
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด หลังได้นายกฯ คนใหม่ เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล นอกจากทำตามโจทย์ 5 ข้อกับพรรคประชาชนแล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนเช่นกัน เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท–คุยการเมือง” เรื่อง “ถ้าเป็นอนุทิน จะทำ 6 ข้อ” เนื้อหาระบุว่า สมมุติว่า ถ้าผมเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศในห้วงเวลา 4 เดือน ผมจะดำเนินการ 6 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.จะนำบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นมืออาชีพ เข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรี จะใช้วิธีการเดียวกับสมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน สมัย 2 ที่นำบุคคลภายนอกมาเป็นคณะรัฐมนตรีทั้งชุด แต่ในกรณีรัฐบาลอนุทิน 1 อาจจะติดที่มีเงื่อนไขกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่สามารถจะใช้บุคคลภายนอกมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
2.จะไม่นำรายชื่อผู้ที่มีปัญหาด้านจริยธรรมขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีร่วมคณะอย่างแน่นอน เพราะจะเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และสุ่มเสี่ยงจะถูกยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
3.จะเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเร่งด่วน และมีโอกาสที่จะแก้ไขได้สำเร็จ ถ้าดูจากท่าทีของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เปิดทางในการเจรจาแล้ว เป็นการหาทางลงให้กับผู้นำกัมพูชาด้วย เชื่อว่าถ้าปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาสำเร็จ ก็จะเป็นผลงานที่ประชาชนคนไทยคาดหวัง
4.จะไม่ทำนโยบายระยะยาว จะเน้นนโยบายระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายประชานิยมที่ประชาชนพึงพอใจ จะนำเอานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาเคยดำเนินการมาแล้ว เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน เช่น โครงการคนละครึ่ง
5.จะไม่เข้าไปแตะต้อง แทรกแซงกดดันคดีที่ประชาชนจับตามองอยู่ 2 คดี คือ คดีฮั้ว สว. กับคดีที่ดินเขากระโดง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามปกติ ไม่เร่งรัด ไม่กดดัน ไม่ต้องการให้เสร็จในสมัยรัฐบาลชุดนี้
6.จะเร่งดำเนินการทำประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่เซ็นเอาไว้ใน MOA กับพรรคประชาชน
ถ้าหากว่า 6 ข้อที่ผมนำเสนอทำสำเร็จ เชื่อว่า รัฐบาลอนุทินจะสร้างคะแนนนิยมได้ไม่น้อย และจะเป็นบันไดที่นำไปสู่นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ของนายอนุทินได้
๐ จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเครื่องบินส่วนตัว (MJets) ไปต่างประเทศ หลายฝ่ายจับตาว่าจะกลับมาฟังคำตัดสินของศาลชั้น 14 หรือไม่
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Somchai Srisutthiyakorn ระบุว่า ลงสิงคโปร์ 7 โมงเช้า แปลความหมายอะไรได้บ้าง
เครื่องบินส่วนตัวของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง ออกเดินทางจากดูไบยามวิกาล มาถึงสนามบิน seletar สิงคโปร์ เวลา 07.00 น. แปลความหมายอะไรได้บ้าง
1.การวางแผนการบินและคำนวณเวลาบินเป็นระดับมืออาชีพ ถึงเวลา 07.00 น. ตรง ซึ่งเป็นเวลาเปิดทำการของสนามบิน (07.00-22.00 น.) ไม่เหมือนคราวก่อนที่เดินทางจากไทย ในระยะทางที่ใกล้กว่า แต่ไปไม่ทัน 22.00 น. (อ้างเสียเวลาที่ ตม.)
2.การถึงสิงคโปร์ ตั้งแต่ 07.00 น. แสดงถึงความต้องการใช้เวลาที่สิงคโปร์อย่างเต็มที่ทั้งวัน เช่น ทานอาหารอร่อย พบเพื่อนนักธุรกิจ หรือ เจรจาดีลครั้งสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของตน ที่ต้องบินมาดีลใกล้ๆ ประเทศไทย เพื่อความสะดวกของคนที่มาดีลด้วย
3.รอดู 15.00 น. ว่าเมื่อเครื่องเทกออฟอีกครั้ง จะบินไปทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันตก ถ้าทิศตะวันตก คือดีลไม่สำเร็จ บ๊ายบาย ต่างคนต่างไป ถ้าทิศเหนือ คือดีลบางอย่างประสบความสำเร็จ ทำให้มั่นใจที่จะมาขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ 4.ส่วนดีลสำเร็จ แล้วถึงเวลาจริงถูกหักหลังหรือไม่ นอสตราดามุสไม่ได้ทำนายไว้.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น
บันทึกหน้า 4
ยังไม่ถึงเวลา! วันศุกร์นี้ "รัฐบาลอนุทิน" ยังคาดเข็ดขัดนิรภัยต่อ แม้ "นายกฯ หนู" จะบอกว่าพร้อมยุบสภาทุกเมื่อ เตรียมพระราชกฤษฎีการอไว้แล้ว ถึงจะเลื่อนเร็วขึ้นจากไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ใช่ 12 ธ.ค.

