
จะโดยความแก่ ความชรา หรือจะโดยสิ่งที่เรียกว่า ประสบการณ์ ก็แล้วแต่ เลยทำให้อดที่จะสรุปไม่ได้ว่า เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ความเป็นไปของชาติ-บ้านเมือง มันก็ไม่น่าจะผิดแผก แตกต่าง ไปจากวิถีชีวิตของมวลมนุษย์ทั้งหลาย คือมันต่างก็มี วาระ ของมัน ใครที่ไม่รู้-ไม่เข้าใจในวาระที่ว่า ก็อาจหนีไม่พ้นต้องตกอยู่ในสภาพดังที่ ท่านปัญญาจารย์ แห่งพระคัมภีร์ไบเบิล ท่านว่าเอาไว้ประมาณว่า...“ปลาที่ตกอยู่ในอวนร้ายฉันใด นกที่ตกอยู่บ่วงพรานฉันใด บุตรมนุษย์ก็ย่อมไม่ต่างไปจากนกและปลาที่ถูกดักจับเอาไว้ฉันนั้น”...
เพราะแต่ละชีวิต แต่ละสังคม แต่ละชาติบ้านเมือง...มันมักมีกระบวนการคลี่คลายในแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง ด้วยตัวของมันเอง ถ้าจะพูดกันตาม ภาษาพระ ก็อาจเรียกๆ ว่า กรรม หรือ ผลกรรม ก็ย่อมได้ อันเป็นสิ่งที่เกิดจากการกระทำของแต่ละปัจเจกบุคคล แต่ละสังคม แต่ละประเทศ ซึ่งมักจะมี ลักษณะพิเศษ หรือ ลักษณะเฉพาะ ผิดแผก แตกต่าง กันไปตามสภาพ ยิ่งโดยเฉพาะ สังคมไทย หรือประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่ออกจะสลับซับซ้อนเอามากๆ ชนิดที่บรรดานักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี นักมานุษยวิทยา หรือนักอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ยังคง เถียงกันไม่จบ ว่า...คนไทยมาจากไหน? หรือใครคือคนไทย? เพราะมันเต็มไปด้วยการผสมผสาน เต็มไปด้วยความแปลกแยก สอดคล้อง กลมกลืน จนต้องสรุปไปตาม ทางใคร-ทางมัน ซะเป็นหลัก...
แต่ก็ด้วยความแปลกแยก สอดคล้อง กลมกลืน ที่ผสมกันไป-ผสมกันมา ผสานกันไป-ผสานกันมา จนแทบแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นหลัก อะไรเป็นรอง มันก็กลับก่อให้เกิด จุดลงตัว แบบชนิดแทบไม่น่าเชื่อ-แต่ก็คงต้องเชื่อ นั่นคือก่อให้เกิด ความเป็นไทย ที่ยากจะให้นิยาม ความหมาย ลงไปได้อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน เพราะมันมีทั้งด้านบวก ด้านลบ อยู่ภายในตัว ด้านที่แม้นเป็นสิ่งตรงข้าม แต่ก็กลับกลายเป็นสิ่งเดียวกันไปจนได้ คือมีทั้งความอ่อนโยน นุ่มนวล ความเห็นอก-เห็นใจผู้อื่น ความยืดหยุ่น อ่อนน้อม ไม่คิดจะชิงชัง รังเกียจ ต่อผู้ที่แตกต่างไปจากตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสีผิว เผ่าพันธุ์ ชาติไหน ภาษาไหน หรือศาสนาใดๆ ก็แล้วแต่...
แต่ขณะเดียวกัน...มันก็มีความก้าวร้าว แข็งทื่อ ซ่อนลึกๆ อยู่ภายใน มีความอิจฉา ริษยา ต่อผู้ที่เกินหน้า-เกินตา ความยึดมั่น-ถือมั่นแบบตายตัว แต่ก็พร้อมที่จะโอนไป-เอนมา ให้กับผู้ใกล้ชนิด สนิทสนม พร้อมให้ความอุปถัมภ์ต่อเฉพาะพรรคพวกและบริวารทั้งหลาย แถมยังชอบคุยโม้ โอ้อวด ในบางครั้ง บางคราซะอีกด้วย จนทำให้สิ่งที่เรียกว่า ความเป็นไทย เลยเป็นอะไรที่อธิบายลำบากเอามากๆ กระทั่งท่านองคมนตรี จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่เคยพยายามนำเอาสิ่งเหล่านี้มาอธิบายใน เชิงบวก แต่มิอาจปฏิเสธถึงสิ่งที่เป็นไปใน เชิงลบ ได้ง่ายๆ อันอาจส่งผลให้ความพยายามที่จะรณรงค์ ชูธง ความเป็นไทย ของท่าน ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เลยค่อยๆ เหี่ยวปลาย จนแทบไม่ได้ถูกหยิบมาพูดถึง เอ่ยถึง กันแล้วในทุกวันนี้...
ด้วยความที่มีลักษณะพิเศษ หรือลักษณะเฉพาะ ที่ออกจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เอามากๆ เช่นนี้ เลยทำให้การทำความเข้าใจกับความเป็นไปของ วาระ ต่างๆ มันจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าปวดเศียร เวียนเกล้า น่าปวดหัว เวียนเฮด เสียเหลือเกิน หรือทำให้บรรดาผู้กล้า ผู้เสียสละ ผู้หวังดีต่อบ้านต่อเมืองทั้งหลาย ต่างก็เคยติดบ่วง ติดแร้ว ติดอยู่ในอวนร้าย ติดอยู่ในกับดักของนายพราน ไม่ต่างไปจากนก-จากปลา มาแล้วไม่รู้จะกี่รายต่อกี่ราย ต่อกี่ยุคกี่สมัย เอาเลยก็ว่าได้ แถมยังไม่อาจคลี่คลายสิ่งที่เป็นอุปสรรค ขัดขวาง ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองได้ซักกี่มาก-น้อย จนทำให้เกิดสภาวะ คนดีที่โลกลืม หรือ คนดีที่เมืองไทยไม่ต้องการ มาโดยตลอด...
แม้คนที่เคยได้ชื่อว่ายอดฮึด ยอดสู้ กินมื้อเดียว อาบน้ำแค่ 5 ขัน อย่าง คุณพี่ลอง หรือ มหาจำลอง ที่ได้สร้างตำนานแห่งการต่อสู้ไม่รู้จะกี่เรื่องต่อกี่เรื่อง กี่ยุคกี่สมัย ยังอดไม่ได้ที่จะเคยปรารภ รำพึงออกมาดังๆ ถึงลักษณะพิเศษ ลักษณะเฉพาะ ของสังคมไทย ว่าหนักไปทาง สังคมทอนกำลัง อะไรทำนองนั้น ด้วยเหตุนี้...บรรดา นักสู้ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะรุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือรุ่นไหนๆ ก็เถอะ คงต้องหันมาให้ความสำคัญ หันมาสร้างความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อสิ่งที่เรียกว่า วาระ ต่างๆ ให้จงหนัก มองให้ลึกลงไปถึงกระบวนการ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ของสรรพสิ่ง อันมี ความเป็นสากล ที่สามารถครอบคลุมไปถึงลักษณะพิเศษ ลักษณะเฉพาะ ใดๆ ก็ตามที นั่นก็คือ... กฎเหล็ก หรือกฎอันว่าด้วยความเป็นไปแห่งธรรมชาติ ที่สรุปไว้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป นั่นแล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยในโลกแห่งความเปลี่ยนแปลง!!!
จากที่เคยเรียกๆ กันว่า คุณพ่ออเมริกา อันเนื่องมาจากความยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ระดับสามารถ สั่งหันซ้าย-หันขวา ใครต่อใครมาทั่วทั้งโลก แม้แต่ประเทศไทยแลนด์
ถึงคิว 'ปอยเปต'
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
สถานะเมืองรัตนโกสินทร์หลังศึกเขมรรอบสอง
ผู้เขียนขอพักบทความลีลาชีวิตท่านที่ลัคนาสถิตราศีมีนปี 2569 ซึ่งเป็นลัคนาสุดท้ายที่จะเขียนไว้พลางก่อน เพราะเมืองคับขันเกิดการสู้รบ
อันตรายของ'พรรคการเมือง'และ'ชาติบ้านเมือง'!!!
จะเป็นเดือนนี้-ปีนี้ หรือเดือนหน้า-ปีหน้า...ก็ยังมิอาจสรุปได้ ว่ารัฐบาล เสี่ยหนู ท่านจะ ยุบสภา กันในช่วงไหน จังหวะไหน (ล่าสุด...เห็นว่าทูลเกล้าฯ ถวายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
รอดูฝีมือ 'ผบช.ไซเบอร์'
ปลุกขวัญกำลังใจกันเต็มเปี่ยม ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ส่ง บิ๊กราญ-พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูา
ลัคนากุมภ์กับลีลาสำคัญของชีวิต ปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอี

