บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าใครที่ไถดู “เฟซบุ๊ก” ยามนี้ อย่างน้อยๆ ต้องมี 2 เรื่องโผล่ขึ้นมาให้เห็นไม่มากก็น้อย หนึ่งคือเรื่องในวงการพระเครื่องว่าด้วยเหรียญหลวงพ่อทวดรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์เนื้อทองคำแท้หรือเก๊ สองคือปรากฏการณ์ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ไลฟ์ขายของ ที่มียอดขายถล่มทลาย รวมทั้งเกจิและกูรูทางการตลาดทั้งหลายที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเนื่องในปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยงัดความรู้และทฤษฎีทั้งหลายมาชี้แนะสังคมกันเป็นทิวแถว ...๐

แต่ที่ต้องบอกว่า หักมุมและน่าสนใจคือ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อดีต สว.และนักร้องชื่อดังที่บอกว่าได้ส่งหนังสือด่วนถึง “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สั่งการ “กรมสรรพากร” ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะในการไปออกรายการ “โหนกระแส” เกี่ยวกับรายได้การขายหรือให้เช่าพระเครื่อง และไลฟ์สดต่างๆ นั้น เสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ...๐

แม้ใครหลายคนอาจตำหนิว่า “เรืองไกร” ขี้อิจฉา หรือมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ แต่หากมองอย่างใจเป็นธรรมก็เป็นประเด็นที่น่าติดตามและน่าสนใจ เพราะดูจาก รายได้วงการพระเครื่อง โดยเฉพาะเซียนพระทั้งหลาย รวมถึงบรรดาดาราและเซเลบที่มาไลฟ์ขายของนั้น ก็มีเงินระดับเศรษฐีและมหาเศรษฐีทั้งนั้น ...๐

โดยเฉพาะในเรื่องการไลฟ์ขายของที่ลดราคากันอย่างบ้าระห่ำนั้น ก็ต้องให้ “สันติ ปิยะทัต” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) “โสภณ​ ซารัมย์”​ รองนายกฯ ที่กำกับดูแลด้านสังคม และ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ต้องเข้ามาดูแลในเรื่องต้นทุน และการกำหนดราคาที่เป็นธรรมด้วย เพราะขนาดไลฟ์ขายของลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลยังมีกำไรกันระดับร้อยล้านพันล้าน แสดงให้เห็นว่า ราคาสินค้าที่วางขายตอนยังไม่ลดราคานั้นราคาโอเวอร์ขนาดไหน ...๐

หันมาดูการเมืองว่าด้วยการประชุมรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 156 เพิ่มเติมกรณีที่รัฐสภาต้องมีการประชุมร่วมกันและเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นวันสุดท้ายกันบ้าง โดยบรรดา สส.พรรคเพื่อไทยต่างพาเหรดแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เล่นเอาสภากาแฟไม่รู้ว่าจะส่ายหัวไปทางไหนดี เพราะในเวลากว่า 2 ปีไม่เคยเห็นเอื้อนเอ่ยเรื่องดังกล่าว ให้จับต้องได้ แต่พอรัฐบาลอนุทินเปิดไฟเขียวขึ้นมาก็โชว์ออฟซะยกใหญ่ ...๐

แล้วที่ “วงกาแฟ” เขาหัวร้อนกันอย่างมากก็คือ การประดิษฐ์ถ้อยคำของ สส.เพื่อไทยทั้งหลายนั่นแล ไม่ว่าจะเป็น “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ที่บอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญกล่องสุ่มบ้าง หรือ “สุทิน คลังแสง” ที่บอกว่าหากไม่แก้รัฐธรรมนูญอนาคตประเทศมืดมนบ้าง หรือแม้แต่ “จาตุรนต์ ฉายแสง” ที่บอกว่าหากทำตามร่างของพรรคภูมิใจไทยอาจใช้เวลาเกือบปี และอาจไม่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พิโธ่! แล้วเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำไมยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และเลือกตั้งใหม่เล่าคุณชายอ๋อย ...๐

แต่ที่ขำไม่ออกมากที่สุด คงไม่มีกรณีใดเกิน “พริษฐ์ วัชรสินธุ” หรือไอติม ผู้คร่ำเคร่งอยากแก้รัฐธรรมนูญอย่างออกหน้าออกตา ที่โพสต์เฟซบุ๊กตั้งแต่เช้าไก่โห่ 06.06 น. ในหัวข้อ “ทำไมต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างระบบการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชน” โดยไอติมเชิญชวนให้มองมุมกลับว่า ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ประเทศเสียหายอย่างไร โดยยกทั้งเรื่องตึก สตง.ถล่มเอย คดีมาตรา 112 เอย คดีฮั้ว สว.เอย การคลอดเมกะโปรเจกต์เอยมาจากผลพวงรัฐธรรมนูญ 2560 เรียกว่า รธน.2560 แค่หายใจก็ผิดแล้วอย่างนั้น ทั้งๆ ที่หลายเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญเลย แต่เป็นพฤติกรรมของ “คน” ที่กระทำผิดกฎหมายที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามอยู่ทั้งนั้น ...๐

งานนี้เลยอยากให้ “ไอติม” ไปแกะเทปคำอภิปรายของ “ชวน หลีกภัย” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่า “ในฐานะเป็นประจักษ์พยานที่เห็นรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับ แม้ทั้งหมดเราจะเขียนมาไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ทำไมถึงมีปัญหา คำตอบคือผู้ใช้รัฐธรรมนูญ ต้องคำนึงว่ากฎหมายที่ดีกับคนที่ดีต้องไปด้วยกันตลอดเวลา บ้านเมืองเราจึงจะสามารถพัฒนาไปได้ มีความเจริญรุ่งเรือง ระบบการปกครองของเราไม่ใช่ระบบล้มเหลว ที่เรามีปัญหาสะดุดหลายครั้ง หกล้มหลายครั้ง เพราะผู้ใช้กฎหมายของเราไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกา เลือกปฏิบัติ ทำให้เกิดความขัดแย้ง” แต่ก็ไม่รู้ว่า “พริษฐ์” และบรรดา สส.พรรคส้มจะสำนึกสำเหนียกหรือไม่ เพราะ “อัตตา” นั้นสูงปรี๊ดอย่างยิ่ง ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.