ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรสำคัญที่ทำมุมกับดวงชะตาปี 2569

กำเนิด-วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ลัคนาสถิตราศีเมษ

ทักษาเดิม-ภูมิอาทิตย์

ทักษาจร-ตั้งแต่ต้นปี-วันที่ 21 เมษายน 2569 อายุเมืองย่าง 244 ปี ตกภูมิอาทิตย์

-ตั้งแต่ 21 เมษายน 2569-สิ้นปี อายุเมืองย่าง 245 ปี ตกภูมิกลาง

มฤตยูจร (0)-เดินในพฤษภตลอดปี (มีเดินผิดปกติ)

พระเสาร์จร (7)-เดินในกุมภ์ต้นปี-14 ก.พ.69

เดินในมีน 14 ก.พ.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)

ราหูจร (8)-เดินในราศีกุมภ์ต้นปี-22 พ.ย.69

เดินในราศีมังกร 23 พ.ย.-สิ้นปี 69

พฤหัสบดีจร (5)-เดินในเมถุน ต้นปี-31 พ.ค.69

เดินในกรกฎ 31 พ.ค.-19 ต.ค.69

เดินในสิงห์ 20 ต.ค.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)

สรุป-ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่วมบริจาคโลหิต-บุญเก่าเมืองยังหนุนนำถึงสิ้นพฤษภาคม-หาเพื่อนพรรคพวกประเทศที่เป็นมิตรถึงปลายพฤศจิกายน-ตลอดปีกระแสชาตินิยมรอเกิดแรงเอื้อต่อการปฏิวัติกองกำลังของชาติต่อเนื่อง-ทั้งปีเศรษฐกิจเจอแรงบีบต่อให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มาพร้อมโอกาสทองของการเร่งปฏิวัติใหญ่แบบก้าวกระโดดหาทางหลุดจากกับดักรายได้ปานกลาง-การเมืองปีแห่งกลุ่มอำนาจเก่าที่อาภัพมาแบกทุกข์-ปลายพฤศจิกายนเป็นต้นไปใช้อำนาจรัฐอย่างระมัดระวัง หาไม่เป็นสื่อล่อความวุ่นวายในเมืองรอบใหม่-อุบัติเหตุใหญ่สี่รอบ-ฝนมาเร็วน้ำท่วมหนักแถมแผ่นดินไหว-ต่างชาติเข้ามาวุ่นวายป่วนเมืองแปลกๆ-มีเกณฑ์ประหารชีวิต-ปลายตุลา.เป็นต้นไปเมืองจะโด่งดังไปทั่วโลก-ปลายพฤศจิกายนเริ่มสิบแปดเดือนของการเปลี่ยนใหญ่ในแผ่นดิน-และปลายพฤศจิกายนเมืองถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลืองให้สู้ข้ามปี  

ตลอดปี 2569 ปรากฏการณ์สำคัญ ที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ คาดว่าจะเป็น และกรอบระยะเวลาประมาณดังนี้

1.ปรากฏการณ์ใหญ่ที่จะเป็นกำลังใจคนไทยตลอดทั้งปีคือ ไม่ว่าเมืองจะพบปัญหา-อุปสรรค-ศัตรูระดับใด เมื่อสู้แล้วจะเอาชนะได้ หรือเสียอะไรไปสู้แล้วจะได้กลับคืนมา จึงบางกรณีเมืองอาจจะยอมเสียบางอย่างไปก่อนเพื่อแลกบางอย่างกลับมา

ตัวอย่างปรากฏการณ์นี้ เช่น หุ้นบริษัทการบินไทยได้กลับมาซื้อขายในตลาดเมื่อปีที่แล้วหลังจากเสียหายหนัก หรือปีที่แล้วคนไทยสู้ศึกกับขแมร์ต้องแลกชีวิตทหารและพลเรือนที่บาดเจ็บล้มตายอพยพพลัดที่นาคาที่อยู่แล้วได้ 11 จุดคืนมากลับมา หรือขณะที่ชะตาเมืองตกขนาดหนัก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงยอมจำแขนขาดเสียมณฑลบูรพามหึมาเพื่อแลกจังหวัดตราดและอำเภอด่านซ้ายคืนจากฝรั่งเศส ฯลฯ

2.ตั้งแต่ต้นปี-21 เมษายน 2569 ยังมีโอกาสเสียคน หรือของรักของเมือง (ต่อเนื่องมาจาก 21 เมษายน 2568) ตามโฉลก..ของรักใดประหยัด เร่งระมัดจงดี…

3.ตลอดปี 2569 คนไทยควรจะช่วยกันบริจาคโลหิตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพื่อช่วยฟาดเคราะห์ดวงเมือง เพราะถ้าเป็นคนมีโอกาสเสียเลือด หรือ..โลหิต ไหลจากตน คล้ายปีที่แล้วที่ช่วงปะทะกับขแมร์ คนไทยช่วยกันบริจาคโลหิตจนล้น

บางระยะของปีเข้าข่ายตามตำรา ธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน เช่นในอดีตเคยมีการเอาเลือดคนไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล

4.ตั้งแต่ต้นปี-31 พฤษภาคม 2569 ปรากฏการณ์ บุญเก่าของเมืองยังรอปรากฏต่อเนื่องจากที่เคยเกิดเมื่อปีที่แล้ว เพื่อจัดการ-สางประเด็นปัญหาที่เป็นกรรมเก่า หรือคนที่สร้างกรรมเก่าไว้กับเมือง ตัวอย่างที่ผ่านมา เช่น

ด้านบุญเมืองตามล่ากรรมเก่า เช่น แพทยสภามีมติเสียงข้างมากล้นหลามยืนยันลงโทษบุคลากรทางการแพทย์กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ หรือคนทุศีลในวงการศาสนาหรือนักบวชสำคัญถูกเช็กกรรมสะท้านเมือง ฯลฯ

ในส่วนของบุญเก่าเมืองด้านบุคคลที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น การผุดอย่างน่าแปลกใจของพลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือคุณสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือ คุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

5.ตั้งแต่ต้นปี-22 พฤศจิกายน 2569 แสวงหาเพื่อนต่อจากที่เคยทำมาตั้งแต่พฤษภาคมปีที่แล้ว เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติ แม้จะต่างความเชื่อ หรือต่างอุดมการณ์ เช่นในอดีตเคยเปลี่ยนสนามรบกับเพื่อนบ้านที่เป็นคอมมิวนิสต์เป็นสนามการค้า

เหตุการณ์สำคัญและโดดเด่นขณะเมืองเข้าสู่เกณฑ์นี้ ที่รอบนี้เริ่มมาตั้งแต่พฤษภาคมปีที่แล้วคือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏาน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนเป็นครั้งแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินิ โดยมีคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมเป็นรัฐมนตรีเกียรติยศ

เกณฑ์นี้รวมทั้งเพื่อนเชียร์ เช่น ปรากฏการณ์หมอนทองวิทยา และเรื่องเสี่ยงโชค เช่น หวยเกษียณ ยังจะมีปรากฏต่อ หรือบันเทิงโด่งดัง

เกณฑ์นี้จะจบลงสำหรับรอบนี้คือ 22 พฤศจิกายน 2569 หลังจากนั้นถ้าจะมีอีกก็ไม่โดดเด่นเท่ากับระยะที่เมืองได้เกณฑ์นี้

6.กระเเสชาตินิยมยังรอเกิดตลอดทั้งปี เอื้อต่อการปฏิวัติกองกำลังของชาติต่อเนื่อง ที่เริ่มมามาตั้งแต่กลางกรกฎาคม 2565 เพื่อให้ทันหรือล้ำสมัย หากไม่ปฏิวัติจะถูกบีบปฏิวัติ

     ผลของการปฏิวัตินี้คาดว่า เมื่อปรากฏการณ์นี้จบลงกลางปี 2572 หากยืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่ากองกำลังของชาติไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ถ้าทำได้ดีจะประสบความสำเร็จล้ำเลิศพาเมืองรอดปลอดภัย หากทำได้ไม่ดีกองทัพหรือกองกำลังของชาติจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

สิ่งที่คนไทยได้เห็นจากศึกไทย-ขแมร์ เมื่อ 24-28 กรกฎาคม 2568 ส่งให้กองทัพไทยโด่งดังไปทั่ว และมีความคืบหน้าทั้งภาครัฐ-เอกชนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนั้น บ่งบอกว่ามาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะกองทัพอากาศกับกริพเพน แต่ปรากฏการณ์นี้ยังต้องทำต่อไป

ปี 2569 ชี้เป้าที่กองทัพเรือ (ทางน้ำ) ว่า ตั้งแต่กลางกุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป ยาวนานสองปีครึ่งที่โครงการขนาดใหญ่ทางน้ำของชาติจะเกิด จึงควรลงมือทำสิ่งที่ทันหรือล้ำสมัย หรืออะไรที่เสียไปควรไปเอากลับมา ตามโฉลก….ลาภคืนคง รณรงค์เรามีชัย…รวมทั้งเรือดำน้ำที่ไทยเคยมีสองลำ

ส่วนตำรวจเองก็หนีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ไม่พ้น หากไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยน หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังเป็นปัญหาของชาติเหมือนที่เป็นอยู่ ขนาดต้องสาบานทั้งโรงพักว่าไม่ใช่องค์กรอาชญากรรม

7.กลางกุมภาพันธ์ 2569 เริ่มปีเคราะห์ทาง เศรษฐกิจที่มาพร้อมกับโอกาสทองของการพลิกสถานะเศรษฐกิจของชาติ คือ

7.1 เมือง ยังอยู่ในระยะเวลาเจ็ดปีของการตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจโลกไปพร้อมกับการปฏิวัติเศรษฐกิจของเมืองที่เริ่มมาตั้งแต่ประมาณกลางปี 2565

โดยเป้าหมายเศรษฐกิจของชาติโดยรวมคือ กลางกรกฎาคม 2572 เมืองจะหลุดจากประเทศกับดักรายได้ปานกลางที่เป็นมากว่าสามสิบปี ไปสู่ประเทศรายได้สูง

แต่หากทำได้ไม่ดีก็จะติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางต่อไป

7.2 เจาะมาที่ปี 2569 ตั้งแต่ต้นปี-10 มิถุนายน 2569 เมืองยังจะเจอทั้งเคราะห์ทาง เศรษฐกิจโดยพื้นฐานที่เป็น ต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วมาตั้งแต่ 21 เมษายน 2568-21 เมษายน 2569 ครบหนึ่งปีพอดี ทั้งการใช้เงินหลวงแจกหรือตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แล้วอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองก็ไม่เป็นไปตามเป้า งัดยังไงก็ไม่ขึ้น ตลาดหุ้นเดินหน้าหนึ่งถอยหลังสอง ไปที่ไหนมีแต่คนบ่นฝืดเคือง แม้จะไม่ถึงกับข้าวยากหมากแพง

ถึงจะมีปรากฏการณ์คนละครึ่งพลัสออกมาโดยรัฐบาลคุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็แค่คล้ายใช้ยาแดงทาแผล แต่หนองที่เน่าในยังรอการรักษาและพัฒนาในปีนี้

และปีใหม่นี้แทรกเข้ามาคือ เจอปัญหาหนัก ทาง เศรษฐกิจ เกี่ยวกับ สถาบันการเงิน ผสมโรงกับปัจจัยภายนอกบีบ หรือกดดัน ให้ภาครัฐต้องลงมือแก้ไขพร้อมหาตัวช่วยเปลี่ยนเกมทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันตามลีลาคือ

7.3 ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ทุกวิกฤตย่อมนำมาซึ่งโอกาส

และมาแล้วช่วงสองปีครึ่งของวิกฤตที่จะเกิดท้าทายเป็นระยะๆ ที่มาพร้อมโอกาสทองของการพัฒนาและพลิกเกมคือ ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป ถึง 12 เมษายน 2571 ที่เศรษฐกิจจะเจอแรงกดดันเป็นระยะๆ ด้วยกรรมเก่าที่ทำไว้ และกรรมใหม่ที่มาจากต่างประเทศให้สางหรือแก้ไข แต่มาพร้อมสร้างโอกาสของการเกิดโครงการขนาดใหญ่ หรือต่อยอดสิ่งที่มีมาแต่เดิมเพื่อจะเปลี่ยนเกมทางเศรษฐกิจไปสู่ความรุ่งเรืองในระยะยาว

ตัวอย่างเชิงลบที่เมืองมีปัญหาถูกบีบให้ลงมือทำแล้วประเทศเคยเสียหายป่นปี้-ปางตาย คือธนาคารแห่งประเทศไทยไปต่อสู้การโจมตีค่าเงินบาท จนสำรองเงินตราต่างประเทศเสียหายป่นปี้ ผลคือต้องลอยตัวค่าเงิน เป็นที่มาของวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ยับเยินทั้งเมือง และติดเชื้อไปยังประเทศอื่นๆ

ส่วนตัวอย่างการลงมือทำผลที่ออกมาด้านบวก คือ ขณะที่เกิดวิกฤตการณ์น้ำมัน พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องวิ่งวุ่นหาพลังงานป้อนประเทศเป็นการเอาตัวรอด ต่อมาท่านให้ตั้ง ปตท.เพื่อรับมือ จนปัจจุบันกลายเป็นเครือข่ายบริษัทใหญ่ เป็นหนึ่งในเสาเศรษฐกิจของประเทศ

7.4 ตั้งแต่ต้นมิถุนายน-19 ตุลาคม 2569 ภายใต้แรงกดดันให้รัฐลงมือทำเพื่อหาตัวเปลี่ยนเกมทางเศรษฐกิจ จับตาการ เริ่ม เกิดของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ยักษ์ของประเทศ หรือต่อยอดโครงการเดิม ที่รัฐต้องลงทุนและใช้จ่ายมาก

7.5 การลงมือทางเศรษฐกิจรอบปีนี้ (ยังมีอีกหลายระลอก) คาดว่าผลน่าจะออกมาบวกมากกว่าลบเพราะดวงดาวส่งสัญญาณบวกว่า ตลาดหุ้น จะคึกคัก เริ่ม 20 ตุลาคม 2569

แคบเข้ามาจับตาสถิติใหม่ตลาดหุ้นด้านใดด้านหนึ่ง ระหว่างกลางธันวาคม 2569-กลางมกราคม 2570

แม้สัญญาณบวกจะออกมาขนาดไหนชาวหุ้นทั้งหลายต้องอย่าเพลิน เพราะเผลอๆ ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน-สิ้นปี 2569 ยาวไปสิบแปดเดือน ถึง 10 มิถุนายน 2571 จะมีปัจจัยลบแทรกเข้ามาเบรกตลาดให้หัวคะมำแบบเซอร์กิตเบรกเกอร์สักครั้งสองครั้งก็อย่าได้แปลกใจ เพราะเป็นธรรมดาของตลาดหุ้นอาณาจักรของความตื่นเต้น

7.7 ราคาที่ดิน มีแนวโน้มบูมเป็นระยะๆ บางพื้นที่ราคาจะเพิ่มสูงมากไปกับโครงการพัฒนาต่างๆของรัฐที่จะลงมือ

7.8 ทองคำ ตั้งแต่กลางกุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป จะเข้าสู่สภาวะถดถอยมากกว่าเดินหน้า เป็นกรอบระยะเวลาภายในสองปีครึ่ง

8.การเมืองปีแห่งกลุ่มขั้วอำนาจเก่าที่อาภัพ ตามลีลา

8.1 ระหว่าง 14 มกราคม-22 กุมภาพันธ์ 2569 จับตาปรากฏการณ์ไสช้างท้าชนกันในทางการเมือง หรือปรากฏการณ์หมูไปท้าราชสีห์รบ คาดว่าคงสนุกมาก

8.2 ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์-31 พฤษภาคม 2569 เกิดปรากฏการณ์ ตรึงกำลังกันในทางการเมือง ระหว่างสองฝ่าย ทำให้บรรดากองเชียร์แต่ละฝ่ายผลัดกันอึดอัดเหมือนคนท้องอืด หลังจากนั้นความอึดอัดใจจะจบลง

8.3 ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป-สิ้นปี 2569 การเลือกตั้ง หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง กลุ่มที่จะกลับมาบริหารบ้านเมืองจะเป็น กลุ่มเก่า-หน้าเดิม เห็นมาก่อนหน้านี้

8.4 ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป รัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองจะอาภัพ-แบกทุกข์-เป็นไปไม่สะดวก และ เสถียรภาพต่ำต้องต่อสู้ดิ้นรนหนัก เพราะ ปัญหาเศรษฐกิจ และ พรรคร่วมรัฐบาลรออุบัติเป็นระยะๆ ไปพร้อมกับการต้องฟันฝ่าเพื่อบริหารเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่ำรอดปลอดภัยจากแรงกดดันจากปัญหาภายในและสงครามเศรษฐกิจโลก อย่างกลางต่อยอดของเก่า อย่างสูงเริ่มนำประเทศไปสู่เป้าหมายทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือ การพัฒนาขนาดใหญ่เพื่อนำประเทศหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางปี 2572

8.5 นายกรัฐมนตรีรอบนี้จะเห็นโฉมหน้าประมาณกลางเมษายน 2569

8.6 ประมาณ 24-27 กรกฎาคม 2569 เริ่มลางบ่งบอกว่าปัญหาในคณะรัฐบาล ที่จะมีเรื่องอึดอัดคล้ายคนท้องอืด

และตั้งแต่ 28 กรกฎาคม-30 กันยายน 2569 เกิดการปรับคณะรัฐมนตรี หรือนโยบาย หรือวิธีปฏิบัติสำคัญ

8.7 ตั้งแต่ 20 ตุลาคม-สิ้นปี จะมีปรากฏการณ์ตรึงกำลังระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกฎหมายหรือนิติบัญญัติ ก่อให้เกิดความอึดอัดไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย หรือไม่อาจมีประเด็นสำคัญ รัฐบาลอาจอยู่ในสภาพพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอธิบายไม่ได้เหมือนน้ำท่วมปาก

8.8 ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน-สิ้นปี 2569 ระยะเวลา 18 เดือน คือถึง 10 มิถุนายน 2571 ฝ่ายถืออำนาจรัฐอยู่ในมือและใช้อำนาจรัฐจะต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะหากไม่จะเริ่มก่อวิกฤตการณ์ในเมืองและการเผชิญหน้ารอบใหม่หลังจากนั้น

8.9 ตลอดทั้งปีรัฐธรรมนูญเดิมยังเข้มแข็งอยู่ เพียงแต่จะมีความพยายามทบทวนเป็นเรื่องๆ เป็นระยะๆ

โดยระยะประลองกำลังกันดุเดือดเรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นช่วง 20 ตุลาคม-22 พฤศจิกายน 2569 อาจจะถึงกับคว่ำ แต่อย่าให้ถึงกับล้มรัฐธรรมนูญ

