
“กรมธนารักษ์” ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีภารกิจสำคัญทั้งในเรื่องการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ให้ใช้ จัดประโยชน์ และพัฒนาที่ราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ และจัดทำ นำออกใช้ รวมถึงรับคืนเหรียญกษาปณ์ ตลอดจนดำเนินการเกี่ยวกับเงินตรา ตามกฎหมายว่าด้วยเงินตราและงานรับจ้างทำของ อีกทั้งยังรับ-จ่าย ควบคุมเงินคงคลังให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และยังมีภารกิจดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินราคาทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตลอดจนจัดแสดง เผยแพร่ และอนุรักษ์ทรัพย์สินมีค่าของรัฐ รวมถึงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามระเบียบกรมธนารักษ์
ด้วยภารกิจที่สำคัญดังกล่าว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ จึงได้วางแผนขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกรมธนารักษ์ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ด้วยการจัดทำพิมพ์เขียว (มาสเตอร์แพลน) ซึ่งจะใช้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานของกรมธนารักษ์ ทั้งในมิติของการดูแลและพัฒนาที่ราชพัสดุ การบริหารจัดการและดูแลเรื่องเหรียญกษาปณ์ ตลอดจนการประเมินราคาที่ดิน เพื่อตอบโจทย์ในการยกระดับมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินของรัฐ ภายใต้ความสอดคล้องกับศักยภาพใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเชิงสังคม ด้านการพัฒนาเชิงสิ่งแวดล้อม และด้านการพัฒนาเชิงวัฒนธรรม
“มาสเตอร์แพลนนี้ จะเป็นกลยุทธ์กลางที่ใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการวางแผนการทำงานของกรมธนารักษ์ในแต่ละด้าน รวมถึงจะมีการดึงเทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพการทำงาน เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ครบถ้วน และรอบคอบมากขึ้นด้วย”
สำหรับมาสเตอร์แพลนในการดูแลและพัฒนาที่ดินราชพัสดุนั้น “กรมธนารักษ์” ให้ความสำคัญกับการวางแผนบริหารจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าทั้งด้านรายได้และด้านวัฒนธรรม โดยแนวทางหนึ่งคือ การเน้นการพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ เพราะที่ดินราชพัสดุบางแห่งเหมาะสำหรับการพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ ขณะที่ที่ดินราชพัสดุบางแห่งก็มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาในเชิงสังคม ส่วนบางแห่งก็เหมาะจะพัฒนาในเชิงสิ่งแวดล้อม หรือบางแห่งเหมาะจะพัฒนาในเชิงอนุรักษ์ เช่น ที่ดินราชพัสดุที่ตลาดน้อย ซึ่ง “กรมธนารักษ์” ให้ความสำคัญ และเล็งเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเหมาะที่จะพัฒนาควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่

ดังนั้น “กรมธนารักษ์” จะยึดในส่วนนี้เพื่อเป็นต้นแบบและมุ่งพัฒนาที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศให้สอดคล้องกับศักยภาพ ไม่เพียงการยกระดับที่ดินราชพัสดุสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จนไปสู่การเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ของประเทศในด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ
กรมธนารักษ์ยุคใหม่ ตามความตั้งใจ คือ การเป็นหน่วยงานที่ดูแลทรัพย์สินของรัฐ ทั้งที่ดิน เหรียญกษาปณ์ การประเมินราคาที่ดิน ดังนั้นจึงอยากยกระดับกรมธนารักษ์ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภารกิจที่เรารับผิดชอบ ไปสู่การพัฒนาทรัพย์สินของรัฐให้สามารถตอบโจทย์ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมได้อย่างมีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาร่วมกับชาวบ้านในชุมชน มุ่งอนุรักษ์ และสร้าง ตลอดจนพัฒนาชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมกับการรักษาวัฒนธรรมเก่าๆ ที่ถือเป็นการสะท้อนบทบาทของกรมธนารักษ์ที่จะทำทั้งการพัฒนาและการสร้างมูลค่าเพิ่มในหลายๆ มิติ ไม่ใช่แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของรัฐเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!

