
ไม่รู้จะขำดีหรือไม่กับพฤติกรรมของ “แพทองโพย” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่ ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เพราะนับเนื่องตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นมา ดูเหมือน “อุ๊งอิ๊ง” จะเล่นบทเป็นเตมีย์ใบ้ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อเลย ได้แต่ยิ้มถ่ายเดียว สงสัยจะลืมไปว่ายังมีหัวโขนอีกใบเป็น “รมว.วัฒนธรรม” ด้วย ซึ่งสามารถตอบในฐานะ รมว.วธ.และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลก็ได้ ...๐
ที่ขำหนักคือ การไม่ตอบเพราะ กลัวถูกครหาว่ายังปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่การเข้าไปบ้านพิษณุโลกหารือเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ที่ผ่านมานั้น มันเป็นเรื่องปกติของ รมว.วธ.หรืออย่างไร หรือแม้แต่การลงไปเยี่ยมทหารที่ถูกกับระเบิดโดยอ้างว่าคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้ และล่าสุดการ ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง “X” มาพูดถึงสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุวิภานั้น มันหน้าที่ของรัฐมนตรีวัฒนธรรมตรงไหนมิทราบจ๊ะ ...๐
พูดถึงอุ๊งอิ๊งแล้วไม่เอ่ยถึง “ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์” หรือครูธัญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนไม่ได้ เพราะได้ลุกขึ้นปรึกษาหารือในสภาจากกรณีครบ 180 วันสมรสเท่าเทียม แต่ได้ท้วงติงว่ายังมีกฎหมายจำนวนมากที่ยังไม่ได้แก้ไขหรือยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด โดย รัฐมนตรีหลายคนที่ขยันไปเดินงานไพรด์ ออกกล้องถ่ายรูปยิ้มแย้มแจ่มใสช่วยเร่งแก้ไขด้วย แหม! งานนี้ก็คงต้องหมายถึง “นายกฯ อิ๊งค์” นั่นแล เพราะโผล่งานไพรด์อยู่ทุกครั้งครา ...๐
หันมาดูเรื่อง “ฮอตออฟเดอะทาวน์” ที่มาแทนที่ “สีกากอล์ฟ” กันบ้าง นั่นคือ คำตัดสินศาลทหารสูงสุดให้จำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 15,000 บาท ในคดีที่ “ภคพงศ์ ตัญกาญจน์” หรือน้องเมย อดีตนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัย โดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งไม่ว่าใครต่อใครที่เห็นคำตัดสินดังกล่าวก็ต้องบอกว่าควันออกหูกันทั้งนั้น โดยเฉพาะค่ายส้มอย่าง “พรรคประชาชน” จึงไม่แปลกที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน จะออกแคมเปญ “ลากทหารขึ้นศาลพลเรือน” ซึ่งนอกจากบรรดาส้มทั้งหลายชูมือเชียร์กันท่วมท้นแล้ว คนส่วนมากก็หนุนด้วย ...๐
ต้องเรียกว่า “กองทัพ” ที่กำลังได้รับดอกไม้จำนวนมากจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ดีๆ ก็มาได้ก้อนหินแทน ที่สำคัญก้อนหินมาจากทุกฝักฝ่ายเสียด้วย ในขณะเดียวกันก็ ต้องยกนิ้วให้ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่รู้จักพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะบอกว่าอยากไปพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัวเพื่อพูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ และ อีกด้านหนึ่งก็ให้จเรตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาเรื่องทางวินัย แม้ขณะเกิดเหตุคู่กรณียังไม่ใช่ตำรวจก็ตาม รวมถึงกรณีแพทย์ผู้ชันสูตรรายแรก งานนี้ต้องปรบมือให้ “บิ๊กต่าย” เพราะก้อนหินแทบไม่มาที่ตำรวจเลย ...๐
หันมาการเมืองว่าด้วย “ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล” กันบ้าง เพราะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนักโทษเด็ดขาดชายที่ได้รับพระราชอภัยโทษจากคดีทุจริตจากคดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์, หวยบนดิน และแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ปก็มาร่วมด้วย เรียกว่าไม่ต้องปิดหน้าหรือเหนียมอายกันแล้ว โดยบรรดาลูกหาบต่างก็บอกว่าไม่ใช่การครอบงำแต่ประการใด แต่เชื่อไหมหากไปจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านทั่วไปเกินค่อนประเทศก็บอกว่าครอบงำชัดเจน ...๐
เมื่อพูดถึงพ่อก็ต้องวกกลับมาถึงลูกอีกระลอก เพราะล่าสุด “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ออกมาบอกว่า “อุ๊งอิ๊ง” มั่นใจว่าจะกลับมาแน่นอนๆ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นการสนทนาในฐานะลุงหลาน แหม! ทีอย่างนี้บอกว่าการสนทนาไม่เป็นทางการในฐานะลุงหลาน แล้วทำไม “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” เลขาธิการนายกฯ ถึงบอกว่าจะมีการยื่นขอขยายเวลาในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งเล่า ในเมื่อพาเหรดยืนยันว่าเป็นการสนทนาไม่เป็นทางการบ้าง มีความจริงใจบ้าง เป็นเจตนาบริสุทธิ์บ้าง แต่กลับจะขอขยายเวลาชี้แจงจากที่ได้ถึง 31 ก.ค.นี้ไปอีก มันไม่แปลกหรือจ๊ะตัวเอง ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าว ว่าที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่อย่าง “วิทัย รัตนากร” กันบ้าง เพราะเรียกว่าได้รับเสียงหนุนมากกว่า “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตว่าที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติว่าวไกลโข แม้ว่าตลาดหุ้นจะดิ่งเหวติดลบ เมื่อทราบชื่อก็ตามที แต่อย่างน้อยทั้งอดีตขุนคลังอย่าง “กรณ์ จาติกวณิช” หรือฝ่ายค้านอย่าง “ศิริกัญญา ตันสกุล” ต่างก็ยกมือเชียร์ ซึ่งต่างก็เห็นตรงกันว่า “วิทัย” จะเข้ามาแก้ไขในเรื่องการลดดอกเบี้ยและส่วนต่างดอกเบี้ยได้ งานนี้ก็คงต้องรอดูว่าจะสมราคาคุยกันหรือไม่ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


