15 ก.พ.2565 - ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักของโควิด-19ในประเทศไทย ภาพรวมพบเป็นโอมิครอน 97.2 % เดลต้า(อินเดีย) 2.8 % เมื่อแบ่งเป็นกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วตรวจพบติดเชื้อจะเป็นโอมิครอน 99.4% ที่เหลือเป็นเดลต้า และกลุ่มในประเทศไทยเป็นโอมิครอน 96.4 % มีการพบกระจายทุกจังหวัดแล้ว โดย 10 จังหวัดที่พบโอมิครอนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ หนองคาย สุราษฎร์ธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และขอนแก่น
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หลังจากมีการระบาดโอมิครอนค่อนข้างเร็วและจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ธรรมชาติไวรัสเมื่อมีการติดเชื้อซ้ำๆ และระบาดค่อนข้างกว้างมีโอกาสการกลายพันธุ์ จากเดิมที่เป็น B.1.1.529 (BA.1) เป็นสายพันธุ์หลักในหลายประเทศ ก็พบเป็นBA.2 โดยมีตำแหน่งกลายพันธุ์เหมือน BA.1 ใน 32 จุด แตกต่างกัน 28 จุด ปัจจุบันมีรายงานพบใน 57 ประเทศรวมถึงประเทศไทยที่รายงานครั้งแรกเมื่อต้นปี 25654 เริ่มพบการระบาดแทนที่สายพันธุ์หลักแล้วในบางประเทศ เช่น เดนมาร์ก อินเดีย และสวีเดน เป็นต้น ซึ่ง BA.2มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักใน 1-2 เดือน เพราะสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าBA.1 ซึ่งมีรายงานผลการศึกษาในประเทศเดนมาร์ก พบโอมิครอนสายพันธุ์BA.2 สามารถติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1แม้ว่าBA.2จะมีคุณสมบัติในการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน แต่จากข้อมูลที่มี ณ ขณะนี้ความรุนแรงของโรคไม่ต่างจากโอมิครอนสายพันธุ์หลัก และวัคซีนเข็มกระตุ้นยังคงสามารถป้องกันอาการป่วยและอาการรุนแรงได้
นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า BA.2 ข้อมูลในเรื่องการแพร่เร็วเริ่มเห็นสัญญาณอยู่บ้าง จากการเห็นเริ่มเบียดBA.1ในเดนมาร์กแปลว่าเร็วกว่าเดิม ความรุนแรงและหลบวัคซีนอาจดูจากตำแหน่งที่กลายพันธุ์ ยังไม่มีข้อแตกต่างที่มีนัยสำคัญนักเมื่อเทียบกับBA.1 ส่วนป่วยรุนแรงต้องดูในสนามจริงว่าคนติดเชื้อจะรุนแรงแค่ไหน อย่างไรก็ตามการตรวจแยกโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยBA.1และBA.2ตรวจได้ในประเทศไทย โดยวิธีการตรวจ เบื้องต้นสามารถตรวจได้ ถ้าตรวจเจอ G3339D เป็นโอมิครอน ถ้าไม่พบเป็นเดลต้า จากนั้นตรวจการหายไปของตำแหน่งHV69-70 ถ้าหายไปเป็นBA.1 ถ้าไม่หายไปเป็นBA.2 ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการสุ่มตรวจบางพื้นที่ของประเทศไทยและคนเดินทางจากต่างประเทศจำนวน 1,975 คน นำมาแยกสายพันธุ์ย่อย 567 ราย เจอเป็นBA.2 จำนวน 105 คน ประมาณ 18.5 % และBA.1 จำนวน 462 คน หรือ 81.5 % ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นของBA.2ในประเทศไทย
นพ.ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยสรุปโอมิครอนเป็นเจ้าตลาดแทนเดลต้าเกือบหมดแล้ว และเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว การที่แพร่เร็วและติดเชื้อซ้ำบ่อยๆมีโอกาสกลายพันธุ์ได้ สำหรับการเฝ้าระวังสายพันธุ์ในประเทศไทย สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน คือ BA.2 ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว พบประมาณ 2 % แต่จากการสุ่มตรวจโดยการตรวจเบื้องต้นในบางพื้นที่ พบเป็น BA.2ในสัดส่วนประมาณ 18 % แปลว่าแนวโน้มเจอBA.2มากขึ้น จะมีการเฝ้าระวังต่อไป ข้อมูลเบื้องต้นของโอมิครอนพันธุ์ย่อยBA.2 สามารถแพร่ได้เร็วกว่าBA.1แต่ความรุนแรง ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ทางกรมวิทย์จะได้ประสานกับกรมการแพทย์ เพื่อติดตามอาการทางคลินิกของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์BA.2ต่อไป และข้อมูลเท่าที่มียังบ่งชี้ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นยังช่วยป้องกันสายพันธุ์ย่อยBA.2 และลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วมสงขลา' 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย
นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า จะยึดข้อมูลที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นหลัก เพราะศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลา 16.00 มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน
'อนุทิน' เมินดรามา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอกเรื่องปกติถูกโจมตี
นายกฯ เมิน ดรามา ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอก ‘ผมมาทำงาน อยู่แวดวงการเมืองมานาน’ มองเรื่องปกติถูกโจมตี
'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า
พปชร. วืดคุมกลาโหม! ได้ 2 รมว.สธ.-แรงงาน กับ 2 รมช. 'บิ๊กป้อม' เคาะเอง
'สันติ” เผยมติ กก.บห. มอบ 'บิ๊กป้อม' เคาะชื่อ 4 รมต. ส่งนายกฯ คอนเฟิร์มได้ 2 รมว.'สธ.-แรงงาน' กับ 2 รมช. ไร้กลาโหม อารมณ์ดีนั่ง 4 เดือน เพื่อต่อยอด 4 ปี
รบ.หนุนนักวิจัยไทยสกัดสารในใบกระท่อมแทนมอร์ฟีน!
รัฐบาลสนับสนุนนักวิจัยไทยสกัดสารไมทราไจนีนในใบกระท่อม ทำสเปรย์ลดปวดต้านอักเสบแทนมอร์ฟีน คาดเริ่มจำหน่ายกลางปี 69 พร้อมสนับสนุนต่อยอดพัฒนากระท่อมเป็นยากิน