เอกนิติ ระบุว่า หากมองในมิติด้านสังคม จะพบว่าที่ดินราชพัสดุของ “กรมธนารักษ์” มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถนำมาดูแลประชาชนได้ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ดูแลประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ “กรมธนารักษ์” จะมาพิจารณาต่อยอดเรื่องคาร์บอนเครดิต การทำโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาด ที่ไม่เพียงจะตอบโจทย์ในด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ในอีกมุมยังอาจช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่ราชพัสดุได้อีกด้วย
“กรมธนารักษ์” สามารถยกระดับและต่อยอดจากการพัฒนาที่ดินราชพัสดุ เช่น อ่างเก็บน้ำธรรมดาๆ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุ หากสามารถพัฒนาต่อยอดก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้ “กรมธนารักษ์” กำลังทำโมเดลเรื่องคาร์บอนเครดิตอยู่ เพื่อที่จะให้ชุมชนเข้ามาดูแลรักษา และต่อยอดให้มีรายได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับมาสเตอร์แพลนในการบริหารจัดการและดูแลเรื่องเหรียญกษาปณ์นั้น เอกนิติ กล่าวว่า มีแผนที่จะยกระดับเหรียญกษาปณ์ให้เป็นเหรียญที่ระลึกในระดับสากล เพราะเหรียญกษาปณ์บางรุ่นเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูง ซึ่งการเริ่มต้นจะเริ่มจากการสร้างเหรียญกษาปณ์ไทยให้มีมาตรฐานตรงตามเกณฑ์ของสากลก่อน
“ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเหรียญกษาปณ์ของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลกและหมู่นักสะสมอยู่ไม่น้อย ดังนั้นกรมธนารักษ์จึงมีแผนที่จะยกระดับด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของไทย ให้ต่างชาติได้เห็นว่าวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมีความเป็นมาอย่างยาวนานอย่างไร ภายใต้การปรับให้เหรียญกษาปณ์ของไทยมีมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าจะช่วยยกระดับให้เหรียญกษาปณ์ของไทยมีมูลค่าสูงขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ ในส่วนของมาสเตอร์แพลนในด้านการประเมินราคาที่ดินนั้น เอกนิติ ยืนยันว่าจะมีการดึงเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเสริมการทำงาน โดยเฉพาะ “ดาวเทียม” เพื่อช่วยในการประเมินราคาที่ดินทั้งประเทศในแบบรายแปลง เพื่อให้ราคาประเมินที่ออกมามีความสอดคล้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด เช่น ที่ดินที่มีถนนตัดผ่าน ที่ดินตาบอด ราคาประเมินจะไม่เท่ากันอย่างชัดเจน
“เทคโนโลยีดิจิทัล” ที่ดึงเข้ามาเสริมศักยภาพการทำงานของ “กรมธนารักษ์” ในส่วนนี้ ไม่เพียงจะช่วยทำให้ราคาประเมินใกล้เคียงกับความเป็นจริงเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดิน และจะช่วยต่อยอดไปถึงการจัดเก็บภาษีที่ดินให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก ขณะที่ในมิติของประชาชน กรณีที่มีการนำที่ดินไปใช้ในการขอสินเชื่อ ก็จะมีผลที่ดีในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันมีปัญหาที่ดินทำเลดีแต่ขายได้ราคาต่ำกว่าตลาด การยกระดับตรงนี้จะทำให้ราคาประเมินใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนในการประเมินราคาที่ดินอีกด้วย