
ผ่านพ้นเป็นที่เรียบร้อยสำหรับวันแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าวถือว่าพรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่
ซึ่งที่ผ่านมาการประชุมร่วมกันของรัฐสภามักจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น แต่รอบนี้ถือว่าเป็นการประชุมที่ราบเรียบ ถึงแม้ว่ามีการประท้วงกันบ้าง แต่ก็ไม่มีความวุ่นวายใหญ่โต
ซึ่งคนที่เรียกได้ว่าเป็นม้ามืดในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ และเป็นบุคคลที่พูดถึงในโซเชียลอย่างล้นหลามตั้งแต่มีชื่อคนนี้ปรากฏ นั่นคือ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพราะเจ้าตัวเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจ ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากที่มีชื่อของ ศุภจี ออกมา
โดยบุคลิกของ ศุภจี ที่ทำให้หลายคนบอกออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความนอบน้อม นั่นคือมักจะยกมือไหว้เสมอ แถมในวันแถลงนโยบายก็ได้ใจ สส.ไปหลายคน โดยเฉพาะกับ สส.พรรคประชาชน ที่มีโมเมนต์ให้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างชื่นชมซึ่งกันและกัน
โดยวันแถลงนโยบายถือว่าเป็นวันแรกที่ ศุภจี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม แต่คาดว่าเจ้าตัวน่าจะไม่สบายจึงมีเสียงที่แหบ แต่ในระหว่างการชี้แจงนั้น เจ้าตัวได้ยกขวดน้ำขึ้นมาดื่ม และได้ขออนุญาตว่า “ขออนุญาตนะคะ เสียงแห้ง” จากนั้นก็อธิบายต่อได้อย่างลื่นไหล ข้อมูลแน่น
โดยเมื่อ ศุภจี ได้ชี้แจงเสร็จ เจ้าตัวทิ้งท้ายประโยคว่า “ทางรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ รวมถึงดิฉันในฐานะ รมว.พาณิชย์ มีความตั้งใจถึงแม้จะมีเวลาแค่ 4 เดือน และดิฉันเชื่อมั่นว่าเราน่าจะมีผลสัมฤทธิ์มาให้ท่านได้เห็นบ้าง เหล่านี้จะปรากฏเป็น KPI ให้ท่านได้ช่วยติดตาม…” รัฐมนตรีพูดจบ สส.พรรคประชาชนจึงได้กล่าวต่อ และกล่าวชื่นชม รัฐมนตรีพาณิชย์ คนใหม่ว่า “อยากเป็นกำลังใจให้ เห็นท่านตอบและพูดในสภาได้ดีกว่า สส. หลายคนอีก ขอให้ท่านมาสภาบ่อยๆ จะได้พบกัน”
แหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่ารัฐมนตรีกับ สส.ฝ่ายค้านก็สามารถทำงานร่วมกันได้ บรรยากาศแบบนี้อยากให้มีบ่อยๆ ในสภา อิอิ.
เจ้าพระพาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ
‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง
ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร

