ประชาชนกับทหารในดวงเมือง

ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

กำเนิด-วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.

ลัคนาสถิตราศีเมษ-ธาตุไฟ

พระอังคารดวงเดิม (๓) สถิตในราศีพฤษภ 

พระจันทร์ดวงเดิม (๒) สถิตในราศีกรกฎ มาตรฐานเกษตราธิบดี-โยคหน้าพระอังคาร (๓)

อาถรรพ์ดวงเมืองตามฤกษ์กำเนิดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 1 พระผู้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงเลือกมานั้น ผู้เขียนจะหยิบยกมาเล่า เพื่อที่เมื่อเมือง เกิดวิกฤต หรือ คับขันมาก หรือหนักหนาสาหัส คราวใดแล้ว คนไทยจะได้มีกำลังใจ ว่า จะรอดได้แบบไม่น่าเชื่อ และ หลังจากวิกฤตแล้วจะมีโอกาสตามมาทุกครั้ง

เรื่องนี้ปรากฏในตำนานวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน ที่ฤกษ์กำเนิดเมืองคือ วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ที่พิสูจน์ความขลังมาแล้วถึง 4 ครั้งใหญ่ คือ

1.ศึกพระเจ้าปดุงหรือสงครามเก้าทัพที่สยามเสียเปรียบด้านกำลังพลมากมาย แต่เมื่อได้สู้เต็มที่แล้ว ข้าศึกก็มีปัญหาภายในต้องยกทัพกลับเอง หลังจากนั้นราชอาณาจักรสยามก็แผ่ไพศาล

2.เมื่อชาติตะวันตกล่าอาณานิคม สยามเป็นประเทศเดียวแถบนี้ที่รักษาเอกราชไว้ได้ แม้จะต้องจำแขนขาดเสียดินแดนไปมากมาย

3.เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สอง-สงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นบุก ไทยไม่มีทางเลือกต้องประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ไทยกลับรอดหวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปดด้วยคณะเสรีไทย

4.ในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อคราวกองทัพเวียดนามจ่อชายแดนไทยหมายจะบุกยึดเมือง คนส่วนใหญ่คาดว่าไทยจะล้มเป็นโดมิโนเป็นคอมมิวนิสต์ตามประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ แถบนี้ แต่วันดีคืนดีกองทัพเวียดนามกลับหายจากชายแดนไทยเพราะต้องไปรับมือกองทัพจีนที่ทำสงครามสั่งสอน

แม้แต่คราวโควิด-19 ระบาด หลังสู้เพื่อเอาชีวิตรอดกันผ่านไปแล้ว องค์การอนามัยโลกยังยกย่องระบบสาธารณสุขไทยในการรับมือโรคอุบัติใหม่

เมื่ออ่านจากดวงเดิมดวงเมืองแล้ว มีหลักหลายอย่างประกอบกันที่จะให้ไทยรอด วันนี้จะพูดถึง 2 หลักคือทหารและประชาชนประกอบกัน คือ

ลัคนาเมืองสถิตราศีเมษ พระอังคาร (๓) ซึ่งในความหมายทางโหรคือ นักรบ-ลัทธิทหาร-กองกำลังของชาติ-ความกล้าหาญ-นักสู้-การต่อสู้-สงคราม-สนามรบ ฯลฯ จึงเป็น ดาวประจำชีพเมือง (ตนุลัคน์)

เมืองถือกำเนิดในวันอาทิตย์ พระอังคารจึงเป็น ดาวเดช ตามหลักทักษา ซึ่งหมายถึงตบะบารมี-อำนาจ

วินาทีที่ดวงชะตาเมืองถือกำเนิดจากพระราชพิธีพระนครฐานนั้น พระอังคารดวงเดิมสถิตในราศีพฤษภ จึงอยู่นำหน้าลัคนาเมืองที่สถิตราศีเมษ หรือทางโหรเรียก ศูนย์พาหะ

ความมุ่งหมายของพระผู้ทรงเลือกฤกษ์กำเนิดเมืองคือล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 1 คงทรงมุ่งหมายให้ทหาร-ความกล้าหาญ-ความเข้มแข็ง-ตบะบารมี-ออกฤทธิ์เดชในบทบาทสำคัญที่จะนำพาเมืองฝ่าฟันไปข้างหน้าตลอดจนกว่าจะไม่มีเมือง

ฉะนั้นเราจึงจะเห็นกองทัพไทยมีบทบาทมาจูงประเทศตลอด บวกบ้าง-ลบบ้างก็ว่ากันไป แต่ จะปฏิเสธอาถรรพ์ดวงเมืองที่ออกแบบมาเช่นนี้คงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจูงเมืองให้รอดในช่วงคับขัน หรือ คราวศึกสงคราม

ต่อคำถามที่ว่า ทหารมีไว้ทำไม? ก็คงจะให้คำตอบได้จากดวงเมืองที่ออกแบบไว้เช่นนี้

แล้วด้วยอาถรรพ์ภายหลังต่อสู้ดิ้นรนเต็มที่แล้ว ถึงอย่างไรเมืองก็รอด ที่ผ่านมาในอดีตคงพอจะสะท้อนให้กำลังใจคนไทยว่าสิ่งที่กำลังเกิดกับเมืองขณะนี้คือเพื่อนบ้านกวนโมโห แถมคนไทยบางพวกที่มีอำนาจไปมีผลประโยชน์เกี่ยวพันคล้ายหลิ่วตาให้ข้าศึกมาระรานจนต้องเปิดศึกกันระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อเช้าตรู่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นั้น หากเชื่อมั่นในดวงเมืองแล้วก็จะได้มีกำลังใจ

ส่วนด้านลบของพระอังคารที่หนึ่งในความหมายคือ การทะเลาะวิวาท อารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อเป็นศูนย์พาหะคือนำหน้าลัคนาเมืองเช่นนี้ เราจึงเห็นคนไทยชอบทะเลาะกันเอง-หรือใจร้อน-วู่วามจนกลายเป็นเรื่องปกติในเมือง

ทีนี้มาดูประชาชนในดวงเมืองว่า พวกเราอยู่กันที่ไหน?

หลักทางโหรนั้น ในดวงเมือง พระจันทร์ (๒) เป็น ดาวตัวแทนประชาชน ถูกวางให้สถิตในราศีกรกฎ-ได้ มาตรฐานเกษตราธิบดี คือ มั่นคง

พระจันทร์นี้สถิตในราศีที่สามต่อจากพระอังคาร (๓) ทางโหรเรียก-พระจันทร์ (๒) ประชาชน โยคหน้าพระอังคาร

อันมุมโยคนี้ทำให้ดาวที่ถูกโยค สำหรับดวงเมืองคือพระอังคาร (๓) เข้มแข็ง นั่นคือ เมื่อมีเรื่องสงคราม หรือ ต้องสู้ ประชาชนจะช่วยให้ทหารหรือกองกำลังของชาติเข้มแข็ง

แค่ดูคราวนี้เหตุการณ์คับขันเกิดจากกัมพูชา เหล่าประชาชนชาวไทยทั้งหลายจึงพร้อมใจกันโอบอุ้มทหารและกองกำลังของชาติคนละไม้คนละมือแบบเหลือเชื่อ และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าจะไม่มีเมืองรัตนโกสินทร์

ฝากไว้สุดท้ายคือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตามที่มีคำทำนายเดิมที่ให้ไว้ว่า ระหว่าง 29 กรกฎาคม-23 สิงหาคม 2568 ก่อนหรือหลังประมาณเจ็ดวัน ให้ระวังอุบัติเหตุ-อุบัติภัยรอบใหม่ที่จะสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตคนครั้งใหม่ต่อจากคราวตึก สตง.ถล่ม ที่จะเกิดได้ทุกทาง ดิน-น้ำ-ลม-ไฟควัน-อากาศแก๊ส-ระเบิด นั้น

ที่นำมาก่อนแล้วคือ น้องน้ำเพราะพายุวิภา และ ฤทธิ์คุณลุงข้างบ้านจนต้องเปิดศึกกัน และยังจะมีตามมาอีกเป็นระลอกๆ ใหญ่ให้รับมือในระหว่างนี้

นอกจากสู้แล้วรอดแล้ว อาถรรพ์ดวงเมืองอีกอย่างคือ ทุกวิกฤตจะนำมาซึ่งโอกาส

จึงเมื่อเมืองตีฝ่ารอบนี้ไปได้แล้ว เราน่าจะได้เห็นการพัฒนาขึ้นของกองทัพ-กองกำลังชาติ แบบก้าวกระโดด ในระดับเมื่อยืนอยู่ข้างกำแพงพระนครกรกฎาคม 2572 เราจะถามตัวเองว่า กองทัพไทยไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร?   

เพราะระหว่าง กรกฎาคม 2565-กรกฎาคม 2572 ดาวมฤตยูเจ้าของการปฏิวัติใหญ่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในกองกำลังของชาติให้ล้ำสมัยมาก (มฤตยูจร o เดินในราศีพฤษภ-ทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง)

จึงถ้าไม่ฉวยโอกาสใช้วิกฤตคราวนี้ลงมือให้กองทัพทัน-ล้ำสมัยแล้วละก็ จะน่าเสียดายมาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์