
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด การประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุม เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยนายกฯ มีข้อสั่งการฝากให้ช่วยชี้แจงว่า "รัฐบาลไม่เคยมีมติหรือข้อสั่งการให้หน่วยงานราชการ รวมไปถึงภาคเอกชน งดการจัดกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ การจัดกิจกรรมทั้งของส่วนราชการและเอกชน โดยเฉพาะกิจกรรมที่จัดขึ้นตามวัฒนธรรมและประเพณีก็ยังคงจัดได้
โดยขอความร่วมมือให้ใช้ดุลพินิจ ปรับรูปแบบให้เหมาะสมและสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" แต่ความสับสนก็มาจากคนในรัฐบาลนั่นแหละ ทั้งที่เคยมีประเพณีปฏิบัติกันอยู่แล้ว ส่วนพวกปฏิปักษ์ต่อสถาบันก็สันดานเดิม หาเรื่องเซาะกร่อนบ่อนทำลาย แล้วชอบอ้างสิทธิมนุษยชนชน คนเท่ากัน แต่กลับละเมิดสิทธิคนร่วมชาติเดียวกัน...0
ควันหลง นายกฯ อนุทิน ลงนามสันติภาพกับ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย เป็นสักขีพยาน คนไทยเลือดรักชาติไม่ไว้วางใจว่าเขมรจะทำตามข้อตกลงทั้ง 4 ข้อ ก็ต้องทำใจรอการดำเนินการต่อจากนี้ หากเขมรเบี้ยวอีก กองทัพไทยต้องจัดหนักๆ ไม่งั้นจะถูกกล่าวหาว่าอ่อนข้อให้เขมรเกินไป แต่ที่ดรามากรณี นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่าไทยกับกัมพูชาล้ำแดนกันทั้งสองฝ่าย นายอนุทิน ได้กล่าวขอโทษด้วยที่ทำให้เกิดความสับสน พร้อมชี้แจงว่า “ไม่ได้บอกว่าไทยรุกล้ำกัมพูชา ผมบอกว่าถ้า เพราะเมื่อวานขาดคำพูด คำว่าพื้นที่อ้างสิทธิ ซึ่งก็คือคำที่เป็นคำอย่างเป็นทางการ ตรงนั้นมีคนไทยอยู่ และมีคนกัมพูชาอยู่ ถ้าเราตกลงกันได้แล้ว ถ้าเขาอ้างสิทธิของเขาได้ และเรายอมรับได้ เราก็ต้องกลับมาในดินแดนของเรา และเขาก็ต้องกลับไปในดินแดนของเขา” ตามหลักการก็พูดถูก แต่ถ้าสื่อสารไม่รัดกุมก็งานเข้าได้ ความจริงตลอดเขตแดน 798 กม. ในการกำหนดเขตแดนย่อมมีได้-มีเสียทั้งสอง แต่ส่วนที่เสียหากอธิบายไม่เคลียร์อาจมองว่าสูญเสียอธิปไตยได้ โดยเฉพาะเรื่อง MOU 43 ที่มองว่ายึดแผนที่ 1:200,000 แต่ในทางปฏิบัติ พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร ก็บอกว่าไม่ได้ยึดแผนที่ 1:200,000 แต่ยึดสันปันน้ำตามสนธิสัญญา ประเด็นทางเทคนิคแบบนี้ต้องให้ฝ่ายปฏิบัติชี้แจง จะได้สยบดรามาได้...0
ดรามาอีกเรื่อง การลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาของห่วงโซ่อุปทานของแร่สำคัญ แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ระหว่างไทยและสหรัฐ ที่มีความกังวลว่าไทยจะเสียความสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์กับมหาอำนาจระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งจีนห้ามส่งออกไปสหรัฐ ผู้รับผิดชอบเรียงหน้าชี้แจงกันเป็นแถว นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า "ไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 เป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ" นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง บอกว่า "เป็นการปูทางเจรจาภาษีสหรัฐ หวังใช้ความสัมพันธ์ที่ดีลดจาก 19% เพื่อเพิ่มความแข่งขันในอาเซียน" แรร์เอิร์ธ เป็นวัตถุดิบสำคัญของโลก เป็นส่วนประกอบสำคัญของเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตคนสมัยใหม่ ขั้นตอนการทำเหมืองและสกัดแร่ส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เนื่องจากมีกัมมันภาพรังสีปนเปื้อน ประเทศจีนผลิตได้มากที่สุด มีปริมาณสำรองถึง 44 ล้านตัน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณสำรองทั่วโลก การริเริ่มนำแร่หายากมาใช้เป็นประโยชน์กับประเทศ เกมเจรจาต่อรองระหว่างประเทศมีได้-มีเสีย อยู่ที่การรักษาความสมดุลอย่างไร...0
ครบ 1 เดือน รัฐบาลนายอนุทินแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ชาวบ้านกำลังพึงพอใจกับนโยบายคนละครึ่งพลัส แต่ก็มีเรื่้องร้อนๆ มากระแทกรัฐบาล โดยเฉพาะการแพ้เกมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและคนในรัฐบาลเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ จนมีข่าวว่านายกฯ จะยุบสภาก่อนกำหนด วันที่ 31 ม.ค.2569 เมื่อถามถึงไทม์ไลน์การยุบสภายังเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายกฯ ได้แต่พยักหน้ารับ พร้อมกล่าวว่า "เหมือนเดิม" ต้องรอลุ้นเปิดสภา 12 ธ.ค. จะรู้ว่าเหมือนเดิมหรือไม่? แต่ก็โล่งอกไปสำหรับเรื่องม็อบหน้าทำเนียบฯ เมื่อเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แถลงยุติการชุมนุม หลังปักหลักมากว่า 270 วัน ถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ไม่หยุดเคลื่อนไหว เพราะปัญหาต่างๆ ยังไม่ไว้วางใจ โดยมีข้อเสนอยื่นให้กับรัฐบาล 3-4 เรื่อง หลังเลือกตั้งต้นปีหน้าคงต้องมาว่ากันใหม่...0.
แซมซาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


