'เจนz'กับความเชื่อเรื่อง'ตายแล้วสูญ'

ไปได้หนังสือใหม่มาเล่มหนึ่ง!!!...หลังจาก อ่านหนังสือหมดบ้าน มานานแล้ว ด้วยความขวนขวายอนุเคราะห์จากน้องๆ ที่คอยห่วงใย ดูแล อุตส่าห์ไปติดต่อ สั่งซื้อจากสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์ เผยแพร่ หนังสือเล่มนี้เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว นั่นคือ สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ ของ คุณน้องต้อย-สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ของหมู่เฮานี่เอง ที่ได้ไปหยิบเอาผลงานการค้นคว้าและบรรยายของศาสตราจารย์พิเศษ อดิศักดิ์ ทองบุญ ที่นำเสนอต่อที่ประชุมราชบัณฑิตยสภา ตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ว่าด้วยเรื่อง การทรงเจ้า-เข้าผี มาทำเป็นหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก พิมพ์จำหน่ายในเดือนมีนาคม พ.ศ.2551 โน่นเลย...

อาจด้วยเหตุเพราะหนังสือที่มีอยู่ในบ้าน คือเรื่อง ปรัชญาอินเดีย เรียบเรียงโดย อดิศักดิ์ ทองบุญ ซึ่งราชบัณฑิตยสภา เคยนำมาตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 เป็นหนังสือที่ต้องหยิบมาอ่านแล้ว-อ่านเล่า จนปาเข้าไปประมาณเที่ยวที่ 10 ไปแล้วเห็นจะได้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นหนังสือที่ทำให้เรื่องยากๆ อย่างเรื่องปรัชญา อภิปรัชญา ไม่ว่าที่มีอยู่ในศาสนาพุทธ ศาสนาเชน ฮินดู หรือแม้แต่ลัทธินอกศาสนาครั้งโบร่ำโบราณของชาวอินเดีย อย่างลัทธิจารวาก ฯลฯ กลายเป็นเรื่องที่สามารถ เข้าถึง-เข้าใจ ได้ง่ายๆ โดยอาศัยประสบการณ์ การเรียนรู้ ของผู้ที่จบปริญญาโทด้านศาสนาและปรัชญา จากมหาวิทยาลัยพาราณสีในอินเดีย ต่างไปจากประเภทดอกเตอร์ นักวิชาการที่ไปเรียนรู้ปรัชญา อภิปรัชญา จากพวกฝรั่งตะวันตก แล้วมักถนัดในการทำให้เรื่องง่ายๆ กลายเป็นเรื่องยากซะเป็นส่วนใหญ่ จนส่งผลให้ผู้ที่สนใจในเรื่องราวเหล่านี้ แทบไม่ต่างอะไรไปจาก คนตาดี ที่ถูก คนตาบอด ลากไปปล้ำในถ้ำที่มืดมิด อะไรทำนองนั้น...

ด้วยเหตุนี้...การที่ศาสตราจารย์พิเศษ อดิศักดิ์ ทองบุญ ที่กลายมาเป็นหนึ่งในคณะราชบัณฑิตยฯ ท่านตอบสนองข้อเสนอของเลขานุการสำนักราชบัณฑิตยฯ อาจารย์ นิคม จันทรวิทุร ด้วยการศึกษา ค้นคว้าเรื่องราวที่ท่านถนัดและเชี่ยวชาญ นั่นคือเรื่องของอภิปรัชญากับ ความเชื่อ ของผู้คนในสังคมไทย ที่ได้กลายมาเป็นบทบรรยายและกลายเป็นหนังสือว่าด้วยเรื่อง การทรงเจ้า-เข้าผี จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆ จนต้องวานให้น้องๆ ไปขวนขวายหามาอ่านให้จงได้ และก็ใช้เวลาไม่เท่าไหร่ อ่านหนังสือเล่มบางๆ แค่ประมาณ 130 หน้า จบลงไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ ต่อ เหตุผล และ ข้อสรุป ของผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ในเรื่องราวที่สุดแสนจะลึกซึ้ง ไปจนถึงความเฉียบขาด แหลมคม ในการอธิบาย ขยายความ ถึงสิ่งที่ มองเห็น และ มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นผี สาง นางไม้ เทวดา มนุษย์ เปรต โลกนี้หรือโลกหน้า ฯลฯ

นอกเหนือไปจากการศึกษา ค้นคว้า ของอาจารย์ อดิศักดิ์ โดยตรงแล้ว ยังได้นำความคิด ความเห็น เพิ่มเติมจากบรรดาราชบัณฑิตยฯ ในขณะนั้น ไม่ว่าอาจารย์ จำนง ทองประเสริฐ, อมร รักษาสัตย์, วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร, ชัยอนันต์ สมุทวณิช, กีรติ บุญเจือ, ลิขิต ธีรเวคิน ฯลฯ มาใช้เป็นองค์ประกอบ ในการทำความเข้าใจถึงความคิด ความเชื่อ ของผู้คนในสังคมไทย ไม่ว่าตั้งแต่ครั้งที่ยังนับถือผี สาง นางไม้ ไปจนเมื่อครั้งพุทธศาสนาเข้ามามีบทบาทอันพอที่จะเห็นความผสมกลมกลืนกันได้ไม่ยาก เพราะต่างก็มี พื้นฐานแห่งความคิด-ความเชื่อ ในบางด้าน ไม่ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะความเชื่อในการ มีอยู่จริง ของโลกนี้-โลกหน้า การเวียนว่าย-ตาย-เกิด นรก-สวรรค์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ๆ ไม่คิดจะเชื่อ หรือไม่อยากจะเชื่อ ชนิดแทบไม่ต่างอะไรไปจากพวก ลัทธิจารวาก ในอินเดีย รุ่นก่อนหน้าพระพุทธเจ้า ที่ถูก ศาสนา ต่างๆ ลบหายไปจากสังคมอินเดียตั้งแต่ไม่รู้กี่ต่อกี่พันปีมาแล้ว...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...การศึกษา ค้นคว้า การนำเสนอต่อราชบัณฑิตยสภา ที่กลายเป็นหนังสือเรื่อง การทรงเจ้า-เข้าผี ของอาจารย์ อดิศักดิ์ ทองบุญ เล่มนี้ คงมุ่งที่จะปฏิเสธความเชื่อประเภท ตายแล้วสูญ ของบรรดาพวกคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกที่หลง ละเมอ เพ้อพก อยู่กับแนวคิดตะวันตก จนทำให้สิ่งใดๆ ที่ มองไม่เห็น กลายเป็นสิ่งที่ ไม่มีอยู่จริง ไปซะทั้งสิ้น ทั้งปวง และนั่นเอง...ที่อาจเป็น เหตุปัจจัย สำคัญเอามากๆ อันทำให้ไม่ว่าสังคมไทยหรือสังคมโลก ต่างเต็มไปด้วยความสับสน อลหม่าน ความก้าวร้าว รุนแรง โหดเหี้ยม อำมหิต ไร้ความสุข ความสงบ สันติภาพ สันติธรรม ฯลฯ ยิ่งเข้าไปทุกที...

ชนิดแม้กระทั่งสังคมอันเป็นที่เกิด ที่กำเนิด ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าง สังคมเนปาล ทุกวันนี้ ใครที่มีโอกาสได้เห็นข่าวคราวเรื่องคนรุ่นใหม่ประเภทที่ถูกเรียกว่า เจน Z ทั้งหลาย บุกไปรุมกระทืบรัฐมนตรีรายต่างๆ แทบสลบคาเท้า บุกไปเผาบ้านนายกรัฐมนตรี เผาภรรยานายกรัฐมนตรีขณะยังเป็นๆ ด้วยเหตุเพราะไม่พอใจที่ถูกบีบบังคับในเรื่องการเล่นโซเชียลมีเดียเท่านั้นเอง ก็อาจพอเข้าใจได้ว่า ความเชื่อเรื่อง ตายแล้วสูญ นั้น เป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว น่าชิงชังขยะแขยงไปถึงขั้นไหน??? เพราะขนาดยังไม่ได้ตาย สิ่งที่บรรดา เจน Z เหล่านี้ได้กระทำ หรือได้ ก่อกรรม ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ย่อมทำให้เขาทั้งหลายมีสภาพไม่ต่างไปจาก สัตว์นรก เปรต หรือ อสุรกาย ฯลฯ โดยแทบไม่ต้องเสียเวลาไปทำความเข้าใจกับเรื่องที่สุดแสนจะลึกซึ้ง อย่างเรื่องโลกนี้-โลกหน้า เรื่องชีวิตหลังความตาย หรือเรื่องจิตวิญญาณ ฯลฯ ใดๆ เอาเลยก็ว่าได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์