
ไทยติดเชื้อ 2.6 พันราย ดับ 14 ราย ศบค. รับผู้ป่วยปอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ ยังไม่ปรับมาตรการรับสายพันธุ์ใหม่ ห่วงฉีดเข็มกระตุ้นยังไม่เข้าเป้า
30 มิ.ย.2565 - พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,695 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,690 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 1,779 ราย อยู่ระหว่างรักษา 23,931 ราย อาการหนัก 684 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 292 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 14 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 7 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,522,915 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,468,336 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,648 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีการติดเชื้อมากขึ้น แต่ตัวเลขที่ ศบค.ให้ความสำคัญคือ ผู้ติดเชื้อปอดอักเสบที่วันนี้สูงถึง 684 ราย ซึ่งสูงจาก 2 สัปดาห์ก่อน และมีทิศทางสูงขึ้น แต่ยังถือว่ายังอยู่ในคาดการณ์ตามมาตรการผ่อนคลายการถอดหน้ากากตามความสมัครใจ และการเปิดสถานบันเทิง 31 จังหวัด อย่างไรก็ตามอัตราครองเตียงและศักยภาพบุคลากรยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ โดยการครองเตียงในระดับ 2 และ 3 ส่วนใหญ่อยู่ที่ 9.9% มีเพียงบางจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จ.สมุทรปราการที่อัตราการครองเตียงเกิน 20% แต่ไม่ถึง 25% เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้าน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ 14 ราย เป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด มีถึง 6 รายไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข้ามารับ ทั้งนี้ หากดูการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น พบว่าผู้มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 46.5% ยังไม่ถึงเป้าหมาย 60% ที่วางไว้ และถ้าดูภาพรวมของทั้งประเทศประชาชนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 42.6% จึงขอให้ประชาขนเข้ามารับวัคซีนกันมากขึ้น เพราะขณะนี้มีเพียง 4 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเกินเป้าหมาย 60% ประกอบด้วย กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ และภูเก็ต นอกจากนี้ ในส่วนของการถอดหน้ากาก ศบค.ชุดเล็กได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอด แต่มาตรการดังกล่าวไม่ใช่ให้ทุกคนถอดหน้ากาก ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงยังขอให้ใส่หน้ากากตลอดเวลา และขอให้ประชาชนฟังมาตรการในแต่ละพื้นที่ที่อาจแตกต่างจากคำสั่งในส่วนกลางได้ เช่นเดียวกับผู้ให้บริการต่างๆ ที่สามารถออกประกาศเฉพาะส่วนที่รับผิดชอบได้
เมื่อถามว่า เชื้อกลายพันธุ์ BA.4 – BA.5 ที่มีการพบในปัจจุบัน มีความน่ากังวลหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่ที่พบเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ในประเทศไทยยังพบจำนวนน้อย สายพันธุ์หลักยังคงเป็นโอมิครอนอยู่ และข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกยังไม่พบว่าเชื้อดังกล่าวจะรุนแรงเท่าเดลตา แต่ยังเร็วไปที่จะสรุป ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการปรับมาตรการอะไรเพื่อรองรับเชื้อดังกล่าว หากมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 8 ก.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือนระวังโรคหลอดเลือดสมองคร่าชีวิตคนไทยสูงอันดับ 2
รบ.เตือนประชาชนระวัง 'โรคหลอดเลือดสมอง' คร่าชีวิตคนไทยสูงกว่า 39,086 คน เป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็ง แนะมุ่งสร้างศักยภาพชุมชนเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพ ด้วยแนวทางป้องกันดีกว่ารักษา
กมธ.สาธารณสุขเดือด! รุมสับประกันสังคม
'กมธ. สาธารณสุข' รุมสับ 'ประกันสังคม' ได้งบประมาณมากกว่า-รายจ่ายต่อหัวสูงกว่า 500 บาท แต่สิทธิประโยชน์ต่ำกว่า 'บัตรทอง' จี้โอนให้ 'สปสช.' ดูแลระบบประกันสุขภาพทั้งหมด
'สมศักดิ์' ฝากผู้อบรมหลักสูตรไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ช่วยป้องกันเหตุระหว่างจนท.รัฐกับประชาชน
“สมศักดิ์” วอนผู้เข้าอบรมหลักสูตรไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ช่วยป้องกันเหตุพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ
รัฐบาลพร้อมรับมือไข้หวัดใหญ่!
รัฐบาล โดย สธ.พร้อมรับมือ ไข้หวัดใหญ่ เตือนประชาชนดูแลสุขภาพ แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนลดความรุนแรงของโรค
รัฐบาลฮึ่ม 'บุหรี่ไฟฟ้า' จับสถานเดียว เตือนภัยล่าสุด 'โดเรมอน' ระบาดหนักกลุ่มเยาวชน
รัฐบาลย้ำ 'บุหรี่ไฟฟ้า' ต้องจับสถานเดียว เตือนภัยล่าสุดมาในรูปแบบ 'โดเรมอน' ระบาดหนักกลุ่มเด็กและเยาวชน ฮึ่มพื้นที่ใดละเลยโดนลงดาบแน่
ครม. เคาะงบฯ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 69 วงเงิน 2.7 แสนล้านบาท
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติกรอบงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินรวมทั้งสิ้น 274,889.82 ล้านบาท