
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด นอกจากสถานการณ์รัฐบาลปริ่มน้ำ ที่มีเพียง 253 เสียง ห่างจากเสียงกึ่งหนึ่ง 248 เสียงนิดเดียว เรียกว่าเหนื่อยที่จะลากไปต่อ แต่ที่น่าห่วงกว่าคือ “เรตติ้ง” ของนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เรียกได้ว่าเดินต่อไปอย่างยากลำบาก
เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. วิเคราะห์ผลนิด้าโพลเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยฝากผลโพลถึง “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง” ว่า ถ้าจะดูทิศทางทางการเมือง หรือกระแสสังคม สามารถวัดได้ถึงความนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งส่วนหนึ่งสามารถวัดได้จากผลการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ถึงทิศทางทางการเมือง
ความเชื่อมั่นและความต้องการของประชาชน ในประเด็นการเมืองที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ว่า รัฐบาลของนางสาวแพทองธารจะยุบสภา หรือนางสาวแพทองธารจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ผลการสำรวจของนิด้าโพลล่าสุดพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยไม่ต้องการให้นางสาวแพทองธารอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป มีสูงถึง 82.29% นั่นหมายความว่า ต้องการให้นางสาวแพทองธารลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 42.37% และให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ 39.92% รวมทั้งหมด 82.29% ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก
รวมไปถึงผลการสำรวจก่อนหน้านี้ ของสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา หรือ IFD Poll สำรวจความเชื่อมั่นของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร พบว่า ประชาชนไม่เชื่อมั่นและไม่ค่อยเชื่อมั่น สูงถึง 85.59% และต้องการให้รัฐบาลยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เป็นอันดับหนึ่ง 47.10% รวมถึงผลการสำรวจของ TSU Poll ของมหาวิทยาลัยทักษิณ พบว่าประชาชนต้องการให้รัฐบาลยุบสภา 67% ให้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธารลาออก 30% มีให้อยู่ต่อเพียง 3% เท่านั้น
ถ้าวัดจากกระแสของประชาชนผ่านผลการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ 3 สำนักแล้ว เห็นได้ว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคือ นางสาวแพทองธารควรจะลาออก หรือยุบสภา ซึ่งเป็นบทสรุปที่ชัดเจนว่า ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้นางสาวแพทองธารออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป ซึ่งผลการสำรวจดังกล่าวเป็นกระแสเรียกร้องของสังคม
อยากจะฝากความเห็นเรื่องนี้ไปยังผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ อย่าฝืนความรู้สึกของประชาชน อย่าดันทุรัง เพื่อหวงตำแหน่งหรือรักษาอำนาจไว้ ควรจะเปิดทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้เลือกทางเดิน หรืออนาคตของประเทศ โดยการเลือกตั้งทั่วไป หรือการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่
จึงฝากเรื่องนี้มายังพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ นางสาวแพทองธาร โปรดพิจารณาตัดสินใจตามความต้องการของประชาชน และเสียงเรียกร้องของประชาชนคนไทยทั้งประเทศด้วยครับ
๐ อีกเรื่องสำคัญที่จะปล่อยให้รัฐบาลและนายกฯ ทำงานเพียงลำพังไม่ได้ หลังเกิดคลิปเสียงลุงหลาน ล่าสุดสภาสูงเริ่มขยับอีกครั้ง พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เตรียมขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ ว่า ปัจจุบันไทยประสบปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแนวชายแดนเมียนมาที่มีกลุ่มว้าแดงรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ไทย ความขัดแย้งเรื่องเส้นเขตแดนบริเวณช่องบกกับกัมพูชาซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยผู้ก่อความไม่สงบสามารถหลบหนีการจับกุมไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ง่าย
พล.อ.สวัสดิ์กล่าวว่า ปัญหาในข้างต้นล้วนเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน และเชื่อมโยงกันในทุกมิติ ทั้งด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความมั่นคงของมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน
จึงเห็นว่าวุฒิสภาควรจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้น เพื่อศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนแบบบูรณาการ เพื่อให้การแก้ไขมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความสงบสุข และความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยญัตติดังกล่าวจะเสนอเข้าที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 15 กรกฎาคม และระยะเวลาในการดำเนินการ 90 วัน.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

