บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สถานการณ์พรรคแดงและน้ำเงินผ่านสงครามตัวแทน แม้ฝ่ายแกนนำของทั้งสองสีบอกไม่มี แต่เป็นเรื่องของกระบวนการกฎหมาย ที่มีผู้ร้อง และต้องมีการวินิจฉัย

ในส่วนของ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในประธานคณะกรรมการพิเศษ (กคพ.) แม้จะไม่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ ก็ใช่จะวางใจได้

เพราะบรรทัดฐานเดิมของศาลรัฐธรรมนูญก็มีให้เห็นมาแล้ว บางคนสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สุดท้ายก็รอด อย่างเช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ หรือกรณีไม่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ อย่างอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แต่สุดท้ายศาลก็สั่งให้พ้นตำแหน่งเรื่องปมจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตมาแล้ว 

ฉะนั้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ล่าสุด ภูมิธรรม เปิดเผยเรื่องคดีความของตัวเองในชั้นศาลรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้กำลังจะทำเรื่องชี้แจงใหม่ โดย สว.ได้มีการยื่นร้องเพิ่มเติม ประมาณว่าตนละเลยปล่อยให้ พ.ต.อ.ทวี และดีเอสไอ ไปทำผิดกฎหมาย และขอให้ศาลสั่งให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ 

ซึ่งขณะนี้ทนายของตนกำลังดูคำร้องเพิ่มเติมอยู่ ถือเป็นการชี้แจงเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ส่วนคดีที่ สว.ฟ้องกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามความผิดมาตรา 157 ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้เรียกไปชี้แจง แต่ถ้ามีคำร้อง หรือมีข้อสงสัยก็สอบถามมาได้ ตนก็มีหน้าที่ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ข้อกล่าวหา

กระจอกข่าวถามว่า ขณะนี้มีความกังวลว่าศาลรัฐธรรมนูญท้ายสุดจะตัดสินไปในทางลบหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทำตามข้อมูลที่ฝ่ายปฏิบัติที่ดีเอสไอทำหน้าที่ ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร ตนยุ่งเฉพาะตอนที่เขาเสนอให้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งเราก็พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงอะไร ซึ่งตอนที่ตนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ก็ให้แยกคดี อะไรที่เป็นอำนาจของ กกต. ก็ให้ไปทำหน้าที่ ส่วนดีเอสไอก็ทำหน้าที่ตามที่เสนอมาในที่ประชุม หลังจากนั้นหน่วยงานต่างๆ ก็ไปทำหน้าที่ตามอำนาจของเขา 

๐ อีกด้านความเคลื่อนไหวของพรรคส้ม นอกจากเรื่องถูกซื้องูเห่าแล้ว ผลเลือกตั้งท้องถิ่นก็ไม่เป็นที่น่าพอใจ ล่าสุดกูรูการเมืองอย่าง เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ออกมาชี้แนะว่า ขอพรรคส้มเลิกส่งท้องถิ่น เน้นระดับชาติก่อน

วันนี้ขออนุญาตวิเคราะห์ผลการสำรวจ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ เรื่อง “ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในสายตาประชาชน” พบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น

1.ประชาชนจำนวน 78.80% เห็นว่า บ้านใหญ่หรือตระกูลการเมืองท้องถิ่นยังมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่

2.เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “บ้านใหญ่” หรือตระกูลการเมืองท้องถิ่นยังคงมีอิทธิพลในพื้นที่ เพราะ อันดับ 1 เข้าถึงประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น งานบุญ งานศพ งานประเพณี 45.13% อันดับ 2 มีฐานเสียงที่มั่นคง และความสัมพันธ์กับชุมชนที่ยาวนาน 43.19%  อันดับ 3 มีระบบอุปถัมภ์ ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน 41.89% ซึ่งเหตุผลทั้ง 3 อันดับ ล้วนแต่เป็นเรื่องของสังคมอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีปัจจัยเงินทุนเป็นส่วนสำคัญ

3.สิ่งที่ประชาชนอยากให้นายกเทศมนตรีคนใหม่ดำเนินการแก้ไขมากที่สุด คือ ปราบปรามอบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ 57.25% ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก เพราะผู้ชนะรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับอบายมุข ยาเสพติด และใช้เงินจากธุรกิจสีเทา ทุนรับเหมา เงินทอน มาเป็นทุนซื้อเสียงจนได้รับการเลือกตั้งเกือบทั้งนั้น

อยากเสนอให้พรรคประชาชนได้มุ่งเน้นการเมืองระดับชาติเป็นหลัก เมื่อชนะการเมืองระดับชาติ ได้เข้ายึดกุมอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จ ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ค่อยปรับโครงสร้างของสังคมตามอุดมคติ จึงค่อยส่งผู้สมัครในนามพรรค ลงแข่งขันผู้บริหารท้องถิ่นในโอกาสต่อไป

ก็หวังว่า หัวหน้าเท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำทางจิตวิญญาณจะนำไปพิจารณา. 

 

คางดำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้

บันทึกหน้า 4

ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล

บันทึกหน้า 4

ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา