เศรษฐกิจแห่งความโกรธ!!!

สองวันก่อน...ลองแวบเข้าไปใน Facebook ของ คุณพี่ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค เลยไปเจอกับข้อเขียนที่ท่านหยิบมาแปะ มาแชร์ ให้แฟนเพจของท่านมีโอกาสได้อ่าน นั่นคือบทความของผู้ที่ใช้นามว่า ปราย พันแสง ที่ได้พูดถึงสิ่งแปลกๆ ที่เรียกว่า เศรษฐกิจแห่งความโกรธ โดยใช้ภาษาปะกิตว่า Outrage Economy หรือ Rage Economy อันเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย โดยเฉพาะในแง่ที่ว่าบรรดา ความโกรธ-ความเกลียด ที่ทะลักหลั่งควั่งพรูกรูนรกและสวรรค์อยู่ใน โซเชียลมีเดีย ทั้งหลายนั้น นอกจากจะ ทรงพลังอย่างยิ่ง...สามารถฆ่าคนได้ โค่นล้มรัฐบาลใดๆ ก็ได้ ยังแถมสามารถ ทำรายได้ ให้ประโยชน์ เป็นเงิน-เป็นทอง ต่อผู้ที่แสวงหาประโยชน์เหล่านี้ใน Facebook, YouTube หรือใน TikTok ฯลฯ ทั้งหลายได้อีกด้วย...

ใครที่สนใจรายละเอียด...คงต้องลอง คลิก ไปหาอ่านเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เศรษฐกิจแห่งความโกรธ หรือ ระบบเทคโนโลยี ที่ทำให้บรรดาบริษัทธุรกิจทั้งหลายสามารถ ทำเงิน-ทำกำไร ที่เกิดจากความโกรธนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลให้สังคมต่างๆ เกิดการแตกแยก เสียหาย เกิดการทำลายสันติภาพในแต่ละสังคมแล้ว ยังสามารถใช้โค่นล้มรัฐบาลแต่ละประเทศได้อีกด้วย ดังตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ ที่เรียกกันว่า เนปาลโมเดล ของบรรดาพวก Gen Z ทั้งหลายนั่นเอง ที่ผู้คนในบ้านเราจำนวนมิใช่น้อยรู้สึกชื่นชม ยกย่อง จนคิดเอาเป็น แบบอย่าง ไปเลยก็มี เพราะไม่ว่ามันจะน่าเกลียด น่าชัง น่าขยะแขยง ถึงขั้นไหน ในการรุมไล่กระทืบรัฐมนตรีกลางถนน เผาบ้านนายกรัฐมนตรี เผาภรรยานายกรัฐมนตรีให้ตายทั้งเป็น แต่ในเมื่อมันสามารถโค่นล้มรัฐบาลที่ตัวเองไม่ถูกใจ-ไม่ชอบใจลงไปจนได้ มันเลยกลายเป็นสิ่งน่ายกย่อง ชื่นชม เป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไปซะนี่!!!

ส่วนใครจะหยิบฉวยประโยชน์จาก ความโกรธ-ความเกลียด เหล่านี้...คงไม่จำเป็นต้องไปคิด ไปวิเคราะห์ ไปสนใจมากมายซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทธุรกิจ ที่เป็นผู้ออกแบบควบคุม ระบบเทคโนโลยี ชนิดนี้ หรือจะเป็นองค์กรแห่งการล้างผลาญทำลายรัฐบาลต่างๆ มาแล้วแทบจะทั่วทั้งโลก อย่าง CIA ดังที่นาย Lucky Bisht อดีตสายลับอินเดีย และอดีตผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยให้นายกรัฐมนตรีอินเดียคนปัจจุบัน ได้ออกมาแฉโพยเอาไว้ในสื่ออินเดีย อย่าง Times now News เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ชนิดถึงขั้นว่า... มีหลักฐานที่ดิ้นไม่หลุด!!! เอาเลยถึงขั้นนั้น ในการใช้ ความโกรธ-ความเกลียด ทั้งหลาย เล่นงานรัฐบาลเนปาล ศรีลังกา ไปจนบังกลาเทศ จนประสบความสำเร็จในการโค่นล้มรัฐบาลต่างๆ มาแล้วไม่น้อยกว่า 60 ประเทศทั่วโลก...

จริง-ไม่จริง เชื่อ-ไม่เชื่อ...คงต้องไปคิด ไปวิเคราะห์กันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ คือ ความโกรธ-ความเกลียด ในลักษณะนี้ยังอาจนำไปใช้เล่นงานรัฐบาลที่มีความก้าวหน้า ทันสมัย เอามากๆ อย่าง รัฐบาลอังกฤษ ได้ไม่น้อยไปกว่ากันซักเท่าไหร่ สามารถใช้ ระบบเทคโนโลยี ดังกล่าว ยุแยงตะแคงรั่ว ให้บรรดาพวก ผู้ดีอังกฤษ ทั้งหลายนับแสนๆ คน ออกมาประท้วงรัฐบาล ภายใต้การนำของนักเคลื่อนไหวมวลชนขวาสุดโต่งอย่าง นาย Tommy Robinson รวมทั้งยังวิดีโอ ลิงก์ ไปยังเจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่าง นาย Elon Musk ของอเมริกา ให้มาช่วยปลุกกระตุ้นความโกรธ ความเกลียดของชาวอังกฤษ ด้วยการหยิบเอาเรื่องการลอบสังหารนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาของอเมริกา อย่าง นาย Charlie Kirk มาใช้เป็นตัวอย่าง เพื่อชักจูงพวก ฝ่ายขวา ด้วยกัน ให้ออกมาสู้กับพวก ฝ่ายซ้าย ที่อยู่เบื้องหลังฉากเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละแห่ง แต่ละที่ ด้วยการเอ่ยคำพูดวรรคทองไว้ถึงขั้นว่า... “ไม่ว่าคุณจะเลือกความรุนแรงหรือไม่? ก็ตาม แต่ความรุนแรงมันจะมาหาพวกคุณเอง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสู้หรือจะยอมตายเท่านั้น”...

ส่วนจะจริง-ไม่จริง น่าเชื่อ-ไม่น่าเชื่อ...ก็ยากที่จะสรุปได้อีกนั่นแหละ เพราะขณะที่ นาย Elon Musk พยายามยุให้ฝ่ายขวาอังกฤษเล่นงานพวกฝ่ายซ้าย อดีตนักการเมืองอังกฤษอย่าง นาย Nick Griffin แห่งพรรค British National Party กลับให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Sputnik ของรัสเซีย บอกว่าพวก ยิวสุดโต่ง หรือพวก Ultra Zionist รวมทั้งพวก Deep State ในอเมริกานั่นเอง ที่พยายามอาศัยนักเคลื่อนไหวมวลชนอย่าง นาย Tommy Robinson โค่นล้มรัฐบาลอังกฤษ หรือก่อ สงครามกลางเมือง ขึ้นมาในประเทศนี้ ส่วนเรื่องการลอบสังหารนักเคลื่อนไหวมวลชนในอเมริกา บางรายกลับนำไปโยงกับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอลอย่างพวก Mossad หรือไปไกลถึงพวก นักรบยูเครน อะไรไปโน่น!!!

อะไรจริง-อะไรเท็จ อะไรควรเชื่อ-ไม่ควรเชื่อ ก็ยากที่จะหาข้อสรุปได้อีกเช่นเคย แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มันเป็นตัวสร้างแรงกระตุ้นให้เกิด ความโกรธ-ความเกลียด ขึ้นมาในอารมณ์-ความรู้สึกของใครต่อใคร หรือของสังคมหนึ่ง-สังคมใด อันนั้น...ย่อมเป็นอะไรที่น่าชิงชัง รังเกียจ ไม่ว่าต่อตัวเองหรือผู้อื่น เพราะไม่เพียงทำให้ตัวเองต้องถูกครอบงำด้วยโมหะ โทสะ ต่อสิ่งที่ไม่ถูกใจ-ไม่ชอบใจ ยังกลายเป็นตัวสร้างกำไร สร้างผลประโยชน์มากมายมหาศาล ให้กับบรรดาผู้ที่สามารถใช้ ระบบเทคโนโลยี อันสุดแสนจะก้าวหน้า-ก้าวไกล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลเอามากๆ หรือทำให้ตัวเองต้องกลายเป็น เหยื่อ เป็น เครื่องมือ ของผู้ที่คิดจะหยิบฉวยผลประโยชน์จาก เศรษฐกิจแห่งความโกรธ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจความถูก-ความผิด ความดี-ความชั่ว ไม่ว่าโลกนี้-โลกหน้า หรือนรก-สวรรค์ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์