
ดูจะเข้าตำรา "ข้าชั่วเอ็งเลว" ศึก "สาวไส้" แวดวงสีกากี ผู้แฉก็เป็น "ตำรวจเก่า" คนถูกแฉก็มีทั้ง "ตำรวจเก่า-ตำรวจปัจจุบัน" หลายคนมองเป็นเรื่องการล้างแค้น เพราะทุกตัวละครที่เกี่ยวข้องกับศึกครึ้งนี้ ล้วนมีคดีถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับ "เว็บพนันออนไลน์" เรียกว่า "ผีเห็นผี" การแฉตำรวจรับส่วยรอบนี้จึงทำให้สังคม "เชื่อ" มากกว่า "ไม่เชื่อ" ก็คนในพูดเองใครจะไปรู้ข้อมูลเท่า เพียงแต่เบื้องหน้าเบื้องหลังที่เลือก "เผาบ้านตัวเอง" คนทำน่าจะรู้แก่ใจ ทำไปเพื่ออยากให้องค์กรใสสะอาดขึ้น หรือมีอะไรแอบแฝง ทว่าไม่ว่าใครจะเลว ใครจะชั่ว พยาน
หลักฐาน และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เพียงแต่ปม "ส่วยพนัน" ที่แฉกันไปมาครั้งนี้ น่าจะเป็นโอกาสดีที่ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ได้ลงมือสังคายนา "ลูกน้อง" ทุกหน่วย ไม่ให้มีพฤติกรรมไปเกี่ยวข้อง "ส่วย" ไม่ว่าจะรูปแบบไหน เพราะสังคมตาสับปะรดอย่างทุกวันนี้ ไม่มีอะไรสามารถแอบแฝง ไม่มีอะไรปิดมิด หากใครยังกล้าทำผิดอยู่ ผบ.ต่าย ต้อง "เชือดไก่โชว์ลิง" ใช้โอกาสนำน้ำดีล้างน้ำเสีย ถ้าไม่ถึงกับใสเสียทีเดียวก็ต้องให้ขุ่นน้อยที่สุด เริ่มต้นจากการแต่งตั้งโยกย้าย ใครมีกลิ่นตุๆ มีเรื่องมีราว จับเข้ากรุไม่ให้สัมผัสประชาชน สัมผัสผลประโยชน์ น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง ๐
ขยับถึงการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพัน” วาระประจำปี 2568 ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)-สารวัตร (สว.) ทั่วประเทศ หลัง ผบ.ต่าย ออกหนังสือเวียนแจ้งทุกหน่วยจัดทำบัญชีแต่งตั้ง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. โดยคำสั่งมีผลวันที่ 1 ธ.ค. และตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเดินทางเข้ารับตำแหน่งใหม่และรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดใหม่ ภายในวันที่ 8 ธ.ค. พร้อมออกกฎเหล็ก 11 ข้อ กำชับการพิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียน ระหว่างหน่วยตามบันทึกสมัครใจหรือคำร้องขอรับการแต่งตั้ง ให้พิจารณาภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้ตามความเหมาะสม รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลตำรวจที่บกพร่องในการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และ ตร.ที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ บ่อนการพนัน และสถานบริการ รวมทั้งการแก้ปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ให้พิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งที่มีปริมาณงานหรือคุณภาพงานน้อยลง หรือไม่สัมผัสประชาชนทุกราย แว่วว่าปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาบัญชีนโยบายได้จัดส่งถึงทุกหน่วยงานรับไปปฏิบัติเรียบร้อย ๐
ไม่รู้จะกลายเป็นดาบสองคมหรือเปล่า นโยบายการประกาศแจ้งสถานที่และช่วงเวลาการตั้งด่านให้ประชาชนทราบ ที่ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา) นำมาใช้กับสถานีตำรวจรอบพื้นที่เมืองนครราชสีมา เพื่อลบข้อครหา "เมืองด่าน" ที่ถูกประชาชนขนานนามในพื้นที่เมืองโคราช โดยหวังให้ประชาชนสบายใจ รับรู้การปฏิบัติงานของตำรวจว่าไม่มีสิ่งใดปกปิด โดยแจ้งล่วงหน้าผ่านเพจเฟซบุ๊กของแต่ละโรงพักเป็นประจำทุกวัน ซึ่งมุมหนึ่งก็เป็นการโชว์ความโปร่งใส แต่อีกมุมหนึ่งก็อาจทำให้คนร้ายรู้จุดตรวจ จุดสกัด หาช่องทางหลบเลี่ยงการลำเลียงสิ่งของหรือการกระทำผิดกฎหมาย รอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ ทว่าเมื่อประชาชนเรียกร้องก็อยากลองดูกันซักพัก กระนั้นเมื่อดำเนินการแล้ว ผู้การโคราชก็ต้องมีการประเมินผลจากนโยบายดังกล่าวให้ครอบคลุมรอบด้าน เพราะถ้าประชาชนพอใจรู้ว่าด่านอยู่ไหน แต่อาชญากรรม ยาเสพติดในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ก็ต้องทบทวน เพราะทุกอย่างมีทั้งข้อดีข้อเสีย ๐
หลังเกิดเหตุยิงตอบโต้กันระหว่างไทย-กัมพูชาในพื้นที่ หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว กองทัพตรวจสอบเป้าหมายเจตนาในการสร้างประเด็น และเตรียมความพร้อมหน่วยทหารในพื้นที่แม้จะมีการหมุนมาพักบ้าง แต่การตรึงพื้นที่แนวชายแดนและปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดยังคงดำเนินต่อไป ทางด้านตะวันออก “แม่ทัพไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่เช็กความพร้อมทุกด้านล่วงหน้าแล้ว ทางด้านอีสานใต้ "แม่ทัพเติ่ง" พล.ท.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ลงไปพบกำลังที่หน้าแนว ให้กำลังใจทหารที่ยืนระยะเฝ้าผืนแผ่นดินไทยที่น่าจะมีความเครียดอยู่ไม่น้อย เพราะฝั่งตรงข้ามมีเล่ห์กลในการปฏิบัติกับไทยตลอดเวลา ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ถึงสภาพแวดล้อมแบบ VUCA ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่มีความ ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงโดยทันที ตรงกันข้ามมันเป็นสภาวะที่กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงต้อง "เฝ้าระวังอย่างรอบด้าน" เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยสูงสุด พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกองทัพ รัฐบาล และหน่วยงานของทางการเท่านั้น หลีกเลี่ยงการแชร์ข่าวลือหรือคลิปที่ไม่ทราบแหล่งที่มา มั่นใจว่าทุกสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมและการประเมินอย่างใกล้ชิด และขอให้เชื่อมั่นในกองทัพ
ขณะที่กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เผยแพร่ภาพ พล.อ.อ.ระวิน ถนอมสิงห์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ นามเรียกขาน “ฮอลลีวูด” ทำการบินเครื่องบินขับไล่โจมตี F-16 เตรียมพร้อมในช่วงเวลา 24/7 ย้ำภารกิจเพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ตามเจตนารมณ์ “ผบ.คิม” พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน ตบท้ายด้วยกลอน "แม้ยามนี้ยังมีเราเฝ้าเวหา คอยพิทักษ์รักษาไม่หวั่นไหว ทั้งท้องฟ้าผืนน้ำขืนล้ำไทย อย่าหมายใจว่าจะพรั่นหรือหวั่นเกรง" ว่ากันว่าถ้ากัมพูชาเห็นโพสต์นี้ “ต้องมีหนาว” เพราะ “ฮอลลีวูด” มาในแนวจัดเต็ม เกินพิกัดเหนือความคาดหมาย ที่ผ่านมาน้องๆ นักบินทั้ง F-16/Gripen จัดหนักในภารกิจหย่อนไข่เพื่อชาติมาแล้ว ไม่รู้ว่าถ้ามีปะทะระลอกสองจะต้องถึงมือตัวตึงรุ่นพี่ ตท.26 ผู้นี้หรือไม่ เพราะสถานการณ์ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ๐
ในขณะที่สายการแพทย์ก็ต้องเตรียมความพร้อมเช่นกัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ท.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกในโครงการ การฝึกช่วยชีวิตทางยุทธวิถี ให้แก่นายสิบพยาบาลและกำลังพลในพื้นที่ชายแดนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เพื่อสอนการใช้งาน “ชุดปฐมพยาบาลประจำกาย (IFAK)” และ “เปลสนามพระราชทาน" ให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่ได้รับพระราชทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่กำลังพลอื่นๆ ได้ ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” พระราชทานชุดปฐมพยาบาลประจำกาย (IFAK) และเปลสนาม เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจ ลดอัตราการบาดเจ็บและการเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารหน้าแนว ๐
ต้องทันท่วงทีในการบอกสังคมโลกเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด พล.ท.ทรงวิทย์ วายุเหือด เจ้ากรมข่าวทหาร กองทัพไทย จัดการประชุมชี้แจงและแสดงหลักฐานต่างๆ ในสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย (Military Attache Corps to Thailand: MAC-T) จำนวน 18 ประเทศ ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคาร 9 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ข้อมูลสำคัญ ในช่วงหนึ่งได้โชว์หลักฐานจากคลิปในมือถือทหารกัมพูชา ที่ฝ่ายไทยเก็บได้จากการปะทะ 5 วัน “คอนเฟิร์ม” ทหารเขมรวางทุ่นระเบิดใหม่ทำทหารไทยขาขาด โดยชี้แจงให้ทุกชาติเข้าใจไทยที่ต้องตอบโต้ด้วยมาตรการต่างๆ เพราะกัมพูชาไม่จริงใจและแสดงออกถึงความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเท่าที่ควร ล่าสุดยังเจอที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี อีก 2 ลูก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


