกิจกรรมงานประชุมจัดแสดงต่างๆ จำนวนมาก ก็จะสามารถอำนวยความสะดวกประชาชน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวได้

สำหรับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ ที่ผ่านมา บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน ได้เริ่มทดสอบการเดินรถตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยเป็นการทดสอบการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ขบวนรถไฟฟ้า ระบบจ่ายไฟฟ้า อาณัติสัญญาณ เป็นต้น ปัจจุบันเข้าสู่กระบวนการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) แล้ว ซึ่งการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ขณะที่ รฟม. ที่ปรึกษาบริหารและควบคุมโครงการ วิศวกรที่ปรึกษาอิสระ (ICE) และ บริษัท NBM ได้ร่วมกันตรวจสอบและประเมินความพร้อมตามกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อย ส่วนการเก็บวัสดุอุปกรณ์งานต่างๆ ที่อยู่ภายใต้สถานีรถไฟฟ้า ถือเป็นงานส่วนน้อยที่ NBM จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยกระทรวงยืนยันว่า ระบบรางและรถไฟฟ้าต่างๆ พร้อมให้บริการตามมาตรฐาน

ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชาสัมพันธ์เส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ ให้ประชาชนรับทราบ โดยผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปยังสถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) สามารถเปลี่ยนขบวนรถได้ที่สถานีเมืองทองธานี (PK10) ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชานชาลา โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ ได้ก่อสร้างทางเดิน Skywalk เชื่อมต่อระหว่างสถานีและอาคารชาเลนเจอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่จะเดินทางไปร่วมงาน Expo คอนเสิร์ต หรือ Event ต่างๆ ภายในอิมแพ็ค

โดยบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) กล่าวว่า NBM คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าเมืองทองธานีแล้ว จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3-1.4 หมื่นคนต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงที่มีการจัดงานแสดงต่างๆ ในเมืองทองธานี คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองทองธานีมากขึ้น

แน่นอนว่า เมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ นั้น จะทำให้ประชาชนเดินทางมายังเมืองทองธานีสะดวกมากขึ้น ไม่เพียงผู้เข้าชมงานและคอนเสิร์ตต่างๆ แต่จะรวมไปถึงประชาชนที่อยู่อาศัยโดยรอบ มีจำนวนมากกว่า 1 แสนคน จะมีทางเลือกในการเดินทาง โดยจุดเด่นคือ Sky walk เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่อาคารของอิมแพ็ค และเชื่อว่าการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ จะอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเห็นได้ชัด โดยเร็วๆ นี้จะมีการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร 2568 หรือ THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ระหว่างวันที่ 27-31 พ.ค.2568.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สูงวัยใช้เน็ตโตพุ่งกว่า3เท่า

เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของผู้คน เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยก็ไลฟ์สไตล์ที่มีโลกดิลิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนหน้าหลายคนอาจจะมองว่าสูงวัยอาจจะไม่ทันโลก ตามเทรนด์ไม่ทัน

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)