ใช้คำไทยผิดชีวิต รมต.เปลี่ยน

การเมืองไทยไม่เคยขาดสีสันจริงๆ มีมุมให้พูดได้ทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อ "ดร.หญิง" ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการป้ายแดง ยังไม่ทันได้นั่งเก้าอี้ร้อนๆ ก็เจอทัวร์ลงซะแล้ว เรื่องของเรื่องคือ เพจ คำไทย ออกโรงจวกยับ หลังขุดโพสต์เก่าที่เจ้าตัวสะกดภาษาไทยผิดเพี้ยนราวกับเด็กอนุบาลหัดเขียน เช่น "กฎหมาย" เขียนเป็น "หฎหมาย" หรือ "ชี้แจง" เขียนเป็น "ขี้แจง" หรือแม้กระทั่งคำดรามาโลกแตกของชาวไทยอย่าง "คะ ค่ะ" ก็ยังผิด งานนี้ชาวเน็ตถึงกับร้องยี้ว่า นี่เหรอผู้กำกับการศึกษาเมืองไทย!

แต่เดี๋ยวก่อน ดร.หญิง ไม่ปล่อยให้ดรามาลอยนวล ออกมาแก้ตัวทันควันว่าสาเหตุมาจาก "พิมพ์ด้วยเสียง" ไม่ได้ตรวจทาน ฟังเหมือนข้ออ้างน้ำขุ่นๆ แต่ก็ต้องให้เครดิตที่กล้ายอมรับและสัญญาจะไม่ให้เกิดซ้ำ แต่ปัญหาคือทำไมไม่ตรวจทานคำผิดให้ละเอียดก่อน ถ้าเป็นโพสต์ยาวๆ ประหนึ่งเรียงความยังพอเข้าใจได้ แต่นี่เล่นใช้คำผิดที่แม้คนปัดผ่านโพสต์เร็วๆ ก็ยังเห็นชัด

ย้อนดูประวัติถือว่าไม่ธรรมดา จากนักวิชาการสู่โฆษกพรรคเพื่อไทย และกระโดดขึ้นเก้าอี้ รมช. ก็ต้องยอมรับว่าสายการเมืองมาเต็ม แต่ที่ทำเอาหลายคนซุบซิบยิ่งกว่าคือ ดูเหมือน ศธ.จะกลายเป็น "กระทรวงรับน้อง" ไปแล้ว เพราะนอกจากดรามาภาษาไทย ดร.หญิง ยังต้องมาแบกภาระนโยบายการศึกษาที่เหมือนรถไฟเหาะ ตั้งแต่ลดการบ้านเด็ก ไปจนถึงเพิ่มทักษะดิจิทัล แต่โครงสร้างระบบโรงเรียนยังรวนไม่เลิก

ที่พีกไปกว่านั้นคือการโยกย้ายเก้าอี้ใน ครม.แพทองธาร 1/2 ทำเอาคนสงสัยว่า การเลือก รมช.วัดจากอะไรกัน ความรู้ความสามารถ หรือแค่โควตาพรรค? เพราะถ้าจะให้ดูแลอนาคตเด็กไทย ประชาชนก็อดหวั่นไม่ได้ว่า แค่เรื่องคำผิดยังไม่คิดจะแก้ไขก่อนโพสต์ แล้วนโยบายที่จะชี้นำการศึกษาไทยจะออกมาเป็นแบบไหนกันแน่

งานนี้ ดร.หญิง ต้องพิสูจน์ฝีมือให้ได้ว่าผิดพลาดเล็กๆ ไม่ใช่ตัวชี้วัดความสามารถ แต่เชื่อว่าคนที่เป็นลูกศิษย์โรงเรียนกวดวิชาไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ครูลิลลี่ หรืออาจารย์ปิง ที่เป็นอาจารย์ภาษาไทยคงต้องกำหมัดเมื่อได้เห็นโพสต์เหล่านั้น เอาเป็นว่าท่านรัฐมนตรีอย่าให้มีครั้งที่ 2 นะครับ เพราะคนรักภาษาไทยจ้องโพสต์ท่านอยู่.

วอชเชอร์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