สงสัยว่า “รัฐนาวาบิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ในช่วงพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือไม่ก็ถูกราหูทับลัคนาเป็นแน่ เพราะตั้งแต่เปิดศักราชปีเสือน้ำเป็นต้นมา เรือแป๊ะก็ดูเหมือนส่ายโอนเอนจะจมน้ำอยู่รอมร่อ ความวัวว่าด้วย “21 ส.ส.” ที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่จางหาย ก็มีความควายว่าด้วย “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” เข้ามาแทรก ให้รัฐนาวามีรูรั่วให้น้ำเข้ามาอีก ...๐
ที่สำคัญดูเหมือนจะไม่จบง่ายเสียด้วย เพราะแม้ล่าสุด “บิ๊กตู่” จะประกาศชัดว่าไม่มีความขัดแย้งกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยเรื่องนี้ต้องยึดหลักกฎหมาย และจะให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมกันตัดสินใจ ที่สำคัญในการประชุม “ครม.” เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่เข้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็พูดตอนหนึ่งในการประชุมให้น่าคิดว่า “วันนี้ผมพิสูจน์แล้วว่าใครเป็นอย่างไร ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในห้องนี้” เป็นการส่งนัยที่น่าตีความและนำไปต่อยอดมิใช่น้อย ...๐
จึงไม่น่าแปลกใจแต่ประการใด ใน การประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกปี 2565 ครั้งที่ 1/2565 ที่แม้เป็นการประชุมรูปแบบไฮบริดนั้น กลับ ไม่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วม โดยมีเพียงตัวแทนประชุมทางไกลเท่านั้น ทั้งที่ “หมอหนู” ก็น่าจะรู้ว่าการประชุมเอเปกนั้นเป็นเรื่องที่ “พล.อ.ประยุทธ์” หมายมั่นปั้นมืออย่างมากที่จะจัดงานช้างครั้งนี้ ...๐
บอกได้ดำเดียวว่าตอนนี้ต่างยังเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันอยู่ ซึ่งก็ต้องจับตาว่าผลจะลงเอยอย่างไร เพราะล่าสุด “พรรคภูมิใจไทย” โดย “ภราดร ปริศนานันทกุล” โฆษกพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวว่า ยึดหลัก 3 ข้อ คือ "ถูกกฎหมาย-ประโยชน์ของรัฐ-ลดรายจ่ายให้ประชาชน” ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของพรรคในประเด็นนี้เฉกเช่นเดียวกับกรณี “ใบกระท่อม-กัญชา” ทีเดียว ...๐
งานนี้ถ้า “บิ๊กตู่” หักด้ามพร้าด้วยเข่าตามที่ “พี่ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่คาดว่าจะนำเสนออีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ ข้างหน้า ก็อาจทำให้การเป็นเจ้าภาพเอเปกของลุงตู่เป็นหมันก็ได้ หรืออาจจะผ่าทางตันตามข้อเสนอของ “วีระกร คำประกอบ” ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่ายังไม่ควรเร่งรีบต้องต่อสัญญาในขณะนี้ ยังเหลือเวลาอีก 7 ปี เพราะอายุสัมปทานจะหมดลงในปี 2572 โดยอาจมีการจับเข่าคุยหรือใช้รถไฟฟ้าอีก 10 สายในการบีบเค้นและข้อต่อรองกับ “บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)” หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ก็น่าสนใจ ...๐
ข้อเสนอของ “วีระกร” ก็ดูเหมือนสอดรับสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) โดย “น.ส.สารี อ๋องสมหวัง” ก็ระบุเช่นกันว่าไม่ควรรีบดำเนินการ รวมทั้งควรให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่จัดการน่าจะเหมาะสมกว่า ก็ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ควรรับใช้พิจารณา แต่เชื่อว่าที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก” อยากให้สะเด็ดน้ำไม่ใช่เพราะเสนอมาแล้ว 7 ครั้งหรอก แต่เป็นปัญหาหนี้สินและดอกเบี้ย ที่ยิ่งยื้อก็ยิ่งพอกพูนเป็นดินพอกหางหมูนั่นเอง ที่บีบให้รัฐบาลควรจะเร่งแก้เรื่องดังกล่าว งานนี้ก็คงต้องดูว่า “นายกรัฐมนตรี” จะชั่งใจเลือกและให้ความสำคัญกับเรื่องใด ...๐
หันมาเรื่องร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่... พ.ศ. ... หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่ “เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยกลุ่มประชาชนเบียร์เสนอ กันบ้าง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วถูกเพื่อนร่วมฝ่ายค้านอย่าง “พรรคเพื่อไทย” เล่นเกมการเมืองจนทำให้ร่างกฎหมายค้างมาถึงสัปดาห์นี้ ล่าสุดที่ประชุมก็มีมติเห็นด้วยให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ ครม.พิจารณาก่อน ด้วยคะแนนเสียง 207 เสียง ไม่เห็นด้วย 195 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง โดยรายชื่อที่เห็นด้วยนั้นก็เรียกว่ามี ส.ส.จากซีกพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเศรษฐกิจไทยมาร่วมยกมือด้วย และหลังจาก 60 วัน หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองให้ต้องเปลี่ยนก็ต้องมาลุ้นกันอีกรอบว่า “กฎหมายสุราก้าวหน้า” จะไม่ถึงฝั่งฝันหรือไม่ ที่สำคัญ “เท่าพิภพ” อย่าเพิ่งดีใจจนออกหน้าไป เพราะอย่าลืมว่ายังมีบรรดาเครือข่ายต่อต้านแอลกอฮอล์และน้ำเมาทั้งหลายที่ยามนี้ยังวางตัวสงบเงียบอยู่ หากจำกันได้ ขนาด “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ยังจอดไม่ได้แจว ถูกต้านในการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้วนะจ๊ะตัวเอง ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



