ภาพลัคนาสถิตราศีกรกฎกับเรื่องราวของชีวิตและดาวจรสำคัญที่ทำมุมกับดวงชะตา
มฤตยูจร (0)-เดินในพฤษภตลอดปี (มีเดินผิดปกติ)
พระเสาร์จร (7)-เดินในกุมภ์ต้นปี-14 ก.พ.69
เดินในมีน 14 ก.พ.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)
ราหูจร (8)-เดินในราศีกุมภ์ต้นปี-22 พ.ย.69
เดินในราศีมังกร 23 พ.ย.-สิ้นปี 69
พฤหัสบดีจร (5)-เดินในเมถุนต้นปี-31 พ.ค.69
เดินในกรกฎ 31 พ.ค.-19 ต.ค.69
เดินในสิงห์ 20 ต.ค.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมาก) ที่จะเกิดกับท่านที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎ (ทำนายตามลัคนาเท่านั้น โปรดอย่านำไปใช้ผิดประเภทเป็นชาวราศี) จะเป็นแนวนี้
1.ไม่ว่าชีวิตจะบวก-ลบแค่ไหน ตลอดทั้งปีพวกท่านยังอยู่ในระยะเจ็ดปี (เริ่มมาตั้งแต่กลางกรกฎาคม 2565) ของการปฏิวัติใหญ่สังคม-เพื่อนฝูง-มิตรสหาย หารายได้ หรืองานพิเศษเพิ่มจากอาชีพประจำ-หากเป็นงานเก่าที่เคยทำก่อนก็ต้องต่อยอดจากเดิม (มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภภพที่สิบเอ็ด-ลาภะ)
เช่น เคยอยู่แวดวงการเมือง กลับพลิกไปอยู่ในแวดวงนักวิชาการ หรือเคยมีเพื่อนมากมายในที่ทำงาน พอเกษียณกลับพบแต่เพื่อนตามโรงพยาบาล หรือเคยคบเพื่อนมานานกลับมีเรื่องแตกแยก หรือบางท่านพบเพื่อนใหม่แปลกๆ ไปเลย เช่น พวกสายแสวงบุญ หรือโชคร้ายเจอเพื่อนฝูงชักจูงไปทางอบายมุขก็มี
สำหรับอาชีพที่พิเศษ หรืออาชีพที่สอง-สามนั้น ทุกวันนี้มีทางให้เลือกมากมาย หนึ่งท่านกลางวันทำงานประจำแต่เขียนนิยายรักขายช่วงกลางคืนเพราะชอบได้เงินหลายล้าน แต่หากอยากทำอาชีพเก่าก็ต้องหาทางต่อยอด เช่น เป็นหมอต่อยอดเป็นเฉพาะทาง เป็นต้น
ผลจากเกณฑ์นี้ที่เมื่อจบลงประมาณกลางกรกฎาคม 2572 หากยืนอยู่หน้าบ้าน พวกท่านจะถามตัวเองว่า สังคม เพื่อนฝูง อาชีพหลัก อาชีพ-รายได้พิเศษไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
อีกทั้งปรากฏการณ์นี้อาจส่งผลถึงแฟน หรือลูกๆ หรือเด็กในดูแลด้วย เช่น บางคนได้สะใภ้เข้าบ้านแบบช็อกหรือขัดแย้ง แต่พอมีหลานก็ราบรื่นมีความสุขดี (มฤตยูจร 0 ที่พฤษภเล็งใส่ราศีพิจิกภพปุตตะ)
2.โดยภาพรวมของชีวิตแล้วท่านที่ลัคนาสถิตกรกฎทั้งหลายไม่ว่าด้านบวกจะมาหล่อเลี้ยงชีวิตเพียงใด แต่ก็เจอปรากฏการณ์หนัก หรือด้านลบ หรือบางท่านถึงขนาดสาหัสทางโหรมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2566 ในระดับที่บางท่านสะอื้นก็มี
แล้วตั้งแต่ต้นปี 2569 เลยทีเดียวที่พวกท่านส่วนใหญ่ยังจะเจอปรากฏการณ์ด้านลบต่อเนื่องอันเป็นลางจากตรีเทพทั้งสามดวงคือ พระเสาร์จร (7) และพระราหูจร (8) และพฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในมุมอับของดวงชะตาที่จะสร้างสภาวะดวงตกให้สมบูรณ์แบบเป็น รอบสุดท้าย คือ
2.1 ปรากฏการณ์แรกที่ เป็นมาตั้งแต่มีนาคม 2566 ยาวข้ามมาถึงต้นปี 2569 ที่คาดว่าได้เล่นงานพวกท่านมาหนักหนาสาหัสมาก ส่งเกณฑ์ทุกข์และลบกระจายเป้าใส่หลายเรื่องของชีวิตมาสองปีครึ่ง มีทั้ง อย่างต่ำ-อย่างกลาง และสาหัส ตามโฉลก….เกรงชีวา มรณาให้เกรงไฟ…(พระเสาร์จร 7 เดินในราศีกุมภ์-ภพที่แปดมรณะ) เช่น ป่วยหนักเอง หรือคู่ครอง ป่วย หรือจากเป็นเช่นหย่า จากตายเช่นคู่ครองขอไม่รักษาต่อเพราะทนกระบวนการรักษาไม่ไหวเศร้าเสียใจมาก หรือพ่อแม่ป่วยหนักหรือจากไป หรือแบกภาระงานหนัก หรือหน่วยงานที่ทำอยู่เกิดปัญหาเสียหายจนหยุดกิจการ หรือพรรคการเมือง (หุ้นส่วนชีวิต) แตกเละ ฯลฯ
ข่าวดีคือ ปรากฏการณ์นี้ที่ฝากรอยแผลเป็นให้ชีวิตพวกท่านสักคนละแผลสองแผลให้ติดตัวไปตลอดชีวิตนั้น จะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569
2.2 ตั้งแต่ต้นปี ยังอึดอัดทางชีวิต หรือเรื่องในบ้าน หรือคนสนับสนุน หรือลูกน้อง หรือหนี้สิน หรือถูกจำกัดเสรีภาพ หรือเสียเงินทอง ตามโฉลก..ทรัพย์วิบัติ ข้าคนพลัดกระจัดกระจาย..(พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีเมถุน-ภพที่สิบสอง-วินาสน์) เช่น หาหมอถี่ยิบแทบทำอะไรไม่ได้ หรือเฝ้าไข้ หรือดูหนังสือสอบไปไหนไม่ได้ หรือถูกโยกย้าย หรือตั้งกรรมการสอบ หรือถูกหักอก ทรยศหักหลัง เป็นต้น
ปรากฏการณ์นี้จะคล้ายๆ หัวหน้าเทวดาประจำตัวของพวกท่านเข้าห้องขังไม่สามารถคุ้มครองลัคนาพวกท่านได้ แต่ก็จะจบลงสำหรับรอบนี้ ตั้งแต่ 31 พฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป
2.3 ตั้งแต่ต้นปี-22 พฤศจิกายน 2569 ปรากฏการณ์คู่ครอง หรือหุ้นส่วนชีวิตถล่มใช้เงินมาก หรือพวกท่านเองไปลงทุนแล้วพลาดเพราะประมาท เช่น คู่ครองสร้างนี้ให้มหึมา หรือเสียเงินให้หุ้นส่วนเหมือนถูกค้นกระเป๋า หรือใช้เงินตามอารมณ์ หรือรู้ว่าเขาจะหลอกให้ลงทุนแต่อุตส่าห์ลองของเสียเงินซื้อประสบการณ์ เป็นต้น
อีกอาการหนึ่งที่จะอุบัติจากเกณฑ์นี้คือ ต้องรับมือการบาดเจ็บที่ขา ตามโฉลก..เสียแข้งขา ยกยาตราให้เกรงกลัว..(พระราหูจร 8 เดินในราศีกุมภ์-ภพที่แปดมรณะ) เช่น ไปต่างประเทศหกล้มใส่เผือก หรือคู่ชีวิตผ่าเปลี่ยนเข่าต้องดูแล เป็นต้น
3.ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป ถึงเวลาฉลองเล็กๆ เพื่อให้กำลังใจตัวเองว่า ได้ตีฝ่าความโหดของหัวหน้าดาวร้ายมาได้ครบสองปีครึ่ง ที่แม้จะมีบาดแผลของชีวิตมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละคนก็ตาม
แล้วจากนั้นจนถึงสิ้นปี 2569 (ยาวนานถึง 21 เมษายน 2571) พวกท่านจะเจอปรากฏการณ์ใหญ่ของชีวิตคือ หาลาภได้แต่มักจะรักษาไว้ไม่ได้ ตามโฉลก..หาลาภได้ แต่เก็บไว้ไม่ยืนยง…(พระเสาร์จร 7 เดินในราศีมีน-ภพที่เก้า-ศุภะ) เช่น
ได้งานแล้วทำไม่ตลอด หรือได้เซ็นสัญญางานแล้วทำไม่ได้ หรือได้เงินมาก็ต้องใช้หนี้ หรือมีอันต้องใช้ไป หรือได้มรดกมาก็ขาย เป็นต้น
เกณฑ์นี้ไม่ว่าจะอย่างไรสำหรับผู้เขียนแล้วยังถือว่าเป็นลาภที่หาได้ ส่วนหน้าที่รักษาไว้ก็ขึ้นอยู่กับชั้นเชิงของพวกท่านเอง
4.วาระฉลองที่สองเริ่มตั้งแต่ 31 พฤษภาคม-19 ตุลาคม 2569 เมื่อหัวหน้าเทวดาประจำตัวออกจากห้องขัง มาอำนวยโชคชัยให้ชะตาอย่างเจิดจ้าที่สุดในรอบสิบสองปี ถ้าป่วยสุขภาพก็จะดีขึ้น มีความสุข เกิดความนึกคิดในทางที่ดี จะได้โชคหรือมีคนสนับสนุนและทรัพย์สิน หรือทุน หรือสมองแจ่มใส มีโอกาสได้แฟน หรือลูก หรือแต่งงาน
อีกทั้งหากมีคนหาเรื่อง ผู้ใหญ่กว่าจะช่วย ตามโฉลก..ผู้มีศักดิ์จักบีฑา ภายหลังจึงราชาให้ลาภาคนยำเกรง…(พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีกรกฎทับลัคนา-มาตรฐานอุจ)
อีกทั้งระยะนี้หากมีเรื่องลบสาหัสรอเกิดในชีวิตพวกท่านจากเกณฑ์อื่น แต่บารมีหัวหน้าเทวดาประจำตัวจะลดทอนให้เหลือประมาณลบ หากระดับลบจะเหลือลบน้อย หากลบน้อยจะปัดเป่าไปได้ และเปิดทางให้เกณฑ์ด้านบวกปรากฏในชีวิตได้เต็มที่
5.ตั้งแต่ 20 ตุลาคม-สิ้นปี 2569 โชคจากหัวหน้าเทวดาประจำตัวเคลื่อนจากตัวพวกท่าน ไปเอื้ออำนวยต่อในเรื่องเงิน ที่แม้จะเหนื่อย ต้องต่อสู้แข่งขัน ประมูล แต่ถือว่ามีโชคมากเชียวล่ะ
อีกทั้งหากมีศัตรูคู่แข่งขัน ก็จะมีขอคืนดี หรือหากพวกท่านคืนดีกับใครที่เคยขุ่นข้องหมองใจกันมาก็จะเกิดโชคได้ ตามโฉลก…ศัตรูมีมาคืนดีโอนอ่อนเอง…(พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีสิงห์ภพที่สอง-กฎุมภะ) เช่น เกิดคดีความคู่ความนำเงินมาวางในศาล หรือถอนฟ้องกันในสำนักงานแล้วได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นก็มี
6.มาแล้วตัวแสบคือ ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน-สิ้นปี 2569 และยาวนานไปถึงสิบแปดเดือน เมื่อพระราหูจร (8) จะมาอาละวาดอย่างโลดโผนแบบไม่คาดคิดทำพวกท่านชะตาแตก หรือพินทุบาทว์ อีกแบบหนึ่ง (พระราหูจร 8 เดินในราศีมังกร-ภพที่เจ็ด-ปัตนิ-มาตรฐานมหาจักร) ทำให้
6.1 เดือดร้อนยุ่งยากในชีวิตครอบครัว หรือไม่มีความสุขในชีวิตสมรส จึงเป็นระยะที่ต้องประคองชีวิตครอบครัวอย่างมาก ที่เคยเห็นมา เช่น คู่ครองป่วย หรือมีอันต้องจากกัน หรือถ้าได้คู่ครองช่วงนี้จะเป็นไปอย่างผาดโผนผิดธรรมดา
6.2 หรือไม่ก็อาจจะไปออกอาการที่หุ้นส่วนชีวิตทั้งหลายของพวกท่าน เช่น แตกแยกกับหุ้นส่วน หรือหุ้นส่วนป่วย หรือจากไป หรือหน่วยงานที่ทำอยู่ (พวกท่านเป็นส่วนหนึ่งของหน่วย) แตกกระเจิงเปลี่ยนแปลงอุตลุด
6.3 สำคัญคือ เกณฑ์นี้ ต้องระวังการลงทุนแบบเสี่ยง-เก็งกำไรและความประมาท เช่น เสียหายจากการเก็งกำไรฟอเร็กซ์หลายล้านจนเจ้าชะตาออกปากว่าไม่รู้จักตลาดนี้จะดีกว่า
6.4 เกณฑ์นี้ยังต้องระวังมีเรื่องราวหรือคดีความที่จะเกิดแบบครึกโครมในชีวิตตามระดับของแต่ละท่าน ตามโฉลก…จะมัวเมา ว่าความเขาภัยถึงตัว…วิธีการรับมือสิบแปดเดือนนี้ ควรสงบปาก-คำ และระวังการพูด-เขียน-พิมพ์โดยใช้อารมณ์
กล่าวโดยสรุป ขณะที่ตลอดทั้งปีพวกท่านยังอยู่ในระยะเจ็ดปีของการปฏิวัติสังคม เพื่อนฝูง หรือมองหาอาชีพ-รายได้พิเศษ พร้อมต่อยอดอาชีพเดิมนั้น
ตั้งแต่ต้นปี 2569 อะไรที่หนักหน่วงทางลบยังจะมีอยู่ แต่จะทยอยคลี่คลายคือกลางกุมภา.ได้ออกจากสถานการณ์ทุกข์หนักที่ถูกเล่นงานมาสองปีครึ่ง เพื่อเข้าสู่สภาวะใหม่คือ หาลาภได้เพียงแต่ต้องรักษาไว้ให้ได้ และปลายพฤษภา.หัวหน้าเทวดาประจำตัวมาคุ้มครองดวงชะตาเจิดจ้าอำนวยโชคชัยให้ชีวิต หลังจากนั้นจะเป็นโชคชัยเรื่องเงิน เพียงแต่ปลายพฤศจิกายนเป็นต้นไปต้องประคองชีวิตคู่ หุ้นส่วนชีวิต ทั้งระวังการเสี่ยง-วู่วามและคดีความ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