9.เกณฑ์อุบัติเหตุขนาดใหญ่ระดับร้ายแรงสูญเสียทั้งชีวิตทรัพย์สินเงินทองในเมือง ที่การเกิดจะเป็นไปอย่างคลุมเครือ มีกรอบระยะเวลาของการเกิดดังนี้

รอบที่ 1-ระหว่าง 2 เมษายน-12 พฤษภาคม 2569 (ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน)

รอบที่ 2-ระหว่าง 21 มิถุนายน-4 สิงหาคม 2569 (ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน)

รอบที่ 3-ระหว่าง 4 สิงหาคม-19 กันยายน 2569 (ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน)

รอบที่ 4-ระหว่าง 29 กันยายน-19 ตุลาคม 2569 (ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน)

10.โหราศาสตร์อุตุนิยมวิทยาปีแห่งเมืองอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำและท่วมใหญ่ ระดับน้องๆ ปี 2485

10.1 แผ่นดินไหวรอบปีนี้จะเริ่มมีให้ตั้งแต่ประมาณสิ้นเดือนพฤษภาคม-19 ตุลาคม 2569

10.2 เป็นปีของน้ำท่วมใหญ่ โดยฝนจะมาเร็วตั้งแต่ประมาณต้นมิถุนายน 2569

นอกจากร่องฝนปกติ-ลมมรสุมแล้ว จับตาพายุหมุนเขตร้อน อิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนที่จะมีต่อเมือง เป็นไปได้ทั้ง หางพายุระดับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือ ดีเปรสชัน หรือ สูงกว่า ที่จะเข้าเมืองเป็นระยะๆ

แต่สื่อพายุแรงจะเริ่มประมาณ 22 พฤศจิกายน-สิ้นปี

10.3 ตั้งแต่ประมาณ 30 พฤศจิกายน-สิ้นปี ด้วยแนวโน้มเมืองต้องเตรียมรับมือน้ำมาก และท่วมในวงกว้าง จะส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก อารมณ์ความรู้สึกอัดอัดเป็นระยะ บางพื้นที่เกิดอาการอัตคัดขาดแคลนปัจจัยสี่ สัตว์เลี้ยงเดือดร้อนล้มตาย แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ข้าวยากหมากแพง

มีช่วงคับขันทางน้ำล้อมเมืองช่วงธันวาคม

11.ตั้งแต่ 21 เมษายน-สิ้นปี 2569 จะมีเหตุการณ์ต่างชาติแปลกประหลาดมาก่อเหตุใหญ่ในเมืองแบบแปลกๆ ชวนปวดหัว

 12.ตั้งแต่ 21 เมษายน 2569-สิ้นปี-21 เมษายน 2570 เมืองมีเกณฑ์ประหารชีวิตที่จะเป็นข่าวใหญ่

13.ตั้งแต่ 19 ตุลาคม-สิ้นปี 2569 จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เมืองโด่งดังไปทั่วโลก

เน้นไปที่ระหว่างกลางธันวาคม 2569-กลางมกราคม 2570

14.ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป เริ่มต้น 18 เดือนของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเมือง-แผ่นดิน จนถึงประมาณ 10 มิถุนายน 2571 เช่นในอดีตเคยรวมกรุงเทพกับธนบุรีเป็นกรุงเทพมหานคร

15.ประมาณ 30 พฤศจิกายน-สิ้นปี 2569-ประมาณ 16 มกราคม 2570 มีปรากฏการณ์เมืองเมืองถูกบีบให้อึดอัดจนหน้าเขียวหน้าเหลืองเป็น กรรไกรหนีบ ต้องกัดฟันสู้ มาทางน้ำหรือจากน้ำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์

ซื้อขายเก้าอี้ทำป่วน!

เดินหน้าไปอีกก้าว การแต่งตั้งระดับ “นายพล” นอกวาระประจำปี ทดแทน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองจเรตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร, พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์