
โห!!! ต้องอุทานดังๆ หลังเห็นประกาศรายชื่อ ข้าราชการตำรวจที่จะพ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 หรือในวันที่ 30 ก.ย. 2569 ที่ บิ๊กโอ๋-พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. รักษาการผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ลงนามบันทึกแจ้งเวียนถึง ผบ.ตร., รอง ผบ.ตร.และ จตช., ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง จตช. เพื่อโปรดทราบ ผบช.จต.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า, ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร.หรือตำแหน่งเทียบเท่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 มีระดับชั้นสัญญาบัตรตั้งแต่ระดับนายพลลงไปถึงรอง สว. จำนวน 5,609 นาย
และระดับชั้นประทวน 96 นาย รวมทั้งสิ้น 5,705 นาย ที่สำคัญมีระดับ "นายพล" เกษียณอายุราชการถึง 83 นาย โดยเฉพาะระดับ ตร. นำทีมโดย ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., บิ๊กแจง-พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ตามด้วย พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท. นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ว่าที่ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ว่าที่ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ว่าที่ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นต้น
ในตำแหน่งหลักๆ ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย ระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ที่เกษียณอายุราชการปี 2569 ที่น่าสนใจก็มี พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท., พล.ต.ท.สิทธิชัย โล่กันภัย ว่าที่ผบช.ภ.8, พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ว่าที่ ผบช.ภ.1, พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ว่าที่ ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ว่าที่ หน.จรต., พล.ต.ท.มนเทียร พันธ์อิ่ม จตร., พล.ต.ท.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. หรือระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ก็มี อาทิ พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร, พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์, พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน, พล.ต.ต.เดชพล เปรมศิริ ผบก.สส.ภ.6 และ พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เป็นต้น ๐
หันมาดู ณ ปัจจุบัน การแต่งตั้งวาระปี 2568 ตอนนี้ถึงคิวระดับ "นายพัน" ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ลงไปถึง สารวัตร (สว.) บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ส่งหนังสือแจ้งเวียนถึง ผบช.และ จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการแต่งตั้ง โดยกำชับให้ทุกหน่วยจัดทำลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจระดับ ผกก.ลงมาถึง รอง สว.ในสังกัดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แล้วประกาศให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดทราบโดยทั่วกัน ในวันที่ 22 ก.ย. 2568 ที่สำคัญตำรวจระดับ ผกก.ลงมาถึง รอง สว.ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในสังกัด จัดเตรียมผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะผลงานดีเด่นที่เกิดจากการปฏิบัติด้วยตนเอง ซึ่งมีองค์ประกอบในด้านต่างๆ ตามกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามที่ ตร.กำหนด...เมื่อขยับเร็วขนาดนี้ เชื่อว่าน่าจะสร้างประวัติศาสตร์เสร็จทันตามกฎ ก.ตร.ที่ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พ.ย. เหมือนระดับ "นายพล" ที่เสร็จทันภายในเดือน ส.ค.มาแล้ว ๐
ได้ชื่อ “บิ๊กดุลย์” พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ นั่ง รมช.กลาโหม หลายฝ่ายก็แอบอุ่นใจว่านโยบายและการปฏิบัติในการสู้กับกัมพูชา น่าจะราบรื่นไร้รอยต่อเพราะว่าเป็นทีมตท.26 เหมือนกัน แต่เส้นทางของ “บิ๊กดุลย์” นอกจาก “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” จะมีส่วนเลือก แต่หากย้อนดูเส้นทางของเจ้าตัวก็ถือเป็นน้องรักของ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร และ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 จากแดนอีสานใต้ แต่ปัจจุบันบิ๊กทั้งคู่ก็มาอยู่ในค่ายของ “ลุง” โดยเฉพาะ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา ยังถือเป็นสายบ้านป่าฯ โดยตรง ซึ่งมีแรงส่งต่อในการผลักดันให้ พล.ท.อดุลย์ ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ในการโยกย้ายเมื่อเดือนตุลาคม 2566 แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งที่ในโผรายชื่อที่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.ในปี 2566 เห็นชอบตามที่ "แม่ทัพปอง” พล.ท.สวราชย์ แสงผล (ตท.23) แม่ทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้นเสนอเป็นชื่อ “รองสิน” หรือ “แม่ทัพกุ้ง” พล.ต.บุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพฯ ๐
แต่สำหรับ พล.ท.บุญสิน กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิด สนิทสนม เชื่อมือเชื่อใจกัน และเมื่อเลือก "รองแม่ทัพเติ่ง" พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพฯ ย่อมการันตีว่าเป็น "ทีมเดียวกัน" เพราะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการบัญชาการรบ 5 วัน ตามแผน "ยุทธบดินทร์" แม้จะเป็นแม่ทัพอีสานใต้แบบเรียงคิวกันมา แต่เรื่องราวในอดีตระหว่าง “ว่าที่แม่ทัพเติ่ง” กับ พล.ท.อดุลย์ ในช่วง พล.ท.สวราชย์ทำหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 และ “ว่าที่แม่ทัพเติ่ง” ดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.6 ยังเป็นที่รู้กันในวงอีสานใต้จนถึงทุกวันนี้ ส่งผ่านความ “ตึงๆ" ระหว่างกันมาตั้งแต่ตอนนั้น โดยเฉพาะเรื่องการเลื่อนยศ ปลดย้ายใน พล.ร.6 รวมไปถึงการให้บทบาทในการทำงานที่อาจไม่เท่ากับรองแม่ทัพฯ คนอื่น จนอาจเป็นรอยปริร้าวระหว่างเพื่อนในช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้มีงานใหญ่รออยู่ข้างหน้า ที่สำคัญคือเป้าหมายของทหารในและนอกราชการมีความต่างกัน แต่จุดร่วมคือเรื่องประเทศชาติ จึงเชื่อว่าในที่สุด ความเป็นเพื่อนต่อยังไงก็ยังติด ๐
ตัดสินใจส่ง "รองยูร" พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 ไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 นั่นอาจเป็นเพราะ ผบ.ทบ.มีแผนที่จะยกเครื่องงาน “ดับไฟใต้” เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเสียที เพราะหากดู “โมเดล” ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่เต็มไปด้วยปัญหาที่สลับซับซ้อน มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่มาอย่างยาวนาน ทั้งจากการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ คนมีสี แม้กระทั่งทหารเอง การยอม แขวนปัญหาไว้ ก็เท่ากับเป็นการไม่แก้ไขปัญหาและซื้อเวลาไปวันๆ การใช้คนนอกพื้นที่ซึ่งยังไม่ถูก "กลืนกิน" ไปกับระบบตรงนั้น ก็น่าจะทำให้การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการจัดโครงสร้างในเรื่องการดูแลความสงบ รักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน รวมไปถึงการทำลายโครงสร้างของขบวนการฯ ภายใต้งานข่าวที่พิสูจน์ทราบมาในช่วงที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง 1 ปี อาจจะมีจุดเริ่มต้นใหม่ๆ ที่พอจะมีความหวังในการแก้ไขปัญหาได้บ้าง ๐
ตามแผนในการ “ถอนกำลังทหาร” แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ในปี 2570 อาจต้องมีการวางรากฐานให้แข็งแกร่งก่อน ที่จะส่งให้กำลังประจำถิ่นเต็มรูปแบบ แว่วว่าอาจมีการจัดกำลังจากนอกพื้นที่เข้าไปเสริม โดยเล็งไปที่กองทัพภาคที่ 1 ในการจัด 1 กองพันทหารราบ ลงไปอยู่ในโครงสร้างของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยอาจจะมีการเลือกรองแม่ทัพฯ ลงไปคุมภารกิจด้วยตัวเอง และหากมองในแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง เดาไม่ยากว่า หวยน่าจะไปออกที่ "ว่าที่รองด้วง" พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งขยับมาจาก ผบ.มทบ.11 ในโผนี้ เพราะ “รองด้วง” เคยเป็น ผบ.ร.31 รอ. หน่วยอาร์ดีเอฟ ของ ทบ. หน่วยเดิมของ ผบ.ทบ.มาก่อน และคาดว่าเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจะมีการยกเครื่อง สังคายนาแบบชุดใหญ่ในหลายส่วนเร็วๆ นี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนามังกรกับลีลาสำคัญของชีวิตปี2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมาก) ที่มีแนวโน้มจะเกิดกับท่า
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์


