แช่งชักหักกระดูก!

สารวัตรแจ๊ะจนโด่งดัง ทำหน้าที่รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการบังคับใช้กฎหมาย บิ๊กอ้อ-พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) เคยเป็นรองโฆษก ตร. และรองโฆษก บช.สอท. ทำหน้าที่รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายบูรณาการความรู้เพื่อสังคม และ พล.ต.ต.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) อดีตรอง ผบก.ปคม. นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) 51 ทำหน้าที่รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการต่างประเทศ 

เมื่อกระบอกเสียง "กรมปทุมวัน" ได้ระดับมือดีมาขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์องค์กรเช่นนี้ ปีนี้ภาพลักษณ์สีกากีต้องฟื้นคืนความศรัทธาจากประชาชนได้อักโข แถมเชื่อว่าทุกอย่าง ทุกโปรเจกต์ที่ออกมา ต้องว้าว ต้องโดนใจ เมื่อได้ บิ๊กแรก-พล.ต.ท.ยิ่งยศ ที่เคยเป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้ว สมัยที่ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็น ผบ.ตร. รวมทั้งตอนไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) งานประชาสัมพันธ์ บช.ภ.2 ก็โดดเด่น พอมาได้ "ดรีมทีม" ที่มีความสามารถครบรสเช่นนี้ ผบ.ต่าย ก็น่าจะอุ่นใจ โดยเฉพาะการวางแผนงานประชาสัมพันธ์ ที่แว่วเสียงเล็ดลอดจากวงวางแผนประชาสัมพันธ์ มีเสียงบางคนกำชับให้ทุกคนอุบเงียบเป็นความลับ ห้ามหลุดปากโปรเจกต์ใหญ่ โปรเจกต์สำคัญออกไป ถึงขนาดแช่งชักหักกระดูก หากใครทำข้อมูลหลุดออกไปขอให้ไม่เจริญในหน้าที่การงาน อุ้ย! ซีเครตกันขนาดนี้ ไม่รู้จะเกี่ยวกับเลข "360" หรือเปล่าน้อ ๐

เป็นอีกหนึ่งกองบัญชาการที่หลายคนสนใจการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ "กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" ที่มี บิ๊กต่อ-พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. กุมบังเหียน ใครดูแลหน้างานไหน อย่างไร โดยเฉพาะ บิ๊กเต่า-พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.คนดัง ที่เคยออกมาดับเครื่องชนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย "นายพล" และการเล่าอดีตเคยถูกเสนอชื่อให้ออกจาก "สอบสวนกลาง" แต่โชคดีที่ผู้ใหญ่เห็นฝีมือเลยค้ำเก้าอี้อยู่ต่อไป มาปีนี้ก็ยังได้อยู่ที่เดิมไม่มีการขยับขยาย โดย บิ๊กต่อ มอบหมายให้ บิ๊กเต่า ดูแลงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ปป.) เฉพาะที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปทส.และ บก.ปปป. ส่วน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ดูแลงานกฎหมายสอบสวน (กม.) พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผบช.ก. ดูแลงานบริหาร 1 (บร.1) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ดูแลงานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม (ปป.)  ยกเว้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปทส.และ บก.ปปป.  พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. ดูแลงานกิจการพิเศษ (กศ.) งานบริหาร 1 (บร.1) งานความมั่นคง (มค.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก. ดูแลงานจเรตำรวจ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบช.ก. ดูแลงานบริหาร 2 (บร.2) งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย รอง ผบช.ก. ดูแลงานถวายความปลอดภัย งานความมั่นคง (มค.) ๐

พล.อ.อ.เสกสรร คันธา นับเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ คนที่ 2 ที่ใช้ห้องประชุมเฉลิมอากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี แถลงนโยบาย ถัดจาก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี  พัฒนกุล  ผู้บัญชาการทหารอากาศคนก่อน โดย "ผบ.คิม" เลือกใช้ธีมงานเป็นการแสดงเจตนารมณ์ และเป้าหมายของการวางรากฐานในช่วง 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของคนและยุทโธปกรณ์ ท่ามกลางสถานการณ์เฉพาะหน้าซึ่งประเทศไทยเพิ่งผ่านเหตุการณ์สู้รบที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เหล่าทัพได้ปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยร่วมกันมา ทำให้เห็นบทเรียนที่ต้องนำไปสู่การวางแผนในระยะยาว ทั้งเรื่องคนรุ่นนี้ที่ต้องเก่งกว่าคนรุ่นก่อน การสร้างความสมดุลระหว่างการเสริมสร้างขีดความสามารถของอากาศยานไร้คนขับ และอากาศยานที่มีคนขับ เพราะทั้งสองประเภททดแทนกันไม่ได้ ฐานคิดสำคัญคือการมองภาพ "การเมือง-การทหาร-การต่างประเทศ" ผ่านภาพหนังสือประวัติศาสตร์ 6 เล่ม และข้อมูลเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ซึ่งดำเนินแผน "ทางการทูตแบบป้องปราม" โดยภาพรวมแล้ว ถือเป็นการแถลงเจตนารมณ์ที่ทำให้เห็นถึงเป้าหมายปลายทางของกองทัพอากาศไทยว่าจะเดินทางไปอย่างไร  ๐

ทีมประชาสัมพันธ์และสื่อสารผ่านทีมงานและคณะทำงาน ของโฆษกกองทัพอากาศในยุคนี้ ก็เรียกว่าจัดเต็มเพดาน รวมทั้งหมด 25 คน ยึดหลัก “ข้อเท็จจริง ความโปร่งใส และความเข้าใจง่าย” คอนเซปต์คือทำงานร่วมกับสื่อมวลชนในฐานะพันธมิตรด้านข้อมูลข่าวสาร วาง "รองเสธ.แจ็ก" พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นโฆษกกองทัพอากาศ โดยมี "ผช.โก๋" พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และ "อาจารย์อัน" พล.อ.อ.บุญเลิศ อันดารา ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ เป็นที่ปรึกษาโฆษกฯ ส่วนทีมรองโฆษกฯ ประกอบด้วย "ผอ.อ๋า" พล.อ.ต.เจริญ วัฒนศรีมงคล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ พล.อ.ต.จักรพันธ์ คงศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารอากาศ น.อ.วีรชน นรานุต รองผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ น.อ.วุฒิกร สุวารี เสนาธิการศูนย์การทหารอากาศโยธิน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ๐

ก่อนเข้าสู่ช่วงการเคลียร์พื้นที่ "บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว" จ.สระแก้ว ทุกภาคส่วนต้องเตรียมแผน และ ความพร้อม ปรับสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูลกับการปฏิบัติ  คาดว่าหลังหยุดยาว 3 วันนี้ คงเห็นภาพหน้างานได้ชัดขึ้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “แม่ทัพไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 บัญชาการอยู่ในพื้นที่รอความพร้อมก่อนดำเนินการ แต่ภาพการปฏิบัติยังคงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน สารวัตรทหาร ซึ่งกองทัพบกได้อนุมัติเพิ่มเติมกำลังสารวัตรทหารหญิงเข้าพื้นที่ ป้องกันกัมพูชานำภาพจากผลการปฏิบัติของฝ่ายไทยไปต่อยอดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะมีทั้งเด็ก สตรี คนชราที่อยู่ในพื้นที่มีอยู่จำนวนมาก ที่บ้านหนองจานประมาณ 200 หลังคาเรือน และที่หนองหญ้าแก้วอีกประมาณ 30 หลังคาเรือน มีผู้ที่ต้องย้ายออกไปจากเหนือเส้นแดงร่วมพันคน งานนี้ต้องปฏิบัติการด้วยความระมัดระวังสูงสุด ๐

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงของควันหลงส่ง-มอบตำแหน่งของหลายหน่วย โดยเฉพาะหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) มีบิ๊กเนมหลายคน จากช่วงต้นเดือน "ผบ.เต้" พล.อ.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ส่งมอบหน้าที่ ผบ.นสศ. ให้แก่ พล.ท.อดุลย์ จันทร์มา  ตามมาด้วย "รองเอิร์ธ" พล.ต.อินทนนท์ รัตนกาฬ  รอง ผบ.นสศ. ส่งมอบหน้าที่ ผบ.พล.รพศ.1 ให้แก่ พล.ต.เสด็จ อาคะจักร  นอกจากนั้นก็มีพิธีส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ จาก พล.ท.พรเทพ ยังรักษา เจ้ากรมการทหารสื่อสาร  ให้ พล.ต.อนุสรณ์  สิทธิสกุลรัตน์ รับไม้ต่ออีกด้วย.