“รักษาจุดยืนไว้บ้าง”

จากอดีต “ไล่หนู ตีงู “ เปลี่ยนเป็น ”ไล่หนู  ดูดงูเห่า “แทน หลัง  “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร  ชินวัตร  เปรียบสส. ถูกดูด เหมือนการย้ายงาน 

 “สรกล อดุลยานนท์” หรือ หนุ่มเมืองจันท์ โพสต์ประเด็นนี้ว่า ทีมที่ปรึกษาคงต้องทำงานหนักแล้ว  หลัง คุณแพทองธาร เจอคำถามของนักข่าว กรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวหานายกฯว่าปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาล ดูด สส. เพื่อมาเติมเสียงให้รัฐบาล ทั้งที่นายกฯ เคยบอกว่า ”ไม่ต้องการซื้องูเห่า“ 

 ถ้านายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” จะให้สัมภาษณ์ตัดบทว่าเป็นเรื่องของพรรคกล้าธรรม  ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ในทางการเมือง การตัดบทแบบนี้ยังดีกว่าพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนการย้ายไปพรรคกล้าธรรมของ ส.ส.พรรคประชาชน

 แต่ที่เจ็บปวดกว่าคือ คำอธิบายเรื่องการย้ายพรรค  “ความจริงแล้วเส้นทางการเมืองที่ตนเคยพบเจอมา เป็นความเชื่อความเข้าใจของแต่ละคนด้วยว่า ณ เวลานั้น สังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเองและตอบโจทย์“

 ”เหมือนกับการสมัครงาน ว่าเรารู้สึกว่าที่ไหนใช่สำหรับเรา องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ซึ่งตนไปห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน… อย่างวงการการเมืองที่จะอยู่พรรคเดิมหรือย้ายไปพรรคอื่นแล้วกลับมาพรรคเดิม เป็นเรื่องส่วนบุคคล และเป็นเรื่องของพรรคว่าจะรับหรือไม่รับ”

 นายกฯแพทองธาร ลืมไปว่าทุกคำพูด ทุกคำให้สัมภาษณ์ในวันนี้จะอยู่ใน ”ดิจิตอล ฟุตปริ้นท์“  

 อย่าลืมว่า พรรคเพื่อไทยเคยเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาแล้ว จำเรื่องในสภาฯสมัยที่แล้วได้ไหม สส.ศรีสะเกษ 3 คนโหวตสวนมติอยู่เรื่อยๆ และแสดงตัวว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย นำไปสู่ความแค้นเปิดยุทธการ ”ไล่หนู ตีงูเห่า“ ในการหาเสียงเลือกตั้งที่ศรีสะเกษ ใครพูดอะไร ปราศรัยอย่างไรบนเวทีบ้าง

 ทำไมวันนั้นจึงไม่เกิดความเข้าใจแบบวันนี้บ้างว่า สส.ทั้ง 3 คน อยู่พรรคเพื่อไทยแล้ว เขารู้สึก “ไม่เป็นตัวเอง และไม่ตอบโจทย์”

ในทางการเมืองแบบคนรุ่นใหม่  จุดยืนประชาธิปไตยบางอย่างต้องรักษาไว้บ้าง ต้องมองไกลๆ อย่ามองใกล้  อย่าให้ ”อำนาจ“ และ “การรักษาอำนาจ” ทำให้”ความเชื่อ“ เปลี่ยนไป

 

 

ช่างสงสัย. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มิติใหม่'

ช่วงนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรยังปิดอยู่ ซึ่งคณะกรรมาธิการต่างๆ ก็เดินหน้าในการประชุมตามปกติ ส่วนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 สภาผู้แทนราษฎร ก็เดินหน้าต่อ

ทนไม่ไหวจริงๆ!

สถานการณ์ภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้แบ่งฝ่ายกันชัดเจนแล้วแบบครึ่งต่อครึ่ง จาก สส.ทั้งหมดของพรรค 36 ที่นั่ง แตกออกเป็นฝ่ายของ “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. 18 คน

ช่วงนี้เนื้อหอม

เป็นฝ่ายค้านที่เนื้อหอมสุด สำหรับ สส. 19 ชีวิตของพรรคพลังประชารัฐ อันมีผลมาจากความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลทั้งสิ้น

ไปชายแดนโน่น

น่าเห็นใจ "นายกฯ อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร ที่ไม่ค่อยทันเหลี่ยมคูการเมือง และอารมณ์ของสังคม เพื่อชิงกระแสมวลชน

เจี๊ยบไมค์ทองคำ

กลุ่มการเมืองไทยที่คึกคัก และสร้างสีสันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกลุ่ม สว.สำรอง ที่บุกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

‘ยังไม่เจรจา’

ช่วงนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ยังปิดสมัยประชุมอยู่ และจะเปิดในวันที่ 3 กรกฎาคมที่จะถึงนี้