โดยเฉพาะการประเมินที่ดินเพื่อค้ำประกันการขอสินเชื่อ ซึ่งปกติสถาบันการเงินจะต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญประเมิน 3 เจ้า แล้วนำราคามาเทียบกันให้ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในส่วนนี้จะได้ประโยชน์ทั้งประชาชนและสถาบันการเงินในการใช้อ้างอิงเพื่อปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกันภาครัฐก็จะสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินได้เพิ่มมากขึ้นด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอวัง!‘คนละครึ่ง พลัส เฟส2’ไปต่อไม่ได้ขัดข้อกฎหมาย
เอวัง! ‘เอกนิติ’ แจงถก กกต. แล้วยืนยันเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส2 ไม่ได้ ชี้ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็ทำไม่ได้เช่นกัน ระบุ ครม.รักษาการผูกพันงบไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ
‘เอกนิติ’แจงศก.ไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก ถกธปท.ดูแลใกล้ชิด
‘เอกนิติ’ แจงเศรษฐกิจไทยรับไม่ได้หลังบาทแข็งโป๊ก เร่งหารือแบงก์ชาติ ประสานนโยบายดูแลใกล้ชิด พร้อมมอบนโยบายคลังช่วยบรรเทา โยนส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจพิจารณานำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็น กระทุ้ง สบน. เร่งคืนหนี้ต่างประเทศ
‘เอกนิติ’กางผลงาน2เดือนกว่าปัก5เสาหลัก1ฐานรากฟื้นศก.
‘เอกนิติ’ โพสต์ขอบคุณ ‘นายกรัฐมนตรี’ เห็นความตั้งใจ-จริงใจ ให้โอกาสเข้ามาทำงาน 2 เดือนกว่าช่วยดูแลเศรษฐกิจประเทศช่วงเปลี่ยนผ่าน พร้อมขอบคุณแรงสนับสนุน-ความร่วมมือจากทุกหน่วยงานรัฐ-เอกชน ผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวงคลัง เดินหน้ามาตรการ ‘Quick Big Win’ ปัก 5 เสาหลัก 1 ฐานราก ฟื้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม
โมเดลสร้างเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ‘นิลมังกร’ แปลงร่างคนตัวเล็กให้กลายเป็นฮีโร่ของเศรษฐกิจท้องถิ่นไทย
ในโลกธุรกิจระดับสากล องค์กรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดมักถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์น” ซึ่งเน้นการเติบโตแบบทวีคูณ แต่สำหรับเมืองไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
คลัง’ลุยชงครม.เคาะTISAก่อนสิ้นปี68จ่อถอยปมลดหย่อน0.7-1.3เท่าชี้เป็นแค่ตุ๊กตา!
‘เอกนิติ’ แจงพร้อมรับฟังทุกความเห็นโครงการ TISA หนุนออมส่วนบุคคลลดหย่อนภาษีสูงสุด 8 แสนบาท ยืนยันไม่ต้องการทำให้ใครเสียประโยชน์และไม่ได้คิดผลทางการเมือง จ่อถอยปมอัตราลดหย่อนภาษี 0.7 และ 1.3 เท่า ชี้ยังเป็นแค่ตุ๊กตา เร่งเครื่องพิจารณารายละเอียดปักธงชง ครม. ภายในปี 2568 คาดเริ่มใช้ได้ในปีภาษี 2569
'ธอส.'โชว์ปล่อยกู้ใหม่ปี68พุ่ง2.15แสนล.เดินเกมคุมหนี้เสีย
‘ธอส.’ กางผลงานปล่อยกู้ใหม่ปี 68 พุ่ง 2.15 แสนล้านบาท มั่นใจสิ้นปีฉลุยตามเป้าหมายที่ 2.41 แสนล้านบาท เดินเกมคุมหนี้เสีย ตั้งเป้ากดเหลือ 5.1% จากปัจจุบัน 5.2-5.2% มองแนวโน้มสินเชื่อบ้าน ปี 69 ยังฉลุย อานิสงส์ดอกเบี้ยต่ำช่วยหนุน ประเมินบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทยังฮอต!

