'ทุนผูกขาด' ปิดท่อ 'ทุนเทา'

ผู้กำกับการโรงพักใหญ่ ได้รับรางวัลตำรวจปราบปรามยาเสพติดดีเด่นของภาค โดนลดเกรดโรงพักไปอยู่อีกแห่ง แทนที่จะได้รางวัลไปอยู่โรงพักที่ใหญ่ขึ้นตามผลงาน หรือบางรายไม่ได้ขอย้าย ไม่ได้เขียนใบสมัครใจ  ก็โน้นโดนระเห็จข้ามจังหวัด ดูท่าคำสั่ง "นายพัน" วาระปี 2568 น่าจะมีคนใช้บริการ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ที่มี "สมรรถชัย วิศาลาภรณ์" อดีตประธานแผนกคดีบริหารงานบุคคล ในศาลปกครองสูงสุด เป็นประธาน หลายรายแน่ๆ ๐

ตอนได้ยิน ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี อธิบายเหตุผลเมื่อครั้ง พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผกก.หาดใหญ่ ถูกคำสั่งไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.สงขลา โดยขาดจากบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิม ช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ในเมืองหาดใหญ่ ด้วยข้อกล่าวหา "ขาดภาวะผู้นำในการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา" เพราะไม่อยู่ในพื้นที่และยังไปอยู่ในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม ทั้งที่ลูกน้องและครอบครัวติดอยู่บนแฟลตตำรวจหาดใหญ่น้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ไม่สามารถลงมาด้านล่างได้ ไม่มีอาหารกิน จน ผบ.ต่ายที่เตรียมอาหารไปแจกชาวบ้าน ต้องซื้ออาหารเพิ่มให้ลูกน้องที่เป็นผู้ประสบภัย ก็นึกในใจตอนทำบัญชีแต่งตั้ง รอง ผบก.-ผกก.วาระประจำปี 2568 "ผกก.ธรรมรัตน์" น่าจะโดนขยับไปไกล หรือไม่งั้นก็ต้องเข้าไปทำงานเอกสาร แต่พอคำสั่งออกมา "ผกก.ธรรมรัตน์" โยกไปเป็น ผกก.สะท้อน อ.นาทวี จว.สงขลา เดินทางจากหาดใหญ่ไปเพียงชั่วโมงนิดๆ แล้วส่ง พ.ต.อ.มาชา แก้วทอง ผกก.สส.จชต. อดีตรอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ มาเป็น ผกก.หาดใหญ่แทน ก็เลยร้องอ๋อ...ของจริงก็คือของจริง ๐

ถ้าทำได้จริงต้องปรบมือดังๆ ไอเดีย พล.ต.ต.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผู้การลพบุรี มอบนโยบายลูกน้อง โดยเฉพาะ "ตำรวจจราจร" ให้ใช้ดุลพินิจพิจารณาการใช้กฎหมายจราจร จากสถานเบาไปหาหนัก ให้รับฟังเหตุผลและความจำเป็นของประชาชนมาประกอบในการพิจารณา ทั้งนี้ยังรวมถึงเรื่องการแสดงกิริยาและใช้วาจาสุภาพ ถ้าผู้ใช้รถใช้ถนนกระทำผิดจริงสมควรจับก็ต้องจับ แต่ขอให้ใช้คำพูดดีๆ ทุกกรณี และอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงข้อกฎหมายด้วยเหตุและผล หากเป็นในกรณีที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน เช่น ดัดแปลงสภาพ เปลี่ยนท่อเสียงดัง ขับรถด้วยความประมาทหวาดเสียว ขับขี่แข่งขันรถในทาง รถมีควันดำ  รถบรรทุกที่ติดไฟสปอตไลต์จำนวนมาก มีการบีบแตรลมขนาดใหญ่ ก็ขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด...ถูกต้อง  หากทำได้ตามนโยบายที่ผู้การลพบุรีกำชับไว้ เชื่อว่าการโจมตีการทำงาน "ตำรวจจราจร" จะลดลง ภาพลักษณ์ตำรวจในสายตาประชาชนจะดีขึ้น เพราะตำรวจจราจรถือเป็นด่านหน้าทำงานสัมผัสประชาชนใกล้ชิดสุด ถ้าตำรวจจราจรพื้นที่อื่นนำแนวทางผู้การลพบุรีไปใช้เหมือนๆ กันก็น่าจะดี ๐

ภายหลังนายกรัฐมนตรีลงนามประกาศยกเลิก ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่ จ.สงขลา ตั้งแต่ 5 ธ.ค. 68 ทำให้ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งต่างๆ สิ้นสุดลง แต่ทาง "บิ๊กหยอย” พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ลงนามคำสั่งจัดตั้ง "ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยส่วนหน้า" หรือ ศบภ.ทท. (สน.) เพื่ออำนวยการและประสานการปฏิบัติช่วยเหลือประชาชน จากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ต่อเพื่อความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยมีตนเองเป็นผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย พร้อมมอบหมายให้ พล.อ.นพดล ปิ่นทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด คนที่ 1 และ พล.อ.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองเสนาธิการทหาร คนที่ 1 ทำหน้าที่กำกับดูแล ทั้งนี้ให้สำนักงานปลัดบัญชีทหาร และ ฝปช.ศบภ.ทท.ให้การสนับสนุนงบประมาณหน่วยขึ้นตรง บก.กองทัพไทย และเหล่าทัพ จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ตามโครงสร้าง ศบภ.ทท.(สน.) และให้กรมแผนที่ทหาร สนับสนุนอากาศยานเมื่อได้รับการประสานกรมส่งกำลังบำรุงทหาร และกรมยุทธการทหาร สนับสนุนการคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เป้าหมายคือการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ๐

พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าทำเนียบฯ ไปร่วมประชุม กอ.รมน. แล้วก็เดินทางมากองทัพบก เพื่อเป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก รับมอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร จาก สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย นำโดย พล.อ.เพิ่มศักดิ์ พวงสาโรจน์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธฯ พร้อมด้วย พล.อ.หม่อมหลวง ทศนวอมร เทวกุล อุปนายกสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธฯ และคณะ เพื่อเสริมศักยภาพภารกิจป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ได้จัดหายุทธภัณฑ์ทางทหาร ซึ่งเป็นสิ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและจำเป็นในการนำมาใช้ปกป้องอธิปไตยตลอดแนวชายแดนประเทศไทย และกองทัพบกจะรีบนำไปดำเนินการวางแผนแจกจ่ายการใช้งานให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อยืนยันว่ากองทัพภาคที่ 2 จะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังต้องเฝ้าระวังอยู่ทั้งสองฝ่าย ในช่วงก่อนการเจรจาตามขั้นตอนต่อไป

แม้ตอนนี้ฝ่ายไทย ทั้งกระทรวงการต่างประเทศและ กองทัพบก จะอยู่บนแนวรบหน้าสื่อในประเด็น “กัมพูชา” วางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิเสธการกระทำที่ผิดอนุสัญญาออตตาว่ามาตลอด ทั้งที่เป็น 1 ใน 4 เรื่องที่ฝ่ายไทยเรียกร้องในกลไกทวิภาคีอย่างแข็งขัน แต่ปมประเด็นหัวใจที่เชื่อว่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนแก่ “ระบอบฮุน เซน” น่าจะเป็นกรณีท่อน้ำเลี้ยงเงินเทาที่หดหายไปพอสมควร ด้วยมาตรการ “บีบ”เครือข่ายพันธมิตรที่ส่งต่อเงินถูกอายัดทรัพย์กันแบบทั่วหน้า แม้จะมีวาระเรื่องมหาอำนาจเข้ามากำหนดเกมอยู่บ้าง แต่สุดท้ายปลายทางก็นำไปสู่การแก้ไขได้ในระดับที่เห็นผลก็ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนอานิสงส์จะส่งต่อไปถึงการเมืองสีไหน หรือแผ่ซ่านกระทบไปทุกสี รวมถึงสีเขียวและสีกากีด้วย ก็เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยที่เป็นไปตามกรรม หรือแม้กระทั่งทุนผูกขาดที่ไม่อาจสู้ได้กับเงินบาปในการเลือกตั้ง จึงต้องแอ็กชันในเกมนี้เพื่อกลับมาคุมสภาพการเมืองอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชนจะตระหนักในเรื่องนี้ได้ดีแค่ไหนและชั่งน้ำหนักให้ถูก แต่เมื่อดูเส้นเรื่องของการประกบติดเครือข่าย “สแกมเมอร์” ฝ่ายตำรวจมีการเกาะติดมานานก่อนจะเกิดการรบที่ชายแดน แต่ไป “สะดุดตอยักษ์”เข้า ทำให้เรื่องสะดุดไปพักใหญ่ แต่ก่อนจะประกาศยึดทรัพย์ที่เกิดขึ้น ก็มีความเคลื่อนไหวคึกคักของ "บิ๊กสีกากี" และ “บิ๊กสีเขียว” แถวๆ  ราชดำเนิน ที่ส่งสัญญาณไฟเขียวเปิดฉากปิดสวิตช์เงินไหลเข้าสู่กระเป๋าเงินในช่วง 1-2 เดือนนี้ เกมนี้จึงเป็นอภิเดิมพันที่ทุกสีล้วนอยู่ในสมการด้วย.