บรรทัดฐานแต่งตั้ง

ต้องแบบนี้ซิ...ถูกต้อง!!!

หลังวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ นายกฯ หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล มานั่งหัวโต๊ะประธาน ก.ตร.ครั้งแรก ไฟเขียวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการแต่งตั้งนายพล

"นอกวาระประจำปี"

ถือเป็น "วาระพิเศษ" นอกเหนือจากการแต่งตั้งปกติ ตามที่กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 ข้อ 7 กำหนดให้มีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเป็น 2 วาระ

วาระที่ 1 เรียกว่า "วาระประจำปี" ให้ดำเนินการแต่งตั้งตำแหน่ง "ผบ.ตร." แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค. ตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร.-ผบก." แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.ของทุกปี ตำแหน่ง "รอง ผบก.-สว." แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.ของทุกปี ตำแหน่ง "รอง สว.-ผบ.หมู่" แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.ปีถัดไป

วาระที่ 2 เรียกว่า "วาระเดือนเมษายน" แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาหรือผู้ทรง ที่มักเรียกกันว่านายพลแก้มลิง แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.ของทุกปี

แม้ตาม ก.ตร.จะระบุว่าการแต่งตั้งนอกวาระประจำปีจะกระทำมิได้ แต่ก็เปิดช่อง "ยกเว้น" เอาไว้ "เว้นแต่เป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นของทางราชการอย่างยิ่ง โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร."

เมื่อ ก.ตร.ตีตราประทับให้มีการแต่งตั้ง "นอกวาระประจำปี" ก็เข้าสู่ขั้นตอนการแต่งตั้ง "นายพล" ต่อไป

การที่ โฆษกแรก-พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาอธิบายเหตุและผลในการอนุมัติให้มีการแต่งตั้ง "นอกวาระประจำปี" เป็นสิ่งที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ที่สำคัญต้องชื่นชมมากคือ "โฆษกแรก" แถลงรายละเอียดมติ ก.ตร.ครั้งนี้ ได้ชัดเจน ปิดช่องไม่ให้ใครมาครหามากล่าวร้าย ว่าเพิ่มวาระแต่งตั้งนายพลตำรวจนอกวาระ

เอื้อการเมือง!!!

"3 ตำแหน่งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ หากไม่มีการคัดเลือกแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวจะเกิดความเสียหายกับทางราชการ ก็เลยขอความเห็นชอบในการคัดเลือกแต่งตั้งนอกวาระ ซึ่งที่ประชุม ก.ตร.ให้ความเห็นชอบ ลำดับต่อไปจะมีการคัดเลือกแต่งตั้งทดแทน โดยไม่มีตำแหน่งอื่นเพิ่มเติมหรือหมุนเวียนแต่อย่างใด"

ชัดเจน...ทำเฉพาะตำแหน่งว่าง เฉพาะตำแหน่งจำเป็น ไม่ไปหมุนเวียน ไม่ไปแตะต้องตำแหน่งอื่น ที่เพิ่งแต่งตั้งนายพลวาระประจำปี มีผลไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

3 ตำแหน่งที่ว่างดังกล่าว มาจาก 3 นายพลเข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 27 ที่ได้รับอนุมัติให้ "ลาออก" ไปแล้ว มี "รองจเรตำรวจแห่งชาติ" เทียบเท่า "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต "รองจเรตำรวจ" เทียบเท่า "รอง ผบช." ของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ และ "ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3" ของ พล.ต.ต.นิรันดร์ ทองฤทธิ์

เมื่อทั้ง 3 ตำแหน่ง ก.ตร.มีมติเป็นตำแหน่งจำเป็นเร่งด่วนต้องแต่งตั้ง ตามที่ ตร.เสนอ ในปีต่อๆ ไปหากตำแหน่งดังกล่าวว่าง ก็สามารถขอเปิดการแต่งตั้ง  "รายวาระประจำปี" ได้ เพราะมีมติ ก.ตร.ปีนี้

เป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ตชด.' หัวใจนักสู้

เห็นภาพ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา "ตชด." ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งมอบนโยบาย ทั้งร่วมวงนั่งพื้นกินข้าวกันฉันพี่ๆ น้องๆ

หรือทิ้งทวน?

ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา

ตำรวจไม่เลวไปหมด

ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต

'200 สีกากี' หนาว!

มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'

หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย

องค์กรอาชญากรรมหรือ?

เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!