เปิดฉากรบ 'ทักษิณ'

เชื่อ “ทวี” เถอะครับ “ทักษิณ” ยังไม่หนีจริงๆ

ถึงขนาดลงทุนการันตีหมดหน้าตัก...

“...ท่านทักษิณมีประสบการณ์ในการปราบปรามยาเสพติดและปัญหาใหญ่ของไทย คือ แหล่งผลิตและสารตั้งต้นอยู่ตามแนวชายแดน จึงคิดว่าแนวคิดต่างๆ ของท่าน น่าจะมีประโยชน์ ในการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่ออาเซียนด้วย...”

ใช่ครับประสบการณ์ในสงครามยาเสพติดของ “ทักษิณ” ถือเป็นตำนานยากที่จะมีนักการเมืองหน้าไหนสู้ได้ อีก ๑๐๐ ปีก็ไม่มี

โดยเฉพาะการฆ่าตัดตอน ร่วมๆ ๒,๕๐๐ ศพ

เมื่อตกปากรับคำกันเช่นนี้แล้ว หาก “ทักษิณ” จะเบี้ยวก็ดูกระไรอยู่

แต่...เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอกครับ

๒๗ พฤษภาคม จู่ๆ “ทักษิณ” ป่วยวิกฤตหนักห่างหมอไม่ได้อีกรอบก็เป็นไปได้

หรืออย่างกรณี “ยิ่งลักษณ์” หลอกให้ “บุญทรง” ไปรอที่ศาล แต่ตัวเองโกยแน่บ ใช้เส้นทางธรรมชาติไปกัมพูชา ก่อนบินปร๋อไปลอนดอน-ดูไบ 

มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

อีกอย่างสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่เป็นคุณกับ “ทักษิณ” สักเท่าไหร่

ที่เคยคิดว่ามีอำนาจล้นฟ้า จากการยึดอำนาจของลูกสาว วันนี้ง่อนแง่น

แม้กระทั่ง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ยังพลิก จากไม่ต้องจ่าย ๓.๕ หมื่นล้าน

ต้องชดเชย ๑ หมื่นล้าน

ตัว “แพทองธาร” ดันไปสร้างเรื่องให้บรรดานักร้อง จับขึงพืดด้วย ม.๑๕๗ และประมวลจริยธรรม เพราะไปพบนักโทษหนีคุก ทั้งๆ ที่ตัวเองใช้เงินหลวงบินไปลอนดอน

หลายเด้งครับ!

ดังนั้นหาก “ทักษิณ” ไม่ปรากฏตัวในวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

หรือแม้จะปรากฏตัว ก็หาใช่เป็นการรับรองว่า “ทักษิณ” จะอยู่ถึงวันที่ ๑๓ มิถุนายน ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวนกรณี นักโทษเทวดาชั้น ๑๔

ฉะนั้นข่าวลือ “ทักษิณ” หนีจะยังคงลือกันอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ ๑๓ มิถุนายน โน้นแหละครับ

ครั้งนี้ “ทักษิณ” ตัดสินใจลำบากมากว่าจะหนีหรือไม่ เพราะเงื่อนไขมันต่างจากคราวที่แล้วพอควร

สาเหตุหลักที่ต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผากคือลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

หากหนี ทัวร์จะไปลงที่ลูกสาวเต็มๆ

ในภาวะที่รถทัวร์มีคนขับคนนั่งชัดเจนขึ้นทุกวันแบบนี้ หากตัดสินใจพลาด ก็หมายถึงการล่มสลายของการเมืองตระกูลชินวัตร

“ทักษิณ” เห็นภาพ “สนธิ ลิ้มทองกุล” กอดกับ “จตุพร พรหมพันธุ์” บนเวทีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็น่าจะมองอนาคตของลูกสาวออกว่าจะต้องเจอกับอะไร หากตัวเองหนีเอาตัวรอด

คำพูดที่ “สนธิ” กับ “จตุพร” ทอดสะพานเข้าหากันน่าสนใจครับ

“...วันนี้คนคนนี้ไม่ใช่คนเดิมแล้ว ซึ่งความสัมพันธ์ในครั้งนี้เพื่อทวงคืนความถูกต้องให้พี่น้องประชาชน และอยากให้ประชาชนให้โอกาสจตุพร ในการทำคุณงามความดีให้ชาติบ้านเมือง และเราต้องเปิดใจว่าคนที่หลงผิด แล้วไปเจอความเลวความชั่วร้ายของจริง

อย่างน้อยเค้าก็ยอมรับว่าทักษิณเลว

ผมเต็มใจจะให้โอกาสเขา เพราะการที่เขากล้าขึ้นมาบนเวทีนี้ แสดงว่าเขามีความกล้าหาญมากพอสมควร ที่ผ่านมาเขาคืออีกหนึ่งคนที่ร่วมต่อสู้กับหลายเหตุการณ์ของปัญหาบ้านเมือง จตุพร พรหมพันธุ์ ผมรับเขามาเป็นน้องแล้ว...”

นั่นคือคำพูดของ “สนธิ”

มาฟัง “จตุพร” บ้าง

“...ผมเชื่อว่าตลอดระยะเวลา ๒๐ ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ผมมาพบกับคุณสนธิ  ในวันนี้

คุณสนธิได้ชวนผมในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อประมาณ ๗ ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา ๗ ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้

วันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาผมจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ผมผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ ๖๐ ปี

แต่ทันทีที่ผมประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับผมเหมือนเดิม...”

“...เราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้...”

ครับ...เป้าหมายคือ “ทักษิณ”

เป็นการเปิดฉากรบ “ทักษิณ” รอบใหม่อย่างเป็นทางการ

กรณี “หนี”

สิ่งที่ต้องเจอแน่ๆ คือ ความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ปล่อยให้บุคคลที่มีสถานะหมิ่นเหม่ว่าอาจต้องกลับเข้าคุก เพราะที่ผ่านมาติดคุกทิพย์ เพราะป่วยวิกฤตทิพย์ หนีไปอย่างง่ายดาย

แถมนายกรัฐมนตรีรู้เห็นเป็นใจให้เกิดการป่วยวิกฤตทิพย์ขึ้น

“อุ๊งอิ๊ง” จะรับผิดชอบโดยไม่มีพ่อช่วยอยู่ข้างหลังได้หรือไม่

กรณี “ไม่หนี” สิ่งที่ต้องเจอคือ หากการไต่สวนของศาลเป็นคุณกับ “ทักษิณ” ก็เตรียมฉลอง เพราะสามารถอยู่เสือกทุกเรื่องได้ต่อไป

แต่หากไม่เป็นคุณ

“คุก” ครับ

แต่จะเป็นการติดคุกที่ไม่ลากลูกสาวให้ลำบากไปด้วย

ฉะนั้นรอชมครับ ๑๓ มิถุนายน “ทักษิณ” จะติดคุกเพื่อลูกสาว

หรือจะทิ้งลูกสาวเอาตัวรอด

“ยอดคุณพ่อ” จะเลือกอย่างไหน.