รูปที่ 1-ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และเกณฑ์น้ำท่วมวงกว้างปี 2568 และช่วงพายุเข้า และช่วงสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
รูปที่ 2-คำทำนายให้ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึงปรากฏการณ์น้ำท่วมเมืองวงกว้างและช่วงอันตรายทางน้ำ
ก่อนที่จะมีกรมอุตุนิยมวิทยาที่เครื่องมือเครื่องไม้พร้อมด้วยสรรพกำลังทางวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญไว้พยากรณ์อากาศนั้น ทางโหรก็มีโหราศาสตร์อุตุนิยมวิทยาพอจะเป็นแนวทางให้อาศัยพึ่งพา
อย่างน้อยก็พอจะคลำทางให้ได้รู้กรอบเวลาล่วงหน้าเรื่องน้ำท่วม หรือฝนแล้ง หรือพายุ หรือโรคระบาด หรือแผ่นดินไหว หรือข้าวยากหมากแพง หรือทุพภิกขภัย ฯลฯ ได้บ้าง ขึ้นอยู่กับว่าจะจับหลักใดมาทำนายและให้ความสำคัญขนาดไหน?
บางปีพวกที่เรียนโหรรู้ล่วงหน้าเป็นปีๆ ในภาพกว้าง เช่น คราวระบาดของโควิด-19 ก็พอจะรู้ล่วงหน้าว่าภัยอาเพศขนาดใหญ่รอจังหวะเกิดในเมือง (มฤตยูจร 0 เจ้าของภัยอาเพศเดินในราศีเมษทับลัคนาเมือง-และโลก)
หรือเมื่อคราวพายุปาบึกเข้าเมื่อ 4 มกราคม 2562 นั้น ผู้เขียนจำได้ว่า คำนวณการเข้าของพายุคลาดเคลื่อนไม่กี่วัน
หรือคราวแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองที่มีศูนย์กลางที่เมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา แล้วตึก สตง.ที่กำลังก่อสร้างถล่มราบกองเป็นภูเขาเลากา เมื่อ 28มีนาคม 2568 ผู้เขียนก็พอรู้ว่าจะเกิดเหตุ และทำนายเตือนไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ว่าปีนี้แผ่นดินไหวจะกลับมาเป็นปรากฏการณ์สำคัญ
เพียงแต่ไม่มีภูมิพอที่จะรู้ที่เกิดและระยะเวลาเกิด และประเมินความรุนแรงพลาดมาก นึกว่าคงจะเพียงแค่ตึกสูงสั่นไหว
แล้วก็สงสัยว่ากลางพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปปรากฏการณ์แผ่นดินไหวอีกรอบจะกลับมาอีก
สำหรับเรื่องน้ำฟ้าน้ำฝนปี 2568 นี้ เมื่อเข้าช่วงฤดูฝน หรือหน้ามรสุม เมืองก็ได้ทั้งร่องฝนและอิทธิพลของหางพายุหลายรอบ ซึ่งมาถึงวันที่ปิดต้นฉบับ น้ำในอ่างเก็บน้ำในเขื่อนหลักภาคเหนือรวมกันแล้วร้อยละแปดสิบของความจุรวม
ส่วนภาคอื่นก็ลดหลั่นลงมา โดยอ่างที่น้ำน้อยขอดก้นอ่างก็มีไม่กี่แห่ง รวมทั้งลำตะคองที่ยังเรี่ยๆ ก้นอ่างจนน่าใจหาย ซึ่งที่นี่ผู้เขียนก็ลุ้นทุกปีจนเหนื่อย อยากให้น้ำเต็มอ่าง
ส่วนสถานการณ์น้ำจากนี้ไปขออ้างอิงจากที่เขียนทำนายดวงชะตาเมืองปี 2568 ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่น่าจะย้ำอีกครั้ง เพราะหนึ่งในคำถามยอดนิยมที่ผู้เขียนถูกถามเสมอคือ น้ำจะท่วมไหม?
บางท่านถึงขนาดไปลงทุนซื้อที่ดินบนที่สูงไว้ ด้วยกลัวน้ำจะท่วม
คำตอบคือ ต่อไปนี้มีโอกาสน้ำท่วมในเมืองแบบวงกว้าง โดยใช้หลักโหราศาสตร์อุตุนิยมวิทยาจับคือ
1.กรอบกว้างๆ คือ โอกาสที่น้ำจะมากกว่าช่วงเริ่มหน้าฝนที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญจนจะท่วมกว้างมาก หรือหลายจุด หลายจังหวัด หลายช่วง ประมาณระหว่าง 2 ตุลาคม-22 ธันวาคม 2568
หรือเอากลมๆ คือ ต้นตุลาคมถึงปลายธันวาคม 2568
โดยช่วงเวลานี้จะมีเหตุปัจจัยให้ปริมาณฝนจะตกมากผิดปกติจากร่องฝนทั่วไป (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีกรกฎ-ธาตุน้ำ เมืองอุดมไปด้วยน้ำ) บางช่วงลงแบบฟ้ารั่ว
2.แคบเข้ามา ระยะที่พายุหมุนเขตร้อนในระดับดีเปรสชันขึ้นไปมีโอกาสจะเข้าเมืองอย่างน้อยหนึ่งลูก คือเริ่มตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป (พระอังคารจร 3 เดินในราศีพิจิกทำมุมฤทธิโยคถึงพระเสาร์จรและพระราหูจร 8 ที่เดินในราศีกุมภ์)
3.เนื่องจากเมืองอยู่ในระยะที่เกณฑ์อุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยใหญ่รอบสามและสี่ของปีเป็นสื่อล่ออยู่
จึงระหว่างประมาณ 28 พฤศจิกายน-23 ธันวาคม 2568 เมืองต้องระวังปรากฏการณ์บาดเจ็บล้มตาย เสียทรัพย์สินเงินทองขนาดใหญ่ ที่มีปัจจัยจากลม-พายุ-น้ำ (พระศุกร์กาลกิณีจร 6 เดินในราศีพิจิก-ธาตุน้ำ-ภพมรณะดวงเมือง)
แต่ไม่ว่าต่อไปนี้น้ำจะท่วมเพียงใด ข่าวดีคือ ปี 2568 ยังไม่ใช่ปีมหาอุทกภัย เหมือนที่เคยเกิดเมื่อปี 2554 จนเดือดร้อนหนักและเสียหายวงกว้างติดอันดับโลก
คราวนั้นเปรียบได้เหมือนข้าศึกคือ น้ำตีฝ่าบ่าลงมา แล้วล้อมเมืองจนมาถึงกรุงเทพฯ เกือบทุกทิศทางเลยทีเดียว
ส่วนปีหน้าไม่แน่ เพราะมีเกณฑ์ใหญ่ล่อให้เกิดอยู่ เมื่อแกะคำตอบจากดวงดาวได้จะแจ้งให้ทราบต่อไป
แต่ทั้งหลายทั้งปวงควรเงี่ยหูฟังกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นดีที่สุด เพราะนั่นคือมืออาชีพจริงๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้
ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง
อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล
“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่
‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ
‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์


