ผู้กองปฏิรูปวงการกีฬา

กลายเป็นประเด็นร้อนวงการกีฬาเมื่อ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ถอนตัวจากทีมชาติแบดมินตันซีเกมส์ 2025 ที่จะจัดขึ้นเดือน ธ.ค.นี้ เนื่องจากพบความไม่เป็นธรรมถูกหักเบี้ยเลี้ยง-ไร้การดูแลจากสมาคมฯ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ ในฐานะประธานบอร์ด กกท. ถูกสื่อรุมถามถึงกรณีนี้ ธรรมนัสตอบชัดว่าปัญหานี้สะสมมานาน ไม่ใช่แค่กรณีหมิวคนเดียว ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. รายงานว่ามีนักกีฬาร้องเรียนสมาคมกีฬาหลายแห่งจำนวนมาก เช่น สมาคมกีฬาเปตองก็มีปัญหาเช่นกัน ธรรมนัสย้ำต้องแก้ไขให้เป็นระบบ ไม่อย่างนั้นวงการกีฬาไทยจะล้มเหลวต่อไป

หลังประชุม ครม. "ธรรมนัส" เชิญหมิวเข้าพบตัวต่อตัวช่วงบ่าย ผลคือหมิวตกลงกลับมาแข่งขันซีเกมส์เพื่อชาติและเพื่อนร่วมทีม หมิวระบุว่ายินดีทำหน้าที่ แต่ขอให้แก้ปัญหาให้รุ่นน้องต่อไป ธรรมนัสประกาศตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษรับเรื่องร้องเรียนจากนักกีฬาทุกประเภท จะลงนามแต่งตั้งด้วยตัวเอง เชิญ "อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" และ  "หิมาลัย ผิวพรรณ" เป็นที่ปรึกษา ตรวจสอบทุกสมาคมอย่างโปร่งใส

ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่หมิวถูกตัดจาก 60,000 เหลือ 20,000 บาท หมิวระบุว่าไม่ติดใจเพราะไม่ผ่านเกณฑ์ทดสอบร่างกาย พร้อมคืนเงินทั้งหมด แต่ขอให้สมาคมสนับสนุนนักกีฬาอย่างเต็มที่ ก้องศักด ผู้ว่า กกท.ระบุจะสังคายนาสมาคมกีฬาให้เร็วที่สุดก่อนซีเกมส์ ธรรมนัสสั่งห้ามเกิดปัญหาซ้ำอีกเด็ดขาด วันนี้คือจุดเริ่มต้นปฏิรูปวงการกีฬาไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนอดีตพบว่าผู้กองเคยเป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยชุดยู-14 เมื่อปี 2012 รู้ดีถึงปัญหาภายในสมาคมที่สะสมมานาน และสาเหตุที่ทุ่มเทให้กีฬาเพราะเห็นว่ากีฬาคือเครื่องมือสร้างชาติ สร้างวินัย สร้างความสามัคคีให้เยาวชน ตั้งแต่เด็กจนโต ธรรมนัสเชื่อว่าถ้าเด็กมีสนามแข่ง มีโค้ชดี มีระบบสนับสนุน เด็กไทยจะโตมาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ กีฬาคือการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับประเทศ

หากทำได้จริง ซีเกมส์ครั้งนี้อาจเป็นเวทีฟื้นฟูความเชื่อมั่น นักกีฬาได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม สมาคมถูกตรวจสอบทุกมิติ และที่สำคัญเด็กไทยจะได้เติบโตในระบบกีฬาที่เขารักและภูมิใจ วงการกีฬาคงหายห่วง

เพราะมีคนรักกีฬาจริงๆ คอยกำกับ เด็กสร้างชื่อเสียงให้ประเทศอย่างไม่มีกังวล.

วอชเชอร์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง

ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร