จากข้อเสนอสู่การแก้ไข

รัฐบาลและเอกชนเป็นสองฝั่งที่ต้องทำงานร่วมกันมา โดยต้องมีการบูรณาการความรู้ ความต้องการ และความร่วมมืออยู่เสมอเพื่อให้เกิดสังคมเศรษฐกิจที่ดี มีบรรยากาศการลงทุนที่ดี และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนได้ ด้วยเหตุนี้เองมักมีหลายครั้งที่นโยบายรัฐบาลจะถูกท้วงติงจากเอกชน หรือการทำงานของเอกชนจะถูกจับจ้องโดยรัฐบาล แต่หากมีการทำงานที่ลงตัวซึ่งกันและกันก็จะได้รับคำชื่นชม หรือการสนับสนุนอยู่เป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลได้รับคำร้องจากฝั่งเอกชน โดย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นั้น เปิดเผยว่าได้เข้ายื่นหนังสือถึง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 ที่ผ่านมา

เพื่อคัดค้านนโยบายโครงสร้าง Pool Gas เนื่องจากไม่เป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ที่เป็นแนวคิดของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยให้ความเห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยวิธีปรับโครงสร้าง Pool Gas เป็นการแค่โยกภาระมาให้ภาคอุตสาหกรรม โดยการนำเอาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมาผลิตไฟฟ้าเพื่อให้ต้นทุนถูกที่สุด เพราะมีราคาถูกและเสถียร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวประเทศจะเสียต้นทุนต่างๆ อีกทั้งภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซฯ ต้องเพิ่มสัดส่วนต้นทุนที่เป็นภาระขึ้นไปอีก 60% หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี การอยากจะลดค่าไฟให้ภาคประชาชนถือเป็นเรื่องดี แต่แนวทางที่ทำไม่ตรงกับแนวทางที่ภาคเอกชนทั้ง 3 สถาบันรวมถึงคนส่วนใหญ่มอง ที่ควรจะแก้ปัญหาที่ตรงจุด

“สิ่งที่มีปัญหาในช่วงหลังมานี้คือปริมาณก๊าซฯ ในอ่าวไทยลดลง จึงต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศ ซึ่งยังมีราคาสูงและผันผวน กระทรวงพลังงานจึงคิดที่จะสลับโดยนำก๊าซฯ ในอ่าวไทยมาผลิตไฟฟ้าแทน ซึ่งเอกชนมองว่าเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะก๊าซฯ มีส่วนประกอบสำคัญในด้านปิโตรเคมีที่สามารถสร้างมูลค่า นำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าก๊าซฯ ในอ่าวไทยมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถมาสกัดส่วนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมในยุคโชติช่วงชัชวาล แต่ในมุมมองปัจจุบันกลับบอกไม่ถูกต้องว่าควรนำก๊าซฯ มาใช้ให้คนทั่วไปเพื่อให้ลดต้นทุน และเมื่อคำนวณความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ปรากฏว่าลดค่าไฟได้ไม่กี่สตางค์” เกรียงไกรกล่าว

และจากการเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวมีทีท่าว่าจะได้ผล เพราะในที่ประชุม กพช.ได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และออกมาเป็นมติที่น่าสนใจ ดังนี้ ราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศที่ออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ (Sales Gas) ที่นำมาคำนวณใน Pool Gas ควรมีราคาที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย (Gulf Gas) โดยนำมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ C2+ ที่ได้รับจากการจำหน่ายมาเป็นส่วนลดราคา (Discount) ในสัดส่วนที่เหมาะสม และต้องกำหนดต้นทุนก๊าซธรรมชาติให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละภาคส่วน ดังนี้ ก๊าซฯ ที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซฯ ให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซฯ จากอ่าวไทย (Gulf Gas) ก๊าซฯ ที่นำไปใช้ในการผลิต LPG สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซฯ จากอ่าวไทย

ก๊าซฯ สำหรับภาคไฟฟ้า และ NGV ให้ใช้ราคา Pool Gas ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาและปริมาณของก๊าซฯ โดยเรียงลำดับความสำคัญจากแหล่งก๊าซฯ ในประเทศ ก๊าซฯ จากเมียนมา และ LNG ตามลำดับ และก๊าซฯ สำหรับภาคอุตสาหกรรมให้ใช้ต้นทุนจากราคา LNG ซึ่งใกล้เคียงราคาที่ซื้อขายจริงในปัจจุบัน ซึ่งการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่นี้ จะส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าถูกลง และไม่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยการดำเนินการต่อไป สนพ.จะดำเนินการหารือกับหน่วยงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปหลักการและจัดทำแนวทางการดำเนินงานในรายละเอียด เพื่อเสนอ กพช.พิจารณาต่อไป

จึงต้องมาติดตามกันต่อว่าเมื่อมีนโยบายออกมาชัดเจนและกำหนดใช้แล้ว การดำเนินงานตามแผน กพช.นั้นจะไม่สร้างให้เกิดผลกระทบฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจริงหรือไม่ เมื่อถึงเวลานั้นเชื่อว่าภาคเอกชนก็คงไม่นิ่งนอนใจและออกมาคัดค้านอีกรอบแน่นอน.

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า