
ต้องยอมรับว่ารัฐบาลแพทองโพย ที่มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ความมั่นคงทางด้านการทหารของไทยถูกลองของอยู่เนืองๆ บางครั้งถึงขั้นเรียกว่าเหยียบหัวประเทศและคนไทยเลยทีเดียว โดยเฉพาะกรณีล่าสุดเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีการสาดกระสุนกันกว่า 10 นาทีถึงจะหยุดยิงและเจรจากัน ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง กองทัพอากาศ (ทอ.) ต้องส่ง F-16 ขึ้น 2 ลำ ประกบเครื่อง YAK-130 ของทหารเมียนมาที่ใช้บินรบทิ้งระเบิดโจมตีกองกำลัง KNLA ซึ่ง ทั้ง 2 กรณีไม่ใช่ครั้งแรกในยุค “รมว.กห.” ที่ชื่อ “ภูมิธรรม” แต่ประการใด ...๐
หาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มีดำริจะปรับคณะรัฐมนตรี ก็ควรต้องพิจารณาชื่อของ “ภูมิธรรม” โดยด่วน เพราะยิ่งนั่งเก้าอี้กลาโหมนานเท่าใด ก็ดูเหมือนความมั่นคงและศักดิ์ศรีของชาติที่เคยเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้เริ่มสาละวันเตี้ยลงๆ หรือ นี่อาจเป็นแผนของ “สทร.” ที่ต้องการเซาะบ่อนทำลายกองทัพอย่างช้าๆ ก็ได้ โดยเฉพาะ “กัมพูชา” ที่มี “ฮุน มาเน็ต” นายกรัฐมนตรีกุมบังเหียน ดูเหมือนจะขี่คอไทยแบบสบายบรื๋อเพิ่มขึ้นทุกวัน ...๐
พูดถึง “สทร.” แล้วไม่เอ่ยเรื่องมติแพทยสภา 8 พ.ค.2568 ไม่ได้ เพราะล่าสุดบรรดาอาจารย์หมอทั้ง “ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 82-รามาธิบดีรุ่น 7” และ “แพทย์รามาธิบดี รุ่น 1 และรุ่น 2” รวม 144 ราย ได้ร่วมลงชื่อให้กำลังใจแพทยสภาและออกแถลงการณ์ให้ยืนยันมติเดิมของแพทยสภาในเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2568 โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง และจะไม่ยินยอมให้อำนาจอื่นที่ไม่มีจริยธรรมมายับยั้ง หรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตนเด็ดขาด ซึ่งเชื่อว่าจะมีหมออีกมากมายที่จะแสดงพลังดังกล่าว นี่ ถ้า “หมอ” สามารถปฏิเสธคนไข้ได้ ก็อยากเรียกร้องให้บรรดาคุณหมอที่ร่วมลงชื่อทั้งหลายเลิกรักษา “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ที่ใช้สิทธิวีโตมติแพทยาสภาจริงๆ ...๐
หันมาส่องการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 กันบ้าง โดยก่อนเริ่มเข้าสู่งบปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทนั้น ที่ประชุมก็มีมติผ่านฉลุยและรับหลักการกฎหมาย 4 ฉบับ คือ 1.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 2.พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 3.ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....และ 4.ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ...๐
แล้วก็ไม่เกินคาดอีกเช่นกัน ที่ “พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ฯ นั้น “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน จะเป็นผู้อภิปรายเพียงคนเดียวเท่านั้น เรียกว่าพอมีเรื่องของสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง “ส้ม” จะอยู่เฉยแทบไม่ได้ กันเลยทีเดียว ...๐
หันมาดูเรื่องคดีความกันบ้าง เพราะในวันพุธมีกรณีที่น่าสนใจ เมื่อ “อดีต สว.ทรงเอ” ที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.พรรคประชาชนตั้งฉายาไว้ให้นั้น ศาลอาญายกฟ้อง อดีต สว.อุปกิต ปาจรียางกูร ในทุกข้อหา โดยชี้ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยเจ้าตัวก็ประกาศเตรียมเอาคืนผู้ตั้งฉายาทรงเอให้ นั่นคือ “รังสิมันต์” นั่นเอง ซึ่งดูเหมือน “รังสิมันต์” จะไม่ยี่หระแต่ประการใด พร้อมเตือนว่าอย่าเพิ่งรีบมั่นใจเร็วเกินไป พร้อมเตือนผู้มีอำนาจบรรดาที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ว่าคิดให้ดีในเรื่อง การสร้างบรรทัดฐานในคดียาเสพติด เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นช่องว่างให้อาชญากรอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เรียกว่าน่าจะเป็นมหากาพย์กันเลยทีเดียว ...๐
พูดถึงยาเสพติดไม่เอ่ยถึงกรณี “ทักษิณ” ไปปาฐกถาและนั่งหัวโต๊ะที่มีรัฐมนตรีและข้าราชการล้อมรอบไม่ได้ เพราะนอกจาก โชว์วิสัยทัศน์ขึงขังปราบว้าแดงแล้ว ยังเสนอดึงงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ที่เพิ่งย้ายมาจากนโยบายเรือธงจากแจกเงินหมื่นมาเข้ากระเป๋าปราบยาเสพติดอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนงานนี้ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวจะไม่เอาด้วย เพราะบอกว่าในงบประมาณปกติก็มีอยู่แล้ว แต่ก็ยังเชื่อไม่ได้อยู่ดี เพราะอย่าลืมว่าคนเขาอยู่บ้านเดียวกัน วันดีคืนดีอาจมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ปราบยาเสพติดก็เป็นได้ใครจะไปรู้ เพราะครอบครัวนี้เขาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้หมดแล้วในประเทศนี้ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
เหนือ "ทักษิณ" ยังมีฮุน เซน! ชาวโลกรู้กันดีอิทธิฤทธิ์หน้าเหลี่ยมไม่เป็นสองรองใคร เพทุบายสารพัดจนระบอบทักษิณคืนชีพ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จนต้องเอ่ยปากถึงขั้นช็อก
บันทึกหน้า 4
ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศไทยดีหรือไม่ เพราะไม่ใช่มีแต่ “ไทยแลนด์โอนลี” ประเทศเดียวที่โดนพิษของ “ทรัมป์ 2.0” ในเรื่องภาษีการค้าด้วย โดยตัวเลขที่รู้ๆ กันอยู่คือ 36%
บันทึกหน้า 4
ช็อกไปตามๆ กัน เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เผยแพร่ภาพจดหมายระบุว่า สหรัฐจะตั้งกำแพงภาษีต่างตอบแทนต่อสินค้านำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา 36% เริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค.2568
บันทึกหน้า 4
เฉลยออกมาแล้ว หลังพยายามเก็บงำตั้งแต่การประชุม ครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 3 ก.ค. หลัง ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า อำนาจรักษาราชการแทนนายกฯ ยุบสภาไม่ได้ สวนทางกับความเห็นของ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ที่บอกว่ายุบสภาได้
บันทึกหน้า 4
เริ่มต้นด้วยบันทึกเชิงกลัดกลุ้มใจ ..ประเทศไทย!!ยังไงต่อไป?!? เพราะเป็นคำถามยอดนิยมในทุกช่องโซเชียล เมื่อวันที่ "อุ๊งอิ๊ง" ต้อง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ..ตอบตรงไปตรงมา ..ก็ทนๆ กันไป เพราะการปรับ ครม.สดๆ ร้อนๆ "นอมินี" จากกลุ่มอำนาจเดิมก็ยังคงลอยหน้าลอยตาเข้ามาด้วยการจัดโครงสร้างเดิมๆ
บันทึกหน้า 4
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! ดันทุรังหามกันต่อไป ถึงเชิงตะกอนเมื่อไหร่ได้เผาจริง "แพทองธาร ชินวัตร" กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ในฐานะ "รมว.วัฒนธรรม" คนใหม่ หลังเข้าร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษ ก็ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เก็บของเพิ่มเติมจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือฤกษ์ 09.29 น. เข้ากระทรวง วธ. วันศุกร์นี้ ปิดหูปิดตาไม่สนเสียงเตือนดังลั่นทั้งประเทศ