
เห็นข่าวที่ สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซ ของจีน หรือ CAC (Cyberspace Administration of China) เขาออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมบรรดาพวกที่เรียกๆ กันว่า อินฟลูเอนเซอร์ หรือพวกผู้ที่มีบทบาท อิทธิพล ทางโซเชียล มีเดีย ทั้งหลาย เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่เพิ่งจะผ่านมา แล้วอดที่จะรู้สึก อึ้ง และ ทึ่ง ขึ้นมามิได้ แต่คงไม่ถึงกับ เสียว เพราะยังไงๆ...คุณพี่จีนท่านน่าจะไม่ได้มีอะไรเหมือนๆ กับเนปาลอยู่แล้วแน่ๆ แม้จะเคยมีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิด ติดพัน มาก่อนก็เถอะ...
คือถ้าหากเป็นเนปาลแล้วละก็...ต้องเรียกว่า แตะเธอเมื่อไหร่-โลกแตกแน่!!! อะไรประมาณนั้น ใครที่คิดไปแตะโน่น แตะนี่ ต่อบรรดาโลกโซเชียล มีเดีย ทั้งหลาย ย่อมหนีไม่พ้นต้องเจอกับพวก เจเนอเรชัน x เจเนอเรชัน y และโดยเฉพาะ เจเนอเรชัน Z ที่แห่ออกมาเผาบ้าน-เผาเมือง เผาบ้านนายกรัฐมนตรีจนภรรเมียถูกไฟคลอกตาย แถมยังลากพวกรัฐมนตรีออกมา กระทืบ กันกลางถนนซะอีกต่างหาก แต่สำหรับคุณพี่จีนแล้ว...แม้จะไม่ได้มีสายใยทางพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายซักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความเป็นเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ใครที่คิดกล้าหือ หรือเคยกล้าหือ ต่างมีอันต้องม่อยกระรอกไปเป็นแถบๆ ไม่เหลือพวกคนรุ่นใหม่ประเภทชอบ เถียงคอเป็นเอ็น หรือประเภทคล้ายๆ พวกนักศึกษาที่รุมประท้วงอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อไม่กี่วันมานี้ เหลือติดปลายนวมใดๆ ต่อไปอีกเลย...
โดยกฎระเบียบใหม่ๆ ของสำนักงาน CAC ของจีน นอกจากมุ่งที่จะควบคุมบรรดาพวก กูรู้ ทั้งหลาย ซึ่งอาจจะมีเยอะพอๆ กับบ้านเราเอาเลยก็เป็นได้ แม้ จำนวนประชากร จะมากมายมหาศาลกว่าเราเพียงใดก็ตามที เพราะสำหรับบ้านเรานั้น อย่างใครต่อใครเขาเคยพูดๆ เอาไว้นั่นแหละว่า...ในจำนวนประชากรประมาณ 70 ล้านคน น่าจะประกอบไปด้วย ศรีธนญชัย ไม่ต่ำไปกว่า 80 ล้านคนเป็นอย่างน้อย และเมื่อเผอิญมี อาวุธครบมือ หรือมีโทรศัพท์มือถือ มีอินเทอร์เน็ต เอาไว้ให้ทิ่มๆ จิ้มๆ จำนวน ศรีธนญชัย บ้านเราก็อาจปาเข้าไปราวๆ 1,000 ล้านราย เอาเลยก็เป็นได้ การแห่ออกมาแสดงความคิด ความเห็น เรื่องโน้น-เรื่องนี้ ภายใน โลกเสมือนจริง ทั้งหลาย เลยเล่นเอาใครต่อใคร...ต่าง หลับไม่ลง กันไปเป็นแถบๆ เพราะมักต้องเจอกับ รถทัวร์ แล่นมาจอดหน้าบ้านกันไปเป็นสายๆ...
ด้วยเหตุนี้...แม้ว่าโซเชียล มีเดีย ของจีน ไม่ว่าประเภท Bilibili, Weibo, Douyin หรือ TikTok ฯลฯ ภาคภาษาจีนจะทำเงิน ทำรายได้ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจราวๆ 1.2 ล้านล้านหยวน หรือราวๆ 6 ล้านล้านบาท สูงกว่างบประมาณรัฐบาลไทยในแต่ละปีเอาเลยก็ว่าได้ แต่อาจเป็นเพราะพรรคคอมมิวนิสต์จีนท่านคงไม่ถึงกับ งกเงิน มากมายซักเท่าไหร่ แต่หันไปให้ความสำคัญกับ ความเคารพต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน กับ วัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน และกับ ความมั่นคงแห่งชาติ นั่นแหละเป็นสำคัญ ชนิดกูรู-กูรู้ ประเภท นักขาย คล้ายๆ พิมรี่พาย บ้านเราอะไรทำนองนั้น ถึงขั้นได้ชื่อว่า ราชาลิปสติก เพราะสามารถขายลิปสติกทางออนไลน์หมดล็อต หมดสต๊อก ภายในแค่ไม่กี่นาที แต่เมื่อดันคิดจะขายไอศกรีมที่ทำรูปร่างคล้ายๆ รถถัง ในช่วงวันครบการปราบนักศึกษาจีนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินขึ้นมาเท่านั้นเอง...ก็ถูกตัดช่องทางทำมาหากินเอาดื้อๆ!!!
ดังนั้น...บรรดาพวกกูรู-กูรู้ในแต่ละราย โดยเฉพาะในเรื่องของการแพทย์ การศึกษา การเงิน-การทอง หรือตัวบทกฎหมาย ฯลฯ อันเป็นสิ่งซึ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญอย่างเป็นพิเศษ เลยต้องถูกตีตรา ลงทะเบียน หรือต้องแสดง วุฒิการศึกษา ประกอบการแสดงความคิด ความเห็นเอาไว้ด้วย ต้อง อ้างแหล่งข้อมูลที่แน่ชัด แม้หันไปวานให้ AI เป็นตัวช่วย ก็ต้องบอก ต้องแจ้ง ไว้โดยเสร็จสรรพ จะมาตีกิน จิ้มๆ ทิ่มๆ ไปตามเรื่อง ตามราว ไม่ได้โดยเด็ดขาด แม้แต่พวกที่ชอบขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมติดปลายนวม แบบตามทีวีดาวเทียมบ้านเรา ก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขาย ไม่ให้โฆษณาเหล้า บุหรี่ หรือแสดงความหมกมุ่นทางเพศจนเกินควร ฯลฯลฯ...
นี่...ดี-ไม่ดี อึ้ง-ไม่อึ้ง ทึ่ง-ไม่ทึ่ง ก็ลองไปว่ากันตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า ภายใต้ โลกที่ไม่พรมแดน อย่างโลกโซเชียล มีเดีย หรือโลกเสมือนจริงในทุกวันนี้นั้น มันเต็มไปด้วย ยาพิษ เต็มไปด้วยความเสื่อมทราม ไร้สาระ ความไม่เข้าท่า ไม่ว่าต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ไปจนถึงศาสนา ฯลฯ อยู่เป็นจำนวนมิใช่น้อย อันเป็นสิ่งที่ควรจะต้องหาทาง ป้องกัน เอาไว้ให้จงหนัก เพื่อให้แต่ละสิ่ง แต่ละอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตาม ครรลองคลองธรรม ส่วนจะป้องกันด้วยวิธี ยกระดับจิตใจ ให้สูงๆ เข้าไว้ หรือต้องหันไป เผด็จการ แบบพรรคคอมมิวนิสต์จีน อันนั้น...ก็แล้วแต่ ทางใคร-ทางมัน จะไปว่ากันเอาเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


