
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า
"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
แต่เลือกตอบโต้ด้วยการทำงาน มีผลการจับกุมสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นวิธีที่ทำให้ประชาชนเห็นผลงานมากกว่า ตามที่ โฆษกตำรวจ-พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ออกมาบอกพร้อมยืนยัน
"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการรวบรวมพยานหลักฐาน จะดำเนินคดีกับทุกคนที่กล่าวหาใส่ร้ายองค์กรตำรวจโดยปราศจากหลักฐานอย่างเด็ดขาด เพราะการกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน มีกระบวนการทำงานอยู่แล้ว"
ยกมือชูสุดแขนเห็นด้วยกับแนวทางนี้
"การกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน"!!!
นี่คือวิธีที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหา ด้วยพยาน ด้วยหลักฐาน ด้วยข้อเท็จจริง การโต้เถียงกันไปมาไม่ได้เกิดประโยชน์ เกิดแค่เพียงความสะใจ
แต่ที่เสียหาย ที่พังทลายคือ "องค์กรตำรวจ" จะไปบังคับใช้กฎหมายกับชาวบ้านได้อย่างไร หากตัวเองทำผิดกฎหมายเสียเอง
การนำข้อกล่าวหาเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าสู่ศาลสถิตยุติธรรม เพื่อให้ความจริงปรากฏตามพยาน ตามหลักฐาน คือการรัก "องค์กรตำรวจ" อย่างแท้จริง
เหมือนอย่างที่ 4 องค์กรตำรวจ ทั้ง สมาคมตำรวจ, สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ, ชมรมพนักงานสอบสวนและชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.
เรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยและอาญา กับอดีตตำรวจใหญ่และผู้ที่ออกมากล่าวหาองค์กรตำรวจ เพราะมองว่าเป็นการใส่ร้ายองค์กรตำรวจให้เสียหาย บั่นทอนและทำลายชื่อเสียง รวมทั้งทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อองค์กรตำรวจ
พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ บอก... องค์กรตำรวจก่อตั้งมานานเป็นร้อยปี จึงต้องการกอบกู้ศรัทธา หากทั้ง 2 คนมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ก็ขอให้นำมามอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเอาผิดและจัดการกับตำรวจไม่ดี
ใช่ที่สุด...อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
ผบ.ต่าย อย่าก้มหน้าก้มตาพิสูจน์ข้อครหาด้วยผลการจับกุม การปราบปรามอย่างเดียว การรวบรวมหลักฐานที่โดนกล่าวหาก็ต้องเร่ง ต้องรีบ นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าปล่อยให้ "องค์กรตำรวจ" ที่ท่านรัก โดนเซาะกร่อน บ่อนทำลาย เพียงเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว
ต้องพิสูจน์ความจริง สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ถูกกล่าวหา เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เป็นจริงเช่นนั้นหรือ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว
บรรทัดฐานแต่งตั้ง
ต้องแบบนี้ซิ...ถูกต้อง!!! หลังวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ นายกฯ หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล มานั่งหัวโต๊ะประธาน ก.ตร.ครั้งแรก ไฟเขียวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการแต่งตั้งนายพล


