ยังไม่หมดแค่สู้แล้วได้พื้นที่ 11 จุดกลับมา

รูปที่ 1-ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และเกณฑ์โหร-บ่งบอกสู้แล้วได้สิ่งที่เสียไปกลับมา

พระเสาร์จร (7) เดินถอยหลังในราศีมีน

พระราหูจร (8) เดินในราศีกุมภ์

พฤหัสบดีจร (5) เดินในราศีเมถุน

พระอังคารจร (3) เดินในราศีกันย์

รูปที่ 2-ภาพคำทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2568-ตีพิมพ์ตั้งแต่ธันวาคม 2567 ถึงเกณฑ์-เมืองเสียอะไรไปก่อนแต่สู้แล้วได้กลับคืนมา

    อย่างน้อย หนึ่งในคำทำนายเกณฑ์สำคัญ ในดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2568 ที่ให้ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ของผู้เขียนก็ไม่พลาด แล้วยังให้ความสำคัญถึงกับ ยกขึ้นมาเป็นลำดับแรก คือ---เมืองเสียอะไรไปก่อนแต่สู้แล้วได้กลับคืนมา---

    แม้แต่ช่วง 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม 2568 ที่ยกเว้นไว้ในคำทำนายแยกย่อยว่าไม่น่าจะเกิด ยังเกิดเรื่องใหญ่สองเรื่อง ให้เห็นคาตา หลังมีเหตุปัจจัยนำมาก่อน คือ

    1.ตะลึง-ระทึกใจ-โกรธแค้น-หวาดหวั่น เพราะระเบิด-ปืน-ควัน-ไฟ-เลือด-น้ำตา-พลัดที่นาคาที่อยู่เข้าศูนย์อพยพ-บาดเจ็บ-พิการ-สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่คนทั้งประเทศก็ร่วมมือร่วมใจกันสู้ไปพร้อมกับกองกำลังของชาติ ในศึกเขมร-ไทย ระหว่าง 24-28 กรกฎาคม 2568

    ผลคือ เมื่อเสร็จสิ้นการปะทะ ไทยสามารถยึดพื้นที่ 11 จุดที่เคยถูกยึดครองเพราะปล่อยปละละเลยมานานกลับมาให้ล้อมรั้วลวดหนามและปักธงไทยอีกครั้ง

    2.วันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังจากเกือบล้มละลายไปแล้ว แต่จากการสู้ยิบตาก่อนหน้านี้ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะฟื้นฟู หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติ ได้กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง

    แล้วเกณฑ์อะไรบ่งบอกในดวงชะตาเมือง ถึงอาการเมืองเสียอะไรไปสู้แล้วได้กลับมา ให้ได้ทราบไว้ เพราะเกณฑ์โหรนี้ยังเหลือเวลาเกิดอีกนาน คือ

    ก.ตัวการหลัก มาจากพระเสาร์จร (7) หัวหน้าดาวร้าย ที่เดินในราศีมีน ซึ่งเป็นดินแดน มุมอับ-ชายแดน-เรื่องที่เกิดไม่คาดฝัน-เรื่องวินาศสันตะโร (ภพสิบสอง-วินาสน์ของเมือง) ผลคือ

    ก.1 โดยหลักแล้วจะ ออกแนวลบมาก คือทำให้เมืองทุกข์มาก เสียเงินเสียทรัพย์ พึ่งใครไม่ได้ ต้องพึ่งพาตัวเอง-สามัคคีกันเอง ตามโฉลก…ทุกข์บ่วาย ทรัพย์สูญหายจะจากไป ลูกเมียและข้าไท บ่มิได้พึ่งอาศัย…

    ก.2 ออกแนวลบ พระเสาร์จร (7) ที่มีน ทำมุมพิเศษ (ฤทธิโยค) ถึงพระอังคารดวงเดิม (๓) ดาวประจำชีพ (ตนุลัคน์) ของเมืองที่สถิตราศีพฤษภเป็น คู่แค้น คู่พิฆาต ตำราบอกเมืองจะเกิดเรื่องร้าย (กลี) ถูกศัตรูรวมทั้งสัตว์สี่เท้า สองเท้าทำร้ายด้วยอาวุธเขี้ยวงา และพวกอสรพิษหรืองูจะเล่นงานตามโฉลก…เกิดการกลีการณ์ ปรปักษ์จะบีฑา นัยหนึ่งจตุบาทว์ ทวิบาทและเขี้ยวงา ระมัดระวังอา- สรพิษจะทำเข็ญ…

    ผลคือ คนไทยเหมือนถูกงูพิษที่เคยช่วยเหลือคราวเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เล่นงานให้ทุกข์เข็ญ ที่ใช้ทั้งจากพวกทหาร (สองเท้า-ทวิบาท) และรถถัง และเครื่องยิงระเบิด (สี่เท้า-หลายเท้า-หลายล้อ-ทวิบาท)

    ก.3 ออกแนวลบ พระเสาร์จร (7) ที่มีนถึงพระเสาร์ดวงเดิม (๗) ที่สถิตราศีธนู (ฤทธิโยค) เรื่องเกิดจาก กรรมเก่าที่ปล่อยปละละเลยมานาน-สิ่งเก่า-โบราณสถาน-วัตถุ พวกปราสาท จนเกิดภัย เสียเงินทอง บาดเจ็บล้มตาย ระส่ำระสาย พลัดที่นาคาที่อยู่ ตามโฉลก…โทษทุกข์แต่ปางเพรงก็จะก่อจะเกิดมี สิ่งสินระส่ายทรัพย์ ภัยทับระทมทวี เกรงอายุชนม์ชี-วพินาสประไลยตู…

    ก 4.ออกแนวลบ พระเสาร์จร (7) ที่ราศีมีนทับพระศุกร์ดวงเดิม (๖) ที่สถิตราศีมีน ผลคือ ชอกช้ำ เจ็บหนัก เสียขา เสียชีวิต พลัดพราก สูญเสีย คือ ชาวบ้านบาดเจ็บ 38 ตาย 17 คน ส่วนทหารบาดเจ็บ 199 ตาย 15 นาย-ตามโฉลก...ปะทะทุกข์พยาธิเยือน โรคร้ายและหลายเดือน ก็จะกลับจะกลายเป็น โจรร้ายเขม้นมิง อริปองจะทำเข็ญ อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง

    ก.5 ออกแนวบวก พระเสาร์จร (7) ที่ราศีมีนทับพระพุธดวงเดิม (๔) ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศเพื่อนบ้าน ผลตามตำราคือ เมืองจะมีโชคลาภเพิ่มพูน ศัตรูที่พ่ายแพ้ย่อยยับอัปรา คล้ายกองทัพไทยปิดประตูตีแมวด้วยแสนยานุภาพที่เหนือกว่า ตามโฉลก….โชคลาภจะพูนเพ็ญ และศัตรูจะอัปรา….

    ก.6 ออกแนวบวก พระเสาร์จร (7) ที่ราศีมีนทับพระราหูดวงเดิม (๘) เมืองจะชนะศัตรู ได้โชคลาภเกินกว่าที่คิด เหมือนคนไปหาปลา แต่เจอขุมทองแทน ตามโฉลก..จักชำนะศัตรู ประสิทธิโชคชัยยา ตำนานหนึ่งหญิง จรสุ่มประสงค์ปลา พบแท่งธนสาร์ ตรุรัตนะขุมทอง….

    ผลที่น่าออกมาแล้วคือ ทหารไทยเพียงพยายามรบเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ แต่ กองทัพไทยกลับโด่งดังเป็นที่จับตามองไปทั่วจากเดิม จะเห็นเสนยานุภาพทุกปีในงานวันเด็ก หนึ่งในนั้นคือ ใช้กริพเพนรบครั้งแรกของโลก

    ก.7 แนวบวกและล้ำเลิศในดวงเมือง เพราะมีเบาะรับแรงกระแทกจากพระเสาร์ จากให้จากลบพลิกเป็นออกแนวบวก คือการมีพระพฤหัสบดีดวงเดิม (๕) รองรับฤทธิโยคของพระเสาร์จร (7) อยู่ที่ราศีธนู

    ด้วยเกณฑ์นี้ ตำราบอกเมืองจะเกิดสิริมงคล เกิดโชคลาภง่ายๆ ศัตรูจะพ่ายแพ้ แถมเสียอะไรไปจะได้กลับมา ตามโฉลก…สิริสวัสดิลาภา สิ่งสินและเงินตราจะลุโดยสะดวกดาย ศัตรูจะอัปรา และวัตถาระส่ำระสาย สินทรัพยะสูญหาย ก็จะคืนจะคงเรือน…

    เหตุการณ์คือ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน โหมช่วยเหลือกันกระหน่ำเหมือนง่ายๆ ชนิด ทรัพย์พร่องไม่ว่า ข้าขอให้ และสำคัญคือ เมืองได้พื้นที่ที่เคยถูกอ้างสิทธิยึดไป 11 จุดกลับมา จนได้ล้อมรั้วและปักเสาธงชาติไทย

    ข.ยังมีเกณฑ์อื่นๆ ที่ปรากฏในดวงเมืองอีกที่ บ่งบอกศัตรูประเมิน เมืองไทย-คนไทย-ทหารไทยพลาด เช่น

    ---เปิดศึกขณะบุญเก่าเมืองหนุนนำ ตามโฉลก ..ถึงบุญเพรง คนยำเกรงให้ลาภา…(พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีเมถุน ภพที่สาม-สหัชชะ-เพื่อนบ้าน)

    ---เปิดศึกขณะหัวหน้าเทวดาประจำเมืองไทยกำลังออกอาวุธขว้างจักรใส่พวกนักเลงโต-พวกขี้โกงขี้ตู่ หลอกลวง-หัวหน้าบ่อนการพนัน พวกผิดกฎหมายและตัวแสบของเมือง (พฤหัสบดีจร (5) ที่ราศีเมถุน ทำมุมฤทธิโยคใส่พระราหูจร 8 ที่ราศีกุมภ์) โดยที่พวกที่โดนอาวุธแทบออกอาวุธตีกลับไม่ได้ (พระราหูจร 8 ที่ราศีกุมภ์ ไม่สามารถสัมผัสพฤหัสบดีจร 5 ที่ราศีเมถุนได้) คล้ายปิดประตูตีแมว

    ---วันเปิดศึกที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นไปขณะดาวประจำชีพเมืองโดดเด่นด้านการรบ เป็นนักรบ หรือ อังคารขี่สิงห์ (พระอังคารจร 3 ดาวประจำชีพเมืองเดินในราศีสิงห์)

    ---ช่วงตะลุมบอนก่อนหยุดยิงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลาสองยาม ดาวประจำชีพเมือง เป็นนักรบที่โลดโผน สู้และสร้างตัวเองจนสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ตามโฉลก..ฟักตัวขึ้นเป็นใหญ่ กว่าจะได้ต้องบุกบั่นฟันโฉงเฉง…(พระอังคารจร 3 ดาวประจำชีพเมืองเดินในราศีกันย์-มาตรฐานมหาจักร-โลดโผน) เช่น ร.31 รอ.ที่ปราสาทตาควายประกาศนามคือตัวอย่างอังคารมหาจักร

    ---ไม่ว่าจะได้เกณฑ์บวกแค่ไหน ด้านลบคือฝ่ายไทยได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ คือกลิ่นศพเป็นของแถม (พระเสาร์จร 7 ที่ราศีมีนทับพระศุกร์ดวงเดิม ๖)

    จากเหตุการณ์เขมรรบแล้วพ่ายไทยครั้งนี้ จะบอกลางชะตาเมืองไทย ตั้งแต่บัดนี้ยาวไปถึงประมาณเมษายน 2571 ว่า แม้เมืองจะทุกข์-สุขแค่ไหน-ต้องต่อสู้ดิ้นรนหนัก-ทุกข์ยาก-ขวัญผวา-สูญเสีย แต่เมืองก็จะ เอาชนะปัญหาอุปสรรคได้ เสียอะไรไป-สู้แล้วจะได้กลับมาตามหลักข้อ ก.ทั้งหมด โดยจะเกิดเป็นเหตุใหญ่-โดดเด่น เป็นระยะๆ เพียงแต่จะเรื่องอะไรเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องดินแดนอย่างเดียว

    จึงก่อนจะถึงเมษายน 2571 คงจะมีเหตุเมืองอาจต้องแลกหรือยอมเสียก่อน เช่นคราวนี้ที่เมืองก็ต้องแลกเพื่อยึดพื้นที่ 11 จุดคืน

    ส่วนตัวอย่างในอดีตขณะที่เมืองเจอเกณฑ์ลบกระหน่ำสุดๆ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยอมจำแขนขาด คือเสียมณฑลบูรพาทั้งหมด ทั้งพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อ แลกจังหวัดตราด และ อำเภอด่านซ้ายกลับมาสู่อ้อมอกของเมือง.