
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด บันทึกไว้ในคดีประวัติศาสตร์ยุติธรรมประเทศไทย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยองค์คณะศาลฎีกา 5 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย ไทรโชต นายอดุลย์ อุดมผล นายไตรรัตน์ แก้วศรีนวล นางสุพิชญ์ กรอบคำ และนายพัฒนไชย ยอดพยุง นัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 โดยมีมติเอกฉันท์สรุปว่า จำเลยไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน แต่มีเพียงโรคประจำตัวที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ กระบวนการบังคับโทษ
รวมทั้งการพักการลงโทษจึงไม่มีผลตามกฎหมาย จึงต้องรับโทษจำคุกอีก 1 ปี ตามพระบรมราชโองการ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปเข้าเรือนจำกลางคลองเปรม คราวนี้เป็นการติดคุกจริง ส่วนการจะพักโทษก่อนครบโทษ ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และกฎกระทรวง คงไม่มีใครกล้าช่วยทำผิดอีก บทเรียนเจ้าหน้าราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ 12 คน ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนความผิดตาม ม.157 ซึ่งต้องขยายผลจากคำสั่งศาล มีโอกาสติดคุกตามทักษิณเช่นกัน...0
ก่อนหน้านี้ค่ำวันที่ 4 ก.ย. นายทักษิณนั่งเครื่องบินเจ็ตออกไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าไปพบแพทย์ คอการเมืองส่วนใหญ่ฟันธงว่าไม่กลับมาแน่ แต่ความจริงทักษิณรู้ตัวและทำใจพร้อมเข้าคุกอยู่แล้ว หลัง เปิดดีลใหม่ ไร้ผล เมื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้วถูกเบรก ก็เห็นท่าไม่ดี จึงชิ่งออกไปตั้งหลักต่างประเทศก่อน เมื่อเช็กสถานการณ์ดีแล้วจึงกลับมารับชะตากรรม หลังจากศาลมีคำสั่ง ทีมงานได้โพสต์ข้อความผ่าน X และเฟซบุ๊กทันทีว่า "ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ตนคงเหลือเวลา 1 ปี ... ขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้" ซึ่งเท่ากับฉลาดหลังเหตุการณ์ หากมีสำนึกจริง กลับไทยเมื่อ 22 ส.ค.2566 แล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จบไปแล้ว และก็ไม่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตัวเองด้วย หลังจากนอนคุกคงได้ทบทวนตัวเองที่แพ้ราบทั้งกระดาน ก็เพราะทำตัวเองทั้งนั้น!...0
โผ ครม.หนู 1 ลงตัวแล้ว บิ๊กเล็ก-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พบหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก่อนที่นายอนุทินบอกว่า "ให้ท่านช่วยรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เพื่อที่จะได้เกิดความมั่นใจว่าภารกิจหน้าที่การดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ดำเนินต่อไปโดยไม่มีสะดุดหรือชะงัก ศัพท์ทหารคือเปลี่ยนม้ากลางศึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร" ถือว่าใช้คนถูกกับงานและเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะ รมต.คนนอก เช่น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองนายกฯ ด้านกฎหมาย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นั่งรองนายกฯ ควบ รมว.การคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็น รมว.พาณิชย์ เป็นต้น ขณะที่บรรดา สส.กลับหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานได้ยาก ยังจัดโผตามโควตากลุ่มเหมือนเดิม ส่วนที่ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือลาออกจาก สส.เพื่อเข้ามารับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย สมควรแล้วหรือ เพราะ กกต.ต้องใช้งบเลือกตั้งใหม่เฉียด 10 ล้านบาท เพื่อสนองความอยากของตัวเอง?...0
ส่วนบทบาทของฝ่ายค้าน นำโดยพรรคประชาชน (ปชน.) ที่มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ร่วมกับพรรคเพื่อไทย จะทำงานร่วมกันอย่างไร ภายหลังหักเหลี่ยมกันตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลคราวที่แล้ว ก็มาฟัดกันต่ออีกเมื่อ ปชน.ทำ MOA หนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ พท.ก็โจมตี ปชน.ว่ายกมือให้ ภท.จัดตั้งรัฐบาลอนุรักษนิยมที่มี อำนาจพิเศษ หนุนหลัง ทั้งที่ พท.ก็ตระบัดสัตย์ข้ามขั้วจับมือกับฝ่ายอนุรักษนิยม ใช้อำนาจพิเศษพาทักษิณกลับบ้าน ใช้อภิสิทธิ์เหนือกระบวนการยุติธรรม แล้วยังให้ สส.ลงชื่อยื่นถอดถอนนายอนุทินกับนายณัฐพงษ์ เป็นการใช้ นิติสงคราม เล่นการฝ่ายตรงข้าม พท.จึงไม่มีความชอบธรรมอ้างหลักการประชาธิปไตยอีกแล้ว ส่วน ปชน.ก็ทำหล่อ ยกมือหนุนนายอนุทิน แต่ไม่ร่วมรัฐบาล หากรัฐบาลสร้างผลงานได้ดีจะเคลมว่าเพราะตนเองด้วยหรือไม่ แต่หากรัฐบาลล้มเหลวก็ปัดสวะไม่รับผิดชอบใช่ไหม? เล่นการเมืองเอาแต่ได้พอๆ กันแบบนี้ ประชาชนจึงเบื่อหน่ายนักการเมืองแล้วไปเชียร์ทหาร เพราะนักการเมืองทำตัวเองจนเสื่อมศรัทธา...0.
แซมซาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น
บันทึกหน้า 4
ยังไม่ถึงเวลา! วันศุกร์นี้ "รัฐบาลอนุทิน" ยังคาดเข็ดขัดนิรภัยต่อ แม้ "นายกฯ หนู" จะบอกว่าพร้อมยุบสภาทุกเมื่อ เตรียมพระราชกฤษฎีการอไว้แล้ว ถึงจะเลื่อนเร็วขึ้นจากไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ใช่ 12 ธ.ค.

