บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่ารัฐบาลแพทองโพย ที่มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ความมั่นคงทางด้านการทหารของไทยถูกลองของอยู่เนืองๆ บางครั้งถึงขั้นเรียกว่าเหยียบหัวประเทศและคนไทยเลยทีเดียว โดยเฉพาะกรณีล่าสุดเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีการสาดกระสุนกันกว่า 10 นาทีถึงจะหยุดยิงและเจรจากัน ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง กองทัพอากาศ (ทอ.) ต้องส่ง F-16 ขึ้น 2 ลำ ประกบเครื่อง YAK-130 ของทหารเมียนมาที่ใช้บินรบทิ้งระเบิดโจมตีกองกำลัง KNLA ซึ่ง ทั้ง 2 กรณีไม่ใช่ครั้งแรกในยุค “รมว.กห.” ที่ชื่อ “ภูมิธรรม” แต่ประการใด ...๐

หาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มีดำริจะปรับคณะรัฐมนตรี ก็ควรต้องพิจารณาชื่อของ “ภูมิธรรม” โดยด่วน เพราะยิ่งนั่งเก้าอี้กลาโหมนานเท่าใด ก็ดูเหมือนความมั่นคงและศักดิ์ศรีของชาติที่เคยเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้เริ่มสาละวันเตี้ยลงๆ หรือ นี่อาจเป็นแผนของ “สทร.” ที่ต้องการเซาะบ่อนทำลายกองทัพอย่างช้าๆ ก็ได้ โดยเฉพาะ “กัมพูชา” ที่มี “ฮุน มาเน็ต” นายกรัฐมนตรีกุมบังเหียน ดูเหมือนจะขี่คอไทยแบบสบายบรื๋อเพิ่มขึ้นทุกวัน ...๐

พูดถึง “สทร.” แล้วไม่เอ่ยเรื่องมติแพทยสภา 8 พ.ค.2568 ไม่ได้ เพราะล่าสุดบรรดาอาจารย์หมอทั้ง “ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 82-รามาธิบดีรุ่น 7” และ “แพทย์รามาธิบดี รุ่น 1 และรุ่น 2” รวม 144 ราย ได้ร่วมลงชื่อให้กำลังใจแพทยสภาและออกแถลงการณ์ให้ยืนยันมติเดิมของแพทยสภาในเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2568 โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง และจะไม่ยินยอมให้อำนาจอื่นที่ไม่มีจริยธรรมมายับยั้ง หรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตนเด็ดขาด ซึ่งเชื่อว่าจะมีหมออีกมากมายที่จะแสดงพลังดังกล่าว นี่ ถ้า “หมอ” สามารถปฏิเสธคนไข้ได้ ก็อยากเรียกร้องให้บรรดาคุณหมอที่ร่วมลงชื่อทั้งหลายเลิกรักษา “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ที่ใช้สิทธิวีโตมติแพทยาสภาจริงๆ ...๐

หันมาส่องการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 กันบ้าง โดยก่อนเริ่มเข้าสู่งบปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทนั้น ที่ประชุมก็มีมติผ่านฉลุยและรับหลักการกฎหมาย 4 ฉบับ คือ 1.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 2.พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 3.ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....และ 4.ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ...๐

แล้วก็ไม่เกินคาดอีกเช่นกัน ที่ “พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ฯ นั้น “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน จะเป็นผู้อภิปรายเพียงคนเดียวเท่านั้น เรียกว่าพอมีเรื่องของสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง “ส้ม” จะอยู่เฉยแทบไม่ได้ กันเลยทีเดียว ...๐

หันมาดูเรื่องคดีความกันบ้าง เพราะในวันพุธมีกรณีที่น่าสนใจ เมื่อ “อดีต สว.ทรงเอ” ที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.พรรคประชาชนตั้งฉายาไว้ให้นั้น ศาลอาญายกฟ้อง อดีต สว.อุปกิต ปาจรียางกูร ในทุกข้อหา โดยชี้ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยเจ้าตัวก็ประกาศเตรียมเอาคืนผู้ตั้งฉายาทรงเอให้ นั่นคือ “รังสิมันต์” นั่นเอง ซึ่งดูเหมือน “รังสิมันต์” จะไม่ยี่หระแต่ประการใด พร้อมเตือนว่าอย่าเพิ่งรีบมั่นใจเร็วเกินไป พร้อมเตือนผู้มีอำนาจบรรดาที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ว่าคิดให้ดีในเรื่อง การสร้างบรรทัดฐานในคดียาเสพติด เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นช่องว่างให้อาชญากรอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เรียกว่าน่าจะเป็นมหากาพย์กันเลยทีเดียว ...๐

พูดถึงยาเสพติดไม่เอ่ยถึงกรณี “ทักษิณ” ไปปาฐกถาและนั่งหัวโต๊ะที่มีรัฐมนตรีและข้าราชการล้อมรอบไม่ได้ เพราะนอกจาก โชว์วิสัยทัศน์ขึงขังปราบว้าแดงแล้ว ยังเสนอดึงงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ที่เพิ่งย้ายมาจากนโยบายเรือธงจากแจกเงินหมื่นมาเข้ากระเป๋าปราบยาเสพติดอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนงานนี้ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวจะไม่เอาด้วย เพราะบอกว่าในงบประมาณปกติก็มีอยู่แล้ว แต่ก็ยังเชื่อไม่ได้อยู่ดี เพราะอย่าลืมว่าคนเขาอยู่บ้านเดียวกัน วันดีคืนดีอาจมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ปราบยาเสพติดก็เป็นได้ใครจะไปรู้ เพราะครอบครัวนี้เขาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้หมดแล้วในประเทศนี้ ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.