คุณภาพของ สส. สะท้อนความเป็นประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดี พื้นที่สื่อคือสมรภูมิข้อมูลข่าวสาร ความคิดเห็น การเอาชนะทางการเมืองต้องเอาชนะทางสื่อด้วย
รายงาน “Global State of Democracy 2025: Democracy on the Move” ของ “สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง” (International IDEA) เมื่อกันยายน 2025 ส่วนที่นำเสนอเรื่องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับสื่อ มีสาระสำคัญดังนี้

ภาพ: เสรีภาพสื่อกับการแสดงออกที่โดนปิดกั้น
เครดิตภาพ: ภาพจากปัญญาประดิษฐ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร:
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของประชาธิปไตย เพราะคือตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ในด้านนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร ดูแลทุกข์สุขประชาชน ผู้ขับเคลื่อนกลไกการเมือง หากผู้แทนราษฎรไม่ทำหน้าที่ของตน ระบอบประชาธิปไตยจะไม่แสดงประโยชน์ของมันทันที
เยอรมนี เดนมาร์ก และนอร์เวย์ คือ 3 ประเทศที่ผู้แทนราษฎรมีคุณภาพสูงสุด หลายประเทศคุณภาพลดลง บ่งชี้ว่าระบบเลือกตั้งมีปัญหา รัฐสภาไร้ประสิทธิภาพ ที่ถดถอยมากสุดคือประเทศในแอฟริกา
รายงานของ International IDEA ให้ข้อสังเกตว่าบางประเทศที่คะแนนดีมาตลอดอาจลดฮวบทันทีจากเหตุการณ์หนึ่งหรือการเลือกตั้งครั้งหนึ่ง ระดับความเป็นประชาธิปไตยจึงขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน
วิเคราะห์: หลายประเทศเผชิญสถานการณ์เลือกตั้งแล้วเลือกตั้งอีก แต่การเมืองไม่ดีขึ้น นับวันประชาชนยากไร้อ่อนแอ ถ้าอธิบายในมุมผู้แทนราษฎรจะมาจาก 2 ปัจจัยหลัก
1) จากตัวผู้แทนฯ
1.1) หลายคนเป็นผู้แทนฯ ที่ขาดความรู้ความสามารถบริหารประเทศ แต่ชนะเลือกตั้งเพราะหาเสียงเก่ง สร้างความนิยมได้ดี 1.2) มุ่งผลประโยชน์ส่วนตนกับพวกพ้อง คนเหล่านี้ไม่ควรเรียกว่าผู้แทนราษฎร แต่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัวและพวกพ้อง 1.3) ให้ความสำคัญกับพรรคมากกว่าประชาชน โดยเฉพาะพรรคที่ผู้แทนฯ ต้องปฏิบัติตามมติของพรรคอย่างเคร่งครัด กลายเป็นเพียง “ตรายาง” ที่คอยรับรองนโยบายเจ้าของพรรคเท่านั้น
2) ปัญหาจากโครงสร้างและระบบการเมือง
2.1) ระบบเลือกตั้งชนะด้วยการใช้อิทธิพลหรือซื้อสิทธิขายเสียง 2.2) ขาดกลไกตรวจสอบและถอดถอนที่มีประสิทธิภาพ เพราะถูกครอบงำจากฝ่ายการเมืองที่ต้องการครอบงำการเมืองทั้งระบบ 2.3) การเมืองแบบแบ่งขั้วรุนแรง สภากลายเป็นเวทีของเกมการเมือง มากกว่าการทำงานให้ประชาชน
3) ปัญหาจากฝั่งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
3.1) การเลือกตั้งโดยไม่ศึกษาข้อมูลหรือไม่สนใจ หลายคนเลือกผู้แทนฯ ด้วยความคุ้นเคยส่วนตัว อิทธิพลในพื้นที่ นโยบายประชานิยม 3.2) ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ ในบางสังคมประชาชนยังคงผูกติดอยู่กับ “ระบบอุปถัมภ์” โดยเลือกผู้แทนฯ ที่สามารถให้ความช่วยเหลือส่วนตัว หรือเคยได้รับความช่วยเหลือ ไม่สนใจผลประโยชน์ส่วนรวม
คำอธิบายข้างต้นชี้ว่า ปัญหาผู้แทนฯ มาจากทั้งตัวผู้แทนฯ ระบบและประชาชน การแก้ไขจึงต้องแก้ไขทุกระดับพร้อมกัน
เสรีภาพสื่อกับการแสดงออก:
สื่อกับการแสดงออกเป็นหัวข้อสำคัญ เพราะโลกดิจิทัลเชื่อมทุกคนเข้าหากัน ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนกับต่อต้าน มีข้อมูลจากหลายแหล่งหลายแง่มุม พื้นที่สื่อคือสมรภูมิข้อมูลข่าวสาร ความคิดเห็น การเอาชนะทางเมืองต้องเอาชนะทางสื่อด้วย ทุกฝ่ายจึงให้ความสำคัญกับสื่อและแสดงถึงเสรีภาพการแสดงออก
เสรีภาพสื่อไม่ใช่เฉพาะมีสื่อเท่านั้น สื่อต้องตั้งใจให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ไม่ถูกปิดกั้นความจริง นักข่าวไม่ถูกคุกคาม ไม่ใช่สื่อที่เอื้อรัฐบาลหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นสื่อที่มุ่งบิดเบือน
เทียบปี 2024 กับ 2019 มีเพียง 20 ประเทศ (12%) ที่เสรีภาพในการแสดงออกดีขึ้น ประเทศชิลีได้คะแนนดีขึ้นมาก ส่วนหนึ่งมาจากการร่างกฎหมายคุ้มครองสื่อมวลชน หากกฎหมายนี้ผ่านสภาน่าจะเอื้อการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ระบบยุติธรรมกับการเลือกตั้งโปร่งใส
ที่ควรตระหนักและเข้าใจคือ ไม่เฉพาะฝ่ายอำนาจนิยมที่ควบคุมสื่อ ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยควบคุมสื่ออย่างเข้มข้นเช่นกัน การควบคุมกระทำในทางลับ เป็นคำสั่งลับ การกดดันด้วยอำนาจต่างๆ ประชาชนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจ ไม่ตระหนักว่าสื่อกำลังถูกควบคุม
ประเทศที่เสรีภาพสื่อแย่สุดคืออัฟกานิสถาน ที่น่าสนใจคือเกาหลีใต้แย่สุดอันดับ 4 จากเหตุทางการห้ามรายการทีวีที่ทำเรื่องสืบสวนสอบสวนการเมือง รัฐบาลกับฝ่ายการเมืองมักฟ้องร้องนักข่าว บุกค้นที่พัก เหล่านี้เป็นวิธีที่ฝ่ายการเมืองพยายามเล่นงานสื่อ กีดกันสังคมตรวจสอบนักการเมือง
หลายประเทศควบคุมสื่อด้วยข้ออ้างปกป้องประชาชนทางไซเบอร์ แต่บางประเทศส่งเสริมเสรีภาพจากข้ออ้างนี้ เช่น รัฐบาลรักษาการบังกลาเทศยกเลิกพระราชบัญญัติความมั่นคงทางไซเบอร์เมื่อพฤศจิกายน 2024 กฎหมายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากดขี่เสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพสื่อ และผู้เห็นต่างทางการเมือง การยกเลิกพระราชบัญญัตินี้เปิดทางแก่ร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ดีกว่า
บางครั้งแค่พูดข่มขู่ก็มีผลแล้ว กันยายน 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตของสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเขา ชี้ว่านำเสนอข่าวสารที่เขาพิจารณาว่า “ไม่เป็นธรรม” หรือ “เป็นเท็จ” เรื่องนี้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นอีกประเด็นที่ทรัมป์ข่มขู่และแทรกแซงการทำงานของสื่อ ก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐเคยคุกคามนักข่าวรายบุคคลด้วย
วิเคราะห์: ข่าวมีทั้งส่วนรายงานข้อมูลกับความคิดเห็น การรายงานข้อมูลจำต้องถูกต้องไม่บิดเบือน นำเสนอรอบด้าน ส่วนความคิดเห็นสามารถแสดงออกหลากหลาย หลายเรื่องที่พรรคเดโมแครตตีความในแง่ลบแต่พรรครีพับลิกันตีความในแง่บวก (หรือกลับกัน) ข้อนี้เป็นเรื่องปกติของความเห็นอันหลากหลาย หากทรัมป์ไม่ยอมรับความเห็นเชิงลบ สังคมควรวิพากษ์ว่าท่านไม่เป็นประชาธิปไตยในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันจะชี้ว่าทรัมป์ไม่ผิด ท่านทำถูกแล้ว
ในฐานะประธานาธิบดี สื่อต่างๆ จะรายงานคำพูดของทรัมป์ แม้หลายครั้งไม่ตรงความจริง สื่อกับองค์กรอิสระมักชี้ว่าท่านพูดจริงพูดเท็จเรื่องใด
“ทรัมป์คือสื่อ” โดยใช้สื่อของตน:
เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างสื่อโซเชียลมีเดียของตนที่ชื่อ “Truth Social” หลังจากบัญชีของเขาถูกระงับจากโซเชียลมีเดียอื่นๆ เช่น Twitter และ Facebook มีข้อมูลว่ากลางปี 2025 บัญชีของโดนัลด์ ทรัมป์ (@realDonaldTrump) มีผู้ติดตาม 6.5 ล้านถึง 9.3 ล้านคน แท้จริงแล้ว “ท่านคือสื่อ” ผู้คนหลายล้านทั่วโลกติดตามท่านจากสารพัดสื่อที่รายงานข่าวของท่าน
ประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นบุคคลที่สามารถสร้างข่าวเท็จ (fake news) ในขณะที่กล่าวโทษสื่อหรือผู้อื่นว่าสร้างข่าวเท็จ ไม่น่าเชื่อถือ แต่เรื่องนี้อาจตีความว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ “ให้คาดเดาไม่ได้” (unpredictable) ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ล่วงหน้า จะไม่พูดตรงความจริง
ทุกวันนี้ทรัมป์ยังพูดจริงบ้างเท็จบ้าง คาดเดาไม่ได้ แม้ดูไม่น่าเชื่อถือ แต่หลายครั้งช่วยให้ได้สิ่งที่ต้องการ
ถ้ามองแง่ลบ ผู้นำสหรัฐกำลังส่งเสริมสังคมที่หาความจริงไม่ได้ ประเทศที่หลอกลวงกันได้ แม้กระทั่งผู้นำประเทศโกหกพลเมืองตัวเอง คนอเมริกันกับบริษัทเอกชนจำนวนมากไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะนโยบายรัฐบาลสับสน เอาแน่เอานอนไม่ได้ หลายคนสงสัยว่านโยบายรัฐช่วยหรือทำลายกันแน่
ทุกวันนี้ข่าวของผู้แทนราษฎร บุคคลผู้เป็นตัวแทนประชาชนมักถูกตราหน้าว่าไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชน ด้วยดัชนีชี้วัดนี้สามารถบ่งบอกว่าเป็นประชาธิปไตยมากแค่ไหน ที่น่าติดตามคือ เสรีภาพสื่อกับการแสดงออกที่โดนปิดกั้นมากขึ้นทุกที ประชาชนกำลังสนใจและรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รัฐกับผู้มีอำนาจคอยกำกับควบคุมให้ประชาชนสนใจและเข้าใจตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่และกำลังรุนแรงขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สงครามการค้าสหรัฐกับจีนใครอึดกว่าชนะ
มหาอำนาจตักตวงผลประโยชน์จากประเทศอื่นๆ ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจด้วยกัน พวกเขาสร้างความขัดแย้งเพื่อได้ประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อเสียประโยชน์
4+4ประเทศสำคัญของศักยภาพทหารโลก
ในภาพระดับโลกมี 8 ประเทศสำคัญมากสุด และสามารถแยกเป็น 2 ระดับ สหรัฐอเมริกามีกองทัพเข้มแข็งที่สุด และใช้ประโยชน์จากกองทัพได้มากที่สุด
อูโก ชาเวซ ผู้ต้านการกดทับของชนชั้นนำกับมหาอำนาจ
ลัทธิโบลิเวียเรียนชี้ว่า ต้นเหตุความยากจนมาจากการกดทับของชนชั้นนำที่ร่วมมือกับมหาอำนาจ จึงต้องการปลดปล่อยประชาชนจากการกดขี่ของ 2 อำนาจดังกล่าว
การข่มขู่และโจมตีจริงของทรัมป์ 2.0
การข่มขู่และลงมือจริงของทรัมป์ 2.0 เป็นหลักฐานชี้ว่ารัฐบาลทรัมป์ทำอย่างไรตามหลัก “America First”
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (2)
ฝ่ายต่อต้านเห็นว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่ในขณะเดียวกันทรัมป์ได้รับการสนับสนุนทั้งจาก สส. สว.รีพับลิกันและฐานเสียงที่เข้มแข็ง
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (1)
สหรัฐอเมริกามาจากการต่อต้านระบอบกษัตริย์ บัดนี้ทรัมป์ใช้อำนาจเยี่ยงราชา ชาวอเมริกันจึงต่อต้าน ไม่อยากให้ประเทศกลับสู่ยุคที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตัวคนคนเดียว



