
กระแสข่าวลือสะเทือนเรือนจำคลองเปรม เมื่อมีข่าวว่า "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งจำคุก 1 ปี ในคดีชั้น 14 กรณีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกินกำหนดโดยมิชอบ ตั้งแต่ 9 ก.ย. 2568 ได้สั่งพิซซ่ายี่ห้อดังเลี้ยงทั้งนักโทษและเจ้าหน้าที่กว่า 6,500 คน
ข่าวนี้ถูกปูดโดยนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.ประชาธิปัตย์ เมื่อ 16 ก.ย. พร้อมตั้งคำถามว่าระเบียบราชทัณฑ์ห้ามนำอาหารจากภายนอกเข้า และจำกัดวงเงินใช้จ่ายนักโทษแค่ 500 บาทต่อวัน แล้วพิซซ่ามหาศาลนี้มาจากไหน
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ทักษิณคงครองใจนักโทษได้ไม่ยาก เพราะอาหารฟรีจากราชทัณฑ์อย่างข้าวต้ม ผักลวก ถูกบ่นว่าจืดชืดราวน้ำเปล่า ส่วนของซื้อขายในคุกเช่นไก่ย่าง เบเกอรี่ หรือขนมขบเคี้ยวอร่อยกว่ากันเยอะ พิซซ่ารสเข้มจากร้านดังจึงเหมือนแคมเปญหาเสียงในคุก ต่อยอดสไตล์ทักษิณที่เคยแจกนมโรงเรียนสมัยเลือกตั้งนอกกำแพง การเลี้ยงพิซซ่าทั้งคุกคงอาจเป็นนโยบายใหม่ “พิซซ่า 30 ชิ้นครองใจทั้งแดน” ครองใจนักโทษในพริบตา
แต่กรมราชทัณฑ์รีบดับกระแสทันควัน วันที่ 17 ก.ย. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมฯ ยืนยันจากผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรมว่า “ไม่จริง พิซซ่ามาจากบุคคลภายนอก เลี้ยงแค่เจ้าหน้าที่เพื่อขอบคุณที่อำนวยความสะดวกจราจรหน้าคุกเมื่อ 13 ก.ย. ซึ่งเป็นวันที่ญาติมาเยี่ยมเยอะ ไม่เกี่ยวกับนักโทษเลยสักคน และทักษิณที่พักในแดนพยาบาลก็ไม่รู้เรื่อง"
ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ซึ่งเข้าเยี่ยมทักษิณวันที่ 16 ก.ย. เผยว่าทักษิณดูอิดโรย ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องพิซซ่า และเตือนคนปูดข่าวระวังข้อหาหมิ่นประมาท ข่าวลือนี้สะท้อนว่าทักษิณยังคงเป็นแม่เหล็กข่าวแม้ติดอยู่ในกำแพงคุก แค่เรื่องของกินก็จุดประเด็นให้คนพูดถึงได้ทั้งวงการการเมือง
หากข่าวพิซซ่าเป็นจริง วันหน้าอาจจะมีเมนูอื่นตามมาอีกเพียบ เป็นขบวนการหาเสียงในคุก ครองใจนักโทษทั้งเรือนจำ แต่ตอนนี้ราชทัณฑ์ยืนยันชัดเจนไม่มีพิซซ่าจากทักษิณ
แต่ข่าวลือที่ว่าอาหารในเรือนจำไม่อร่อยอย่างที่ผู้ต้องขังคนอื่นกล่าวอ้าง บอกตรงๆ ว่าจริง เพราะตัวนักข่าวเองก็เคยไปลิ้มลองถึงแดนโรงครัวมาแล้ว ตอนนั้นเป็นเมนูจับฉ่าย บอกเลยว่าจืดสนิทเหมือนน้ำเปล่า ทั้งๆ ที่จับฉ่ายมันต้องออกเค็มหวาน แต่เข้าใจได้เพราะมีผู้ต้องขังหลายคน ต่างก็มีโรคประจำตัวติดตัวมาด้วย ทำให้เรือนจำต้องทำรสชาติกลางๆ เข้าไว้ จึงไม่แปลกที่นักโทษจะให้ญาติเติมเงินซื้อของดีๆ ในคุกกินแทน.
วอชเชอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ
‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง
ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร

